ว่ากันว่า เราสามารถมองเห็นอนาคตได้จากอดีต...อนาคตกับอดีตนั้นจะคล้องจองไปด้วยกันไม่ต่างอะไรกับ ล้อเกวียนที่เวียนหมุนไปทับตีนโค นอกจากอดีตของตนเองแล้ว ยังมีตัวอย่างแห่งอดีตอีกมากมาย...ที่ทำให้มองเห็นอนาคตโดยไม่ต้องเข้าไปย่ำเหยียบ อย่าง ฟิลิปปินส์...ไม่มีใครไม่รู้จักเฟอร์ดินานด์ อี มาร์กอส...ถึงจะเป็นลูกครึ่ง...มีส่วนผสมของญี่ปุ่นจีนและชนเผ่า...อิโลคาโน...แต่เขาผู้นี้ปกครองฟิลิปปินส์อย่าง
ยาวนานกว่า 20 ปี...11 ปีแรก...เขาก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง...ในฐานะผู้ชนะในการเลือกตั้ง...เฟอร์ดินานด์ มาร์คอส ได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะสิบทิศ...มาร์กอส...เรียนกฎหมายและเก่งเป็นที่ 1 ของประเทศ...ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาอาสาเข้าเป็นทหาร...จับอาวุธสู้รบกับญี่ปุ่น...ได้รับเหรียญกล้าหาญและเหรียญเชิดชูเกียรติ...
ด้วยต้นทุนทางสังคมอันสูงส่งเช่นนี้...มาร์กอสใช้เวลา 20 ปี...เดินทางจากเก้าอี้การเมืองตัวแรก...ถึงตำแหน่งประธานาธิบดี...อายุแค่ 48...เขาก้าวขึ้นมาปกครองประเทศ...มากมายไปด้วยเรื่องราวและความยุ่งเหยิง...แผ่นดินเกาะที่เต็มไปด้วยการแย่งชิงอำนาจและการเข่นฆ่าครั้งแล้วครั้งเล่า มาร์กอส...
สร้างความเจริญยิ่งใหญ่ให้กับฟิลิปปินส์...จะเป็นรองก็แต่ญี่ปุ่นเท่านั้น...ทว่า...ด้วยความคิดที่ว่า...ฟิลิปปินส์ขาดเขาไม่ได้...และใครก็ตามที่เป็นศัตรูกับเขา ใครคนนั้นต้องเป็นศัตรูกับฟิลิปปินส์...มาร์คอสประกาศกฎอัยการศึก...21 กันยายน 1972 นักโทษผู้ถูกจองจำในคดีฆ่า...ทหารกล้าในสงคราม...และประธานาธิบดี
ผู้ถืออัยการศึก...มาร์กอส กลายเป็น...ผู้ไร้เทียมทานแห่งฟิลิปปินส์...เขาคือผู้นำตลอดกาล...ในขณะที่ภริยาของเขา...อดีตนางงามฟิลิปปินส์...สถาปนาตนเองเป็น...ผีเสื้อเหล็กแห่งกรุงมนิลา...2 สามีภริยา...คือห่วงโซ่แห่งอำนาจชั้นบนสุด...ฟิลิปปินส์รุ่งโรจน์...9 ปี...ได้อาญาเหล็ก...ภาษีเกินดุลทุกปี...
การท่องเที่ยวเฟื่องฟูสุดขีด...มนิลากลายเป็นเมืองหลวงของเอเชียได้...ฯลฯ แต่...ประชาชนคือมหาสมุทร์ที่สุดหยั่งคาด...ฟิลิปปินส์โหยหาเสรีภาพไม่ใช่ดอลลาร์ในกระเป๋า...และนั่นสร้างวันอันแสนเศร้า...ให้กับ...จักรพรรดิ์มาร์กอส