ในยามใดใจท้อไม่ต่อสู้ที่มา คอลัมน์ ร้อยรักอักษราเป็นอาวุธเรื่อง นสพ.ไทยเรดนิวส์ ฉบับที่ 23
กับศัตรูเหมือนมะเร็งเร่งอาสัญ
เมื่อเหนื่อยเกินเดินไกลในไพรวัลย์
คอยนับวันนับคืนไม่รื่นรมย์
ยามนภาฟ้ามืดดาวชืดแสง
ในยามแล้งแห้งผากจนปากขม
ในเวลาหน้าชื่นแต่อกตรม
ในเวลาสังคมไม่สมควร
ยามเช่นนี้มีหนึ่งที่พึ่งได้
เหมือนดวงไฟจากสวรรค์ยามปั่นป่วน
เป็นจิตทองของแท้ไม่แปรปรวน
เดินท้าดวลสวนอำมาตย์ว่าชาติใคร
นั่นแหละนาม “นวมทอง” ทองของชาติ
ชีพประกาศสละทิ้งจึงยิ่งใหญ่
เสรีชนคนแท้ไม่แพ้ไฟ
ประกาศไว้ศักดาประชาชน
ขับรถชนภาพทหารสัญลักษณ์
เสมือนหลักปักเด่นให้เป็นผล
ประกาศกู่ก้องหล้าในสากล
เราล้วนคนเสรีไม่มีกลัว
รอดแล้วมาปลงชีพอย่างชายชาติ
คำประกาศคนไทยก้องไปทั่ว
ลุงนวมทองจากไปก็แต่ตัว
แต่ทิ้งหัวใจไว้ในใจเรา
จดหมายลุงนวมทองของมีค่า
ชาวประชาธิปไตยไม่มีเหงา
หลักการลุงนวมทองก็ของเรา
อำมาตย์เขายึดครองประลองกัน
ประเทศนี้ยกย่องแต่คนใหญ่
แล้วประชาชนไปไหนหมดเล่าท่าน
คนเดินดินธรรมดาสารพัน
ไม่มีวันหวังบุญอย่างขุนนาง
ลุงนวมทองจากไปจึงได้คิด
ประทีปติดประกายไฟไสวสว่าง
เพื่อประชาธิปไตยในเส้นทาง
เรามวลชนร่วมวางระหว่างกัน
ไม่นั่งรออัศวินแม้สีไหน
ไม่ต้องรอเทพใดมาเข้าฝัน
ไม่ต้องรอใครอื่นคอยตื้นตัน
จงสร้างสรรค์รัฐไทยด้วยใจตน
ลุงนวมทองตัวอย่างท่านวางไว้
ฝ่ายขุนนางว่าอย่างไรใครจะสน
รัฐของคน โดยคน และเพื่อคน
เพราะมวลชนคนจริงคือสิ่งเดียว
ลุงนวมทองจากไปคือกายจาก
ใจท่านฝากโจทย์ไว้ไม่โดดเดี่ยว
ประชาชนคนแท้ไม่แดเดียว
ให้ผูกเกลียวเคี่ยวสมานเพื่อบ้านเมือง
ไว้อาลัย...นวมทอง...ทองอร่าม
เกียรติยศงดงามนามกระเดื่อง
มาร่วมสู้ฟันฝ่ารักษาเมือง
ให้รุ่งเรืองเฟื่องฟุ้ง “ทุ่งนวมทอง”.
จักรภพ เพ็ญแข
--------------------------------------------------------------
หมายเหตุ: คุณจักรภพฯ ได้แต่งและอ่านบทกลอนชิ้นนี้ครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เวลาประมาณเที่ยงวัน เพื่อแสดงความระลึกถึง “ลุงนวมทอง ไพรวัลย์” ผ่านทางเว็ปไซต์เสรีชน