ก่อแก้ว - จตุพร
ยิ่งใกล้กำหนดที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) จะชงเรื่องเสนอให้ยืดเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดวันที่ 6 กรกฎาคม
ในฉากที่ควันหลง "ซาเล้งบอมบ์" ข้างที่ทำการพรรคภูมิใจไทยยังตลบอบอวล
ล่าสุดนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ทำหน้าที่โฆษกรัฐบาล ตีปี๊บประโคมข่าวเองเลยว่า นอกจากที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคการเมืองใหม่ จะตกเป็นเป้าหมาย
จากการข่าวทำให้ต้องเฝ้าระวังศูนย์ราชการ ศูนย์กลางคมนาคม องค์กรตุลาการ นิติบัญญัติ รวมไปถึงสถานที่สำคัญๆของประเทศ รวมไปถึงพรรคการเมืองอื่นด้วย
บรรยากาศระทึกขวัญซะขนาดนี้
โดยความจำเป็นอย่าว่าแต่แค่ 1-2 เดือนเลย รัฐบาลประชาธิปัตย์จะยื้อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน "กระชับพื้นที่" ฝ่ายต่อต้าน ลากไปจนครบเทอมสภาผู้แทนราษฎรในปลายปีหน้า
ก็ไม่ใช่เรื่องเหนือการคาดหมายแต่อย่างใด
บนพื้นฐานความคิดที่สะท้อนผ่าน "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง การันตีเอง การคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน "สุจริตชนไม่ได้เดือดร้อน"
อีกนัย คนที่เดือดร้อนก็ไม่ใช่พวกสุจริตชน
และก็เป็นอะไรที่เห็นๆกัน ในสถานการณ์ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้มากกว่าคนของพรรคการเมืองอื่น หลังเสร็จสิ้นคิวยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 6
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ต้องเปิดปราศรัยย่อยขอคะแนนกับชาวบ้านแทนนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวขึ้นรถกรงขังกลับเรือนจำทันที
ได้คิวแค่หาเสียงผ่านคุก
ต่างกับนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกเชิญให้ขึ้นรถของตำรวจนครบาล 2 อารักขาออกจากสำนักงานเขตคลองสามวา ไปที่สาขาของพรรค เนื่องจากมีกลุ่มมวลชนของทั้งสองฝ่ายมารุมล้อม เจ้าหน้าที่เกรงไม่ปลอดภัย
คุ้มกันดุจไข่ในหิน
ต่างกันราวฟ้ากับดิน "ผู้ก่อการร้าย" กับ "ผู้ก่อการดี" แต่ "เทพเทือก" ก็ยังเขิน ไม่กล้าฟันธงว่า ประชาธิปัตย์จะชนะแน่นอน
กลัวโดนเพื่อนหาว่า ขี้คุย
จริงๆเลยน่าจะหวั่นกระแสตีกลับซะมากกว่า
ต้องไม่ลืมว่า อารมณ์คนไทยชอบเชียร์มวยรอง ในสถาน-การณ์ที่เห็นกันอยู่ว่า สภาพคนของพรรคเพื่อไทยโดน "ตีตรวน" ลงสนาม
ชนักปักหลังข้อหา "ผู้ก่อการร้าย" จำเลยสังคมชนชั้นกลางเมืองกรุง
กระแสติดลบ กระสุนติดล็อก
ขณะที่ประชาธิปัตย์เหนือกว่าหลายช่วงตัว โดยเฉพาะกับอิทธิฤทธิ์ดาบ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ล็อกไว้ในกำมือ กระชับพื้นที่คู่ต่อสู้ให้อยู่ในเกมที่ตัวเองกำหนดได้
บล็อกธุรกรรมการเมือง ตัดท่อน้ำเลี้ยงเครือข่ายอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เอะอะก็อ้างสกัดเกมป่วนของกองทัพแดงไว้ก่อน
กระแสหนุนนำ พ่อยกแม่ยกเมืองกรุงเทใจให้พระเอกอย่าง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"
ไหนจะคิวเอื้ออาทรจากยี่ห้อการเมืองใหม่หลบทางให้ แถมยังขอให้แนวร่วมพันธมิตรฯ เทแต้มให้ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ได้เปรียบทุกประตู ถ้าเป็นฟุตบอลก็ต่อขาดเป็นลูกขึ้นไป
ชนะแต้มทิ้งกันไม่ขาด ถือว่า ประชาธิปัตย์แพ้
และที่มากไปกว่านั้น ภายใต้เดิมพันที่มากกว่า 1 เสียงในเวทีเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เพิ่มตัวเลขที่นั่งในสภา คิวนี้เป็นการชิงกระแส ความชอบธรรมระหว่างฝ่ายเสื้อแดงที่โดนประทับคดี "ก่อการร้าย" กับรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่โดนข้อหา "สั่งฆ่าประชาชน"
อย่างน้อยก็ได้วัดดัชนีคนกรุงเทพฯในสนามที่ก้ำกึ่งระหว่างชนชั้นกลางกับคนรอบนอก
ไม่ใช่โซนแห่ตามกระแส
ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ฝ่ายคนเสื้อแดง ตกเป็นรองขาด โดนฝ่ายถืออำนาจกระชับพื้นที่ความชอบธรรม บล็อกกระแสได้เกือบหมด
คิวนี้ได้โอกาสสู้ในพื้นที่ชานเมือง กู้กระแสในโซนแดงหนาแน่น
ถ้าเพื่อไทยแพ้ขาด ก็หมดข้อแก้ตัว.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน