รายงานพิเศษ
คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) เขต 6 กรุงเทพมหานคร (คลองสามวา บึงกุ่ม คันนา ยาว) แทน นายทิวา เงินยวงส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเสียชีวิต
เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. ถึง 2 ก.ค. ที่สำนักงานเขตคลองสามวา
วันแรกของการเปิดรับสมัคร มีผู้สมัคร 5 คน ผลการจับสลากหมายเลขประ จำตัวผู้สมัคร
นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิ ปัตย์ ได้เบอร์ 1
นายนพดล ชัยฤทธิเดช ผู้สมัครจากพรรคชาติสามัคคี ได้เบอร์ 2 นายอนุสรณ์ สมอ่อน ผู้สมัครจากพรรคความหวังใหม่ ได้เบอร์ 3
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ได้เบอร์ 4
และ นายชูชาติ พิมกา ผู้สมัครจากพรรคแทนคุณแผ่นดิน ได้เบอร์ 5
ที่เป็นมวยคู่เอก ถูกจับตามองมากที่สุดคือ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.
กับ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. และผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศ
หลังรับสมัครทั้งสองได้กล่าวเปิดใจถึงแนวทางการสู้ศึกในสนามเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25 ก.ค.นี้
ก่อแก้ว พิกุลทอง
ผู้สมัครส.ส. พรรคเพื่อไทย
วันนี้รู้สึกดีที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ล่ามโซ่ และได้เดินทางมาพร้อมเพื่อนๆ
การที่ผมตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.เขต 6 กทม. ครั้งนี้เพื่อเป็นตัวแทนเข้าไปต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้มีการใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งบ้านเมือง
เพราะขณะนี้จะเห็นว่าบ้านเมืองเราไม่ได้เป็นไปตามประชาธิปไตย
การเลือกตั้งครั้งนี้รัฐบาลได้ประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียวเพราะยังคงการประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
ทั้งนี้ ผมมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ดังนั้น หากประชาชนต้องการประชาธิปไตยอย่างแท้จริงและมาตรฐานเดียวให้เลือกผม นายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย
หากเห็นว่าผู้นำประเทศของเราไม่ได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่
องค์กรกลางและองค์กรอิสระไม่ได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพและไม่ได้สร้างความปรองดองประชาชน ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความปลอดภัย
เพราะที่ผ่านมาไม่มีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ชัดเจน หากปล่อยไปผู้นำประเทศและรัฐบาล ก็จะกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าและจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำ
หากประชาชนต้องการให้มีความอยุติธรรมเกิดขึ้นในบ้านเมืองขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ แต่หากต้องการให้ความยุติธรรมคืนมา ขอให้เลือกผม และพรรคเพื่อไทย
ผมมีจุดยืนชัดเจนที่ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อเข้ามาแก้ไขวิกฤตให้ประเทศชาติกลับสู่ภาวะปกติ และให้สังคมอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง แม้ผมจะถูกขังตัดอิสรภาพก็ตาม
ตอนแรกผมอยากได้เบอร์ 1 เพราะเป็นสัญลักษณ์ว่าผมถูกควบคุมตัวอยู่ที่แดน 1 แต่ผมก็พอใจที่หมายเลข 4
หลังจากนี้ ผมประสานกับเจ้าหน้าที่พรรคให้ช่วยไปปล่อยปลาดุก 9 ตัว ปลาไหล 5 ตัวและกบ 2 ตัว เนื่องจากไม่สามารถไปปล่อยเองได้เพราะต้องกลับไปยังเรือนจำตามที่ศาลมีคำสั่ง
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ทนายความไปยื่นขอประกันตัว เพื่อจะได้ออกมาหาเสียงตามกระบวนการประชาธิปไตยและจะได้ใกล้ชิดประชาชน
แต่หากศาลไม่อนุญาต ผมอาจจะเขียนข้อความแล้วส่งมาให้แกนนำและผู้สนับสนุนนำไปใช้หาเสียงต่อไป เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้เข้าใจแนวคิดของผมผ่านข้อความ
เพราะการลงสมัครครั้งนี้ถือเป็นการแข่งขันเชิงสัญลักษณ์ตามระบอบประชาธิปไตย
ดังนั้น ขอให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิกันมากๆ และขอให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่เลือกตั้งจะได้หาเสียงอย่างเท่าเทียมกัน
เพราะขณะนี้จะเห็นว่ารัฐบาลได้ประโยชน์จากการคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้
พนิช วิกิตเศรษฐ์
ผู้สมัครส.ส. พรรคประชาธิปัตย์
ไม่ได้หนักใจที่ต้องลงพื้นที่หาเสียงในช่วงที่ยังมีการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่คงต้องระมัดระวัง แม้จะเชื่อว่าประชาชนในพื้นที่เขต 6 จะไม่มีปัญหา
แต่ต้องระมัดระวังคนนอกพื้นที่เข้ามาสร้างสถาน การณ์
หากมีการปราศรัยโจมตีก็มีหลายหน่วยงานที่จะดูแลในเรื่องกฎหมาย หากปราศรัยอยู่ในกรอบ ผมก็ยินดีและขอเรียกร้องให้ทุกพรรคนำเสนอนโยบายแข่งกันดีกว่า เพราะนโยบายเป็นเรื่องสำคัญ และอย่าพูดอะไรที่ไม่เกี่ยวกับประชาชน ผมจะไม่โจมตีฝั่งตรงข้าม
ผมได้หมายเลข 1 คือหนึ่งเดียว เบอร์หนึ่งแห่งเดียวและเป็นเบอร์หนึ่งแห่งชัยชนะ หลังจากนี้จะลงพื้นที่พร้อมทุกฝ่ายในพรรค โดยจะแสดงให้เห็นว่านโยบายเราสัมผัสได้จริง
ก่อนหน้านี้ได้หาเสียงไปบ้างแล้ว ได้รับการตอบรับดี ส่วนใหญ่ต้องการเห็นความปรองดอง และผมจะผลักดันเรื่องแผนปรองดอง หลังจากนี้จะลงพื้นที่ทันที
การที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศจะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์นั้น ส่วนตัวไม่มีผลที่จะให้เกิดความมั่นใจ มากขึ้นหรือไม่ เพราะทุกคนสามารถให้การสนับสนุนผู้สมัครได้อยู่แล้ว ส่วนใครจะมาสนับสนุนผมก็ขอขอบคุณทุกคน
นโยบายการหาเสียงจะเน้นการลงพื้นที่เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด
นอกจากนี้จะจัดประชุมและรับฟังความคิดเห็นและปัญหาของผู้นำชุมชนต่างๆ แบบกลุ่มย่อย เช่น คณะกรรม การชุมชน บ้านจัดสรร ศาสนา ขณะเดียวกันจะขึ้นรถแห่แนะนำตัวเอง
การเข้าถึงชุมชนทำให้ประชาชนได้เห็นแนวทาง ของพรรค
รวมถึงผมจะนำเสนอประสบการณ์ที่เคยสัมผัสพื้นที่นี้มาสมัยเป็นผู้บริหารกทม. และงานระดับชาติ
ส่วนการปราศรัยจะเน้นปราศรัยย่อยเป็นจุดๆ ในชุมชน สำหรับการปราศรัยใหญ่คิดว่าจะมีไม่เกิน 2 ครั้งในช่วงท้ายของการหาเสียง
ส่วนที่คู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทยอาจทำซีดีแจกเนื่องจากนายก่อแก้ว พิกุลทอง ออกมาหาเสียงไม่ได้นั้น
สำหรับผมไม่มีการทำซีดีแจกเพราะการแจกสื่อพวกนี้เป็นเรื่องของทุน เรามองว่าถ้าเป็นเรื่องนโยบายก็น่าทำ แต่ถ้าเป็นการหาเสียงใส่ร้ายกันก็ไม่ควร ทั้งนี้ กกต.ต้องเข้าไปตรวจสอบด้วย
ผมมีความพร้อมมาก เพราะเคยทำงานมีประสบ การณ์ในพื้นที่มาก่อน แต่ก็จะไม่ประมาท
ส่วนเรื่องความปลอดภัยช่วงหาเสียงก็ต้องระวังตัวเองแต่ก็ไม่ได้กลัว
แต่จากกรณีที่กลุ่มกองเชียร์พรรคเพื่อไทยมาตะโกนขับไล่แล้วยังทุบรถนั้น ยอมรับว่าตกใจ การลงพื้นที่หาเสียง ผมคงต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยด้วย รวมทั้งต้องดูแลผู้มาร่วมงานไม่ว่าอาสาสมัคร จนถึงผู้ใหญ่ในพรรคที่มาเดินหาเสียง
ขอร้องคนที่คิดทำ ขอให้คิดให้ดี เพราะสังคมทั้งในและต่างประเทศจับตาดูอยู่มากว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะโปร่งใส มีความปลอดภัยในการหาเสียงหรือไม่
ส่วนตัวคงต้องระมัดระวัง ไม่ประมาทและลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. ถึง 2 ก.ค. ที่สำนักงานเขตคลองสามวา
วันแรกของการเปิดรับสมัคร มีผู้สมัคร 5 คน ผลการจับสลากหมายเลขประ จำตัวผู้สมัคร
นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิ ปัตย์ ได้เบอร์ 1
นายนพดล ชัยฤทธิเดช ผู้สมัครจากพรรคชาติสามัคคี ได้เบอร์ 2 นายอนุสรณ์ สมอ่อน ผู้สมัครจากพรรคความหวังใหม่ ได้เบอร์ 3
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ได้เบอร์ 4
และ นายชูชาติ พิมกา ผู้สมัครจากพรรคแทนคุณแผ่นดิน ได้เบอร์ 5
ที่เป็นมวยคู่เอก ถูกจับตามองมากที่สุดคือ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.
กับ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. และผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศ
หลังรับสมัครทั้งสองได้กล่าวเปิดใจถึงแนวทางการสู้ศึกในสนามเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25 ก.ค.นี้
ก่อแก้ว พิกุลทอง
ผู้สมัครส.ส. พรรคเพื่อไทย
วันนี้รู้สึกดีที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ล่ามโซ่ และได้เดินทางมาพร้อมเพื่อนๆ
การที่ผมตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.เขต 6 กทม. ครั้งนี้เพื่อเป็นตัวแทนเข้าไปต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้มีการใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งบ้านเมือง
เพราะขณะนี้จะเห็นว่าบ้านเมืองเราไม่ได้เป็นไปตามประชาธิปไตย
การเลือกตั้งครั้งนี้รัฐบาลได้ประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียวเพราะยังคงการประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
ทั้งนี้ ผมมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ดังนั้น หากประชาชนต้องการประชาธิปไตยอย่างแท้จริงและมาตรฐานเดียวให้เลือกผม นายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย
หากเห็นว่าผู้นำประเทศของเราไม่ได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่
องค์กรกลางและองค์กรอิสระไม่ได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพและไม่ได้สร้างความปรองดองประชาชน ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความปลอดภัย
เพราะที่ผ่านมาไม่มีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ชัดเจน หากปล่อยไปผู้นำประเทศและรัฐบาล ก็จะกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าและจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำ
หากประชาชนต้องการให้มีความอยุติธรรมเกิดขึ้นในบ้านเมืองขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ แต่หากต้องการให้ความยุติธรรมคืนมา ขอให้เลือกผม และพรรคเพื่อไทย
ผมมีจุดยืนชัดเจนที่ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อเข้ามาแก้ไขวิกฤตให้ประเทศชาติกลับสู่ภาวะปกติ และให้สังคมอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง แม้ผมจะถูกขังตัดอิสรภาพก็ตาม
ตอนแรกผมอยากได้เบอร์ 1 เพราะเป็นสัญลักษณ์ว่าผมถูกควบคุมตัวอยู่ที่แดน 1 แต่ผมก็พอใจที่หมายเลข 4
หลังจากนี้ ผมประสานกับเจ้าหน้าที่พรรคให้ช่วยไปปล่อยปลาดุก 9 ตัว ปลาไหล 5 ตัวและกบ 2 ตัว เนื่องจากไม่สามารถไปปล่อยเองได้เพราะต้องกลับไปยังเรือนจำตามที่ศาลมีคำสั่ง
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ทนายความไปยื่นขอประกันตัว เพื่อจะได้ออกมาหาเสียงตามกระบวนการประชาธิปไตยและจะได้ใกล้ชิดประชาชน
แต่หากศาลไม่อนุญาต ผมอาจจะเขียนข้อความแล้วส่งมาให้แกนนำและผู้สนับสนุนนำไปใช้หาเสียงต่อไป เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้เข้าใจแนวคิดของผมผ่านข้อความ
เพราะการลงสมัครครั้งนี้ถือเป็นการแข่งขันเชิงสัญลักษณ์ตามระบอบประชาธิปไตย
ดังนั้น ขอให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิกันมากๆ และขอให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่เลือกตั้งจะได้หาเสียงอย่างเท่าเทียมกัน
เพราะขณะนี้จะเห็นว่ารัฐบาลได้ประโยชน์จากการคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้
พนิช วิกิตเศรษฐ์
ผู้สมัครส.ส. พรรคประชาธิปัตย์
ไม่ได้หนักใจที่ต้องลงพื้นที่หาเสียงในช่วงที่ยังมีการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่คงต้องระมัดระวัง แม้จะเชื่อว่าประชาชนในพื้นที่เขต 6 จะไม่มีปัญหา
แต่ต้องระมัดระวังคนนอกพื้นที่เข้ามาสร้างสถาน การณ์
หากมีการปราศรัยโจมตีก็มีหลายหน่วยงานที่จะดูแลในเรื่องกฎหมาย หากปราศรัยอยู่ในกรอบ ผมก็ยินดีและขอเรียกร้องให้ทุกพรรคนำเสนอนโยบายแข่งกันดีกว่า เพราะนโยบายเป็นเรื่องสำคัญ และอย่าพูดอะไรที่ไม่เกี่ยวกับประชาชน ผมจะไม่โจมตีฝั่งตรงข้าม
ผมได้หมายเลข 1 คือหนึ่งเดียว เบอร์หนึ่งแห่งเดียวและเป็นเบอร์หนึ่งแห่งชัยชนะ หลังจากนี้จะลงพื้นที่พร้อมทุกฝ่ายในพรรค โดยจะแสดงให้เห็นว่านโยบายเราสัมผัสได้จริง
ก่อนหน้านี้ได้หาเสียงไปบ้างแล้ว ได้รับการตอบรับดี ส่วนใหญ่ต้องการเห็นความปรองดอง และผมจะผลักดันเรื่องแผนปรองดอง หลังจากนี้จะลงพื้นที่ทันที
การที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศจะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์นั้น ส่วนตัวไม่มีผลที่จะให้เกิดความมั่นใจ มากขึ้นหรือไม่ เพราะทุกคนสามารถให้การสนับสนุนผู้สมัครได้อยู่แล้ว ส่วนใครจะมาสนับสนุนผมก็ขอขอบคุณทุกคน
นโยบายการหาเสียงจะเน้นการลงพื้นที่เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด
นอกจากนี้จะจัดประชุมและรับฟังความคิดเห็นและปัญหาของผู้นำชุมชนต่างๆ แบบกลุ่มย่อย เช่น คณะกรรม การชุมชน บ้านจัดสรร ศาสนา ขณะเดียวกันจะขึ้นรถแห่แนะนำตัวเอง
การเข้าถึงชุมชนทำให้ประชาชนได้เห็นแนวทาง ของพรรค
รวมถึงผมจะนำเสนอประสบการณ์ที่เคยสัมผัสพื้นที่นี้มาสมัยเป็นผู้บริหารกทม. และงานระดับชาติ
ส่วนการปราศรัยจะเน้นปราศรัยย่อยเป็นจุดๆ ในชุมชน สำหรับการปราศรัยใหญ่คิดว่าจะมีไม่เกิน 2 ครั้งในช่วงท้ายของการหาเสียง
ส่วนที่คู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทยอาจทำซีดีแจกเนื่องจากนายก่อแก้ว พิกุลทอง ออกมาหาเสียงไม่ได้นั้น
สำหรับผมไม่มีการทำซีดีแจกเพราะการแจกสื่อพวกนี้เป็นเรื่องของทุน เรามองว่าถ้าเป็นเรื่องนโยบายก็น่าทำ แต่ถ้าเป็นการหาเสียงใส่ร้ายกันก็ไม่ควร ทั้งนี้ กกต.ต้องเข้าไปตรวจสอบด้วย
ผมมีความพร้อมมาก เพราะเคยทำงานมีประสบ การณ์ในพื้นที่มาก่อน แต่ก็จะไม่ประมาท
ส่วนเรื่องความปลอดภัยช่วงหาเสียงก็ต้องระวังตัวเองแต่ก็ไม่ได้กลัว
แต่จากกรณีที่กลุ่มกองเชียร์พรรคเพื่อไทยมาตะโกนขับไล่แล้วยังทุบรถนั้น ยอมรับว่าตกใจ การลงพื้นที่หาเสียง ผมคงต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยด้วย รวมทั้งต้องดูแลผู้มาร่วมงานไม่ว่าอาสาสมัคร จนถึงผู้ใหญ่ในพรรคที่มาเดินหาเสียง
ขอร้องคนที่คิดทำ ขอให้คิดให้ดี เพราะสังคมทั้งในและต่างประเทศจับตาดูอยู่มากว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะโปร่งใส มีความปลอดภัยในการหาเสียงหรือไม่
ส่วนตัวคงต้องระมัดระวัง ไม่ประมาทและลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง