คอลัมน์ เหล็กใน
"ความจริงจากข่าวสด ความตาย 90 ศพ"
คำโปรยหน้าปกหนังสือเฉพาะกิจ บันทึกพฤษภา"53 ซึ่งทีมงาน "ข่าวสด" รวบรวมเหตุการณ์และภาพนิ่งตั้งแต่เริ่มการชุมนุมของคนเสื้อแดง กระทั่งถึงวันสุดท้าย ที่ทหารถืออาวุธปืนเข้าสลายการชุมนุม จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
พลิกอ่านตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้ายแบบรวดเดียว
แม้เวลาจะผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว แต่ยังรู้สึกสะทกสะท้อนใจเมื่อได้อ่านและเห็นภาพ
ไม่น่าเชื่อว่านี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย และเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร
เป็นความจริงที่เกิดขึ้นและต้องบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ว่าเป็นอีกครั้งที่คนไทยต้องเลือดนองแผ่นดินด้วยฝีมือของคนไทยด้วยกันเอง
ผู้มีอำนาจ หรือกลุ่มเสื้อสีอื่นๆ รวมไปถึงผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม อาจจะมีมุมมองที่แปลกแยกออกไปในความจริงที่เกิดขึ้นนี้
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า 90 ศพที่สูญเสียไปล้วนแต่พี่น้องคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น
และยิ่งเจ็บปวดกว่านั้นเมื่อตระหนักว่า "ฆาตกร" ก็เป็นคนไทยเช่นกัน
ที่น่าสนใจและดูเหมือนสังคมโดยองค์รวมจักไม่ค่อยได้รับรู้นัก คือคำให้การของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์
ในที่นี้มีหมายรวมถึงผู้ชุมนุม ประชาชนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเพียงแต่ไปอยู่ผิดที่ผิดทาง และหน่วยกู้ภัยที่เข้าไปเพื่อช่วยชีวิตคนโดยไม่สนใจเรื่องการเมืองหรือสี
แต่ละคนพบกับความสูญเสียที่แตกต่างกันไป บางคนเจอกับตัวเอง บางคนสูญเสียญาติพี่น้อง หรือเพื่อน
ทว่าสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือยังไม่มีหน่วยงานใด หรือองค์กรใดสนใจที่จะไต่ถาม หรือสืบเสาะหาข้อเท็จจริง
ว่าที่ตายๆ เจ็บๆ จำนวนมากมายนั้นเกิดจากฝีมือของฝ่ายใด และใครต้องรับผิดชอบ รวมทั้งจะหาทางป้องกันได้อย่างไรในอนาคต
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่เคยออกมาโหวกเหวกเมื่อสมัยอีกสีหนึ่งออกมาอาละวาด กลายเป็นพร้อมใจกันเป็นใบ้ ตาบอด กันไปหมด
ดูเหมือนองค์กรระหว่างประเทศ จะใส่ใจในชีวิตคนไทยมากกว่าคนไทยด้วยกันเองเสียอีก
ดูเหมือนตอนนี้ที่พอจะคาดหวังได้บ้างคือคณะกรรมการอิสระ ที่แม้รัฐบาลจะเป็นคนตั้งขึ้นซึ่งมีนายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุดเป็นประธาน
หากได้ตัวคณะกรรมการจนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ได้เพียงหวังว่าจะพอมีที่ มีทาง มีเวที ให้ผู้สูญเสียหรือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้บ่งบอกข้อเท็จจริงออกสู่สาธารณชนได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
ไม่ใช่คนที่มีข้อมูลก็ถูกปิดปาก คนในสังคมก็ถูกปิดหู ปิดตา
เหมือนที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ในตอนนี้!?
คำโปรยหน้าปกหนังสือเฉพาะกิจ บันทึกพฤษภา"53 ซึ่งทีมงาน "ข่าวสด" รวบรวมเหตุการณ์และภาพนิ่งตั้งแต่เริ่มการชุมนุมของคนเสื้อแดง กระทั่งถึงวันสุดท้าย ที่ทหารถืออาวุธปืนเข้าสลายการชุมนุม จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
พลิกอ่านตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้ายแบบรวดเดียว
แม้เวลาจะผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว แต่ยังรู้สึกสะทกสะท้อนใจเมื่อได้อ่านและเห็นภาพ
ไม่น่าเชื่อว่านี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย และเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร
เป็นความจริงที่เกิดขึ้นและต้องบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ว่าเป็นอีกครั้งที่คนไทยต้องเลือดนองแผ่นดินด้วยฝีมือของคนไทยด้วยกันเอง
ผู้มีอำนาจ หรือกลุ่มเสื้อสีอื่นๆ รวมไปถึงผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม อาจจะมีมุมมองที่แปลกแยกออกไปในความจริงที่เกิดขึ้นนี้
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า 90 ศพที่สูญเสียไปล้วนแต่พี่น้องคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น
และยิ่งเจ็บปวดกว่านั้นเมื่อตระหนักว่า "ฆาตกร" ก็เป็นคนไทยเช่นกัน
ที่น่าสนใจและดูเหมือนสังคมโดยองค์รวมจักไม่ค่อยได้รับรู้นัก คือคำให้การของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์
ในที่นี้มีหมายรวมถึงผู้ชุมนุม ประชาชนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเพียงแต่ไปอยู่ผิดที่ผิดทาง และหน่วยกู้ภัยที่เข้าไปเพื่อช่วยชีวิตคนโดยไม่สนใจเรื่องการเมืองหรือสี
แต่ละคนพบกับความสูญเสียที่แตกต่างกันไป บางคนเจอกับตัวเอง บางคนสูญเสียญาติพี่น้อง หรือเพื่อน
ทว่าสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือยังไม่มีหน่วยงานใด หรือองค์กรใดสนใจที่จะไต่ถาม หรือสืบเสาะหาข้อเท็จจริง
ว่าที่ตายๆ เจ็บๆ จำนวนมากมายนั้นเกิดจากฝีมือของฝ่ายใด และใครต้องรับผิดชอบ รวมทั้งจะหาทางป้องกันได้อย่างไรในอนาคต
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่เคยออกมาโหวกเหวกเมื่อสมัยอีกสีหนึ่งออกมาอาละวาด กลายเป็นพร้อมใจกันเป็นใบ้ ตาบอด กันไปหมด
ดูเหมือนองค์กรระหว่างประเทศ จะใส่ใจในชีวิตคนไทยมากกว่าคนไทยด้วยกันเองเสียอีก
ดูเหมือนตอนนี้ที่พอจะคาดหวังได้บ้างคือคณะกรรมการอิสระ ที่แม้รัฐบาลจะเป็นคนตั้งขึ้นซึ่งมีนายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุดเป็นประธาน
หากได้ตัวคณะกรรมการจนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ได้เพียงหวังว่าจะพอมีที่ มีทาง มีเวที ให้ผู้สูญเสียหรือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้บ่งบอกข้อเท็จจริงออกสู่สาธารณชนได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
ไม่ใช่คนที่มีข้อมูลก็ถูกปิดปาก คนในสังคมก็ถูกปิดหู ปิดตา
เหมือนที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ในตอนนี้!?