“หลังจากที่กลับออกมาจากเหมืองเพชร ผมก็ได้เข้าเฝ้าฯ H.E.King Mswati III พระมหากษัตริย์ของสวาซิแลนด์”ข้อความจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เขียนผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ส่งถึงสาวกคนเสื้อแดงในเมืองไทยและอีกหลายประเทศรูปแบบการสื่อสารนี้เป็นการสื่อสารรูปแบบใหม่ที่ “ทักษิณ” เลือกใช้ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนและกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ตรงประเด็นที่สุดขณะเดียวกัน...การส่งข้อความเช่นนี้ยังถูกเผยแพร่ตามสื่อมวลชนทุกแขนง ซึ่งนั่นอาจเป็นความจงใจของผู้ส่งที่ต้องการให้มีการทำซ้ำหลายๆ ครั้งรูปแบบการสื่อสารเช่นนี้ไม่ได้มีแค่ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น แต่ใน รัฐบาลอภิสิทธิ์ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายคน ก็เริ่มหันมาสื่อสารผ่านทวิตเตอร์บ้างแล้วเพียงแต่การนำเสนอยังไม่ได้รับความสนใจเท่ากับอดีตนายกรัฐมนตรีหากดูจากรูปแบบการนำเสนอแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงตีโจทย์แตกในการนำเสนอข้อมูล ตั้งแต่การโพสต์ข้อมูลก่อนวันเกิดว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ ตามด้วยก๋วยเตี๋ยวเนื้อทวิตเตอร์เพื่อเช็กเรตติ้งสาวกคนเสื้อแดงเมื่อปลายเดือนสิงหาคมเกมการเมืองเช่นนี้...อาจเรียกได้ว่าเป็น “การเมืองดิจิตอล” ที่มีการตอบโต้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นขณะที่อดีตนายกฯ ใช้บริการสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อปลุกกระแสความนิยมในตัวเองแต่นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันกลับต้องเผชิญกับผลกระทบจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์เมื่อเขาต้องพบกับเกมการเมืองที่เลือกใช้ “สื่อ” เป็นเครื่องมือทางการเมือง“คลิปเสียงนายกฯ” เป็นช่องทางหนึ่งที่ถูกนำมาเป็นเกมการเมือง...เพราะคลิปเสียงที่ว่านี้ถูกส่งต่อไปยังสื่อต่างๆ และเผยแพร่
ข้อความที่มีคนอ้างว่าเป็นข้อความที่นายกรัฐมนตรีสั่งสลายการชุมนุมด้วยวิธีการรุนแรง และโยนความผิดให้กับคนเสื้อแดงแต่การเคลื่อนไหวทางการเมืองผ่านสื่อดิจิตอล ยังถูกพาดพิงไปยังบริษัทในเครือข่ายของตระกูลชินวัตรว่า อยู่เบื้องหลังการเผยแพร่คลิปเสียงครั้งนี้ขณะที่แกนนำคนเสื้อแดงอย่าง “จตุพร พรหมพันธุ์” กลับตั้งข้อสังเกตที่แตกต่างไปจากคนอื่นๆโดยสงสัยว่า “ทหาร” เป็นคนเผยแพร่ “คลิปเสียงนายกฯ” หลังจากที่รัฐบาลและทหารไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ในช่วงนี้แต่ผู้นำเหล่าทัพทั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ต่างออกมาปฏิเสธข่าวนี้พร้อมยืนยันว่า...เป็นไปไม่ได้ที่ทหารจะทำอย่างนั้นแค่ประเด็นคลิปเสียงนายกฯ ยังถูกนำมาเป็นเครื่องทางการเมืองที่น่ากลัว เพราะคลิปที่ว่านี้สร้างความไม่พอใจให้กับ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นอย่างมากถึงกลับอดรนทนไม่ไหว ถามตรงๆ เอากับ พ.ต.ท.สมชายเพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ระหว่างยื่นหนังสือต่อนายกฯ ระหว่างประชุมสภาเพื่อพิจารณางบประมาณปี 2553ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์...นำพยานหลักฐานกรณีการเผยแพร่คลิปเสียงของนายอภิสิทธิ์ ที่พรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่า...เป็นการตัดต่อคลิปเสียงเพื่อให้ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ยื่นต่อ กกต.เพื่อพิจารณายุบพรรคเพื่อไทยในเรื่องประธาน กกต. “อภิชาต สุขัคคานนท์” รับลูกไว้แล้วพร้อมระบุว่า...ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด ต้องรอดูเอกสารจากผู้ร้องว่าจะร้องในความผิดฐานใดจึงยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า...แนวทางของ กกต.จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งเราจะต้องดูเจตนาของการเผยแพร่คลิปดังกล่าวว่า มีจุดประสงค์เพื่อใส่ร้ายกันหรือไม่แม้ตำรวจจะให้ประกันตัว 2 พนักงานบริษัท เอสซี แอสเสทคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่เผยแพร่คลิปเสียงตัดต่อของนายกฯแต่เรื่องนี้กลับสร้างความไม่พอใจให้กับเขยตระกูลชินวัตร“สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี“คนในตระกูลชินวัตรเป็นคนมีคุณธรรม รักความสงบ หากรัฐบาลจะกล่าวหาใครควรมีหลักฐาน ไม่ควรใส่ร้ายผู้อื่น และผมยังไม่เคยคุยเรื่องดังกล่าวนี้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเชื่อว่าเป็นเพียงเรื่องที่เกิดขึ้นท่ามกลางความสนใจของคนในบ้านเมืองเท่านั้น”ดูเหมือนสงครามสื่อระหว่าง 2 ขั้วการเมืองจะยังไม่จบลงง่ายๆอย่างที่คิด เพราะเวลานี้เจ้าพ่อสื่ออย่าง “ตระกูลชินวัตร” กำลังถูกย้อนเกล็ดเพราะสื่อในมือในยุคที่เรียกว่า “การเมืองดิจิตอล” เช่นเดียวกัน ■