บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

พฤศจิกาฯเดือด "ทักษิณ"เร่งเกม"ยุบสภา" รัฐบาลเดินเครื่องตอบโต้

ที่มา มติชน

วิเคราะห์




การเมืองไทยยังคงครองแชมป์ความอ่อนไหว

เมื่อศาลฎีกาประเทศแคนาดาตัดสินเด็ดขาดให้ส่งตัวนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี กลับประเทศไทย เพื่อดำเนินคดีในข้อหาทุจริตเงินธนาคารในช่วงนั้น

การเมืองไทยก็เริ่มวิตกกังวล

เหตุเพราะนายราเกซคนนี้ ทำงานคู่กับนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) และมีสายโยงใยกับนักการเมืองหลากหลาย

รวมทั้งนักการเมืองกลุ่ม 16 ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองที่มีนายเนวิน ชิดชอบ เป็นแกนนำ

นายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งเป็นคนคนเดียวกับที่เป็นแกนนำพรรคภูมิใจไทยในปัจจุบัน

ดังนั้น เมื่อปรากฏข่าวว่า ศาลฎีกาประเทศแคนาดาตัดสินให้ส่งตัวนายราเกซ สักเสนา กลับไทย แวดวงการเมืองก็วิจารณ์กันให้แซด

ถ้านายราเกซอ้าปากซัดทอดใครต่อใครที่มีชีวิตอยู่ในขณะนี้ ผลที่เกิดขึ้นก็ย่อมส่งแรงสะเทือนต่อการเมืองไทย

แต่การกลับมาของนายราเกซ ยังร้อนแรงสู้เกมการเมืองภายในไทยที่กำลังห้ำหั่นกันอยู่ในขณะนี้ยังไม่ได้

เมื่อปรากฏออกมาว่า เดือนพฤศจิกายน พลพรรคคนเสื้อแดงเริ่มเกาะกลุ่มเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง โดยมีกำหนดนัดชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

ดีเดย์กันว่า ก่อนสิ้น "ปีวัว" ขึ้นสู่ "ปีขาล" จะคว่ำรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ให้จงได้

ความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงดังกล่าว สอดรับกับความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ผันตัวเองไปเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย

พล.อ.ชวลิตยังคงเดินหน้าพบปะผู้นำประเทศรอบๆ ไทย หลังจากใช้ยุทธวิธี "ยืมปาก" สมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประจานประเทศไทยสำเร็จมาแล้ว

ครั้งนั้น พล.อ.ชวลิตเดินทางไปประเทศกัมพูชา แต่ครั้งนี้ พล.อ.ชวลิตมีกำหนดเดินทางไปประเทศมาเลเซีย

ไม่รู้ว่าการเดินทางคราวนี้จะ "ปล่อยของ" อะไรมาป่วนการเมืองกันอีก

การเคลื่อนไหวของ พล.อ.ชวลิตครานี้ถูกมองว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ต้องการให้ประเทศเพื่อนบ้านร่วมกดดัน ให้รัฐบาลไทยประนีประนอมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ

เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณถูกการเมืองกลั่นแกล้ง

เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่ระดมเพื่อขับไล่รัฐบาล พร้อมโยนข้อกล่าวหา "รัฐบาลจากอำนาจเผด็จการ" และ "กลั่นแกล้ง พ.ต.ท.ทักษิณ" เป็นประเด็นแห่งการเคลื่อนไหว

ดูเหมือนว่าเกมการเมืองของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มปรากฏอย่างชัดแจ้งแล้วว่า ต้องการการเลือกตั้งใหม่ให้เร็วที่สุด เพราะมั่นใจว่า หากรัฐบาลยุบสภา และมีการเลือกตั้งใหม่ขึ้นมา พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน ทางฟากฝั่งรัฐบาลเองก็มองเกมการเมืองออก

แม้นายอภิสิทธิ์จะมั่นใจว่าหากมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคประชาธิปัตย์จะได้กลับมาครองอำนาจ แต่ในระยะเวลาเช่นนี้ รัฐบาลจะยุบสภาไปทำไม

ยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์จึงยืนอยู่ตรงกันข้ามกับยุทธศาสตร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ

การเมืองในช่วงเดือนพฤศจิกายนจึงทวีความรุนแรง

แม้การถอดยศและริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นไปตามกฎระเบียบ และได้รับการยืนยันจากปากคำนายกรัฐมนตรีว่าไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่ข่าวการถอดยศและริบเครื่องราชฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แพร่กระจายออกมาในห้วงเวลานี้ ย่อมสะท้อนภาพแห่งการโต้ตอบศอกกลับให้แลเห็น

ยิ่งประจวบเหมาะกับคำสั่งปัดฝุ่นคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ที่เคยใช้เมื่อสมัยปี 2529 ตอนที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี

เหมือนกับการระดมพลระดับ "คีย์แมน" ของแต่ละหน่วยงานราชการมาเพื่อทำ "สงครามข่าวสาร"

วันนี้เป้าหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชัดเจน

นั่นคือ เร่งเกมเพื่อกดดันให้ยุบสภา และทวงอำนาจกลับคืน

วันนี้เป้าหมายของรัฐบาลก็ชัดแจ้ง

นั่นคือ ไม่ทำตามความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ

เมื่อเป้าหมายไม่สามารถปรองดองกันได้ การเมืองก็มิอาจสงบนิ่ง

ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป การเมืองไทยจะยิ่งร้อนแรง

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker