บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เชือดนายทุน‘หนุนแดง’ ถูกต้อง หรือ สะใจ?!

ที่มา บางกอกทูเดย์


ตั้งไข่กันอีกครั้ง! กับการ เปลี่ยนแปลงแต่ไม่เปลี่ยนไป ครั้งมโหราฬของ “บางกอกทูเดย์” และขอย้ำอีกสักครั้งสำหรับผู้อ่านที่เรายกให้พวกท่านเป็น “เจ้าของ” บางกอกทูเดย์ตัวจริง...เสียงจริง ทีมข่าวบางกอกทูเดย์จะเพิ่มดีกรีความเข้มข้นของเนื้อหาชนิด “ขวาตายซ้ายสลบ” เพื่อคุณๆ ผู้อ่าน โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่มี

อนาคตของเราเป็นเดิมพัน เสียงระฆังลั่นให้ขึ้นเวที!..ถึงเวลาคีย์ข้อมูลว่าด้วยเรื่องการอายัดบัญชีและห้ามทำธุรกรรมทางการเงิน 83 บัญชีรายชื่อบุคคลและนิติบุคคลมีอาการเหมือนรถติดเป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต เพราะ 108 คณะกรรมการจากการแต่งตั้งของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพ่งพินิจแล้วพบว่า...

ทั้ง 83 บัญชีรายชื่อเข้าข่ายเป็นนายทุนเลี้ยงดูปูเสื่อ “คนเสื้อแดง” ให้อิ่มหมีพีมัน 83 บัญชีรายชื่อบุคคลรวมถึงนิติบุคล มีวงเงินหมุนเวียนรวมกันประมาณ 151,941,410,000 บาท หากจำนวนเงินทั้งหมดไหลเข้าไปเลี้ยงดูปูเสื่อคนเสื้อแดงจริงๆ...คงต้องบอกว่าเป็นการชุมนุมที่ใช้เงินฟุ่มเฟือยมากที่สุดในโลก และหากใครบางคน

คิดว่า เงินคือพระเจ้า...ถามว่าเงินจำนวนมากมายมหาศาลดังกล่าวสามารถสนับสนุนให้ “บุคคลในสภาหินอ่อน” เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริงหรือ? คำตอบ คือ เป็นไปได้...แต่ต้องถามต่อว่าแล้วใครจะทำ! ในเมื่อบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยง “คนเสื้อแดง” ยังต้องทำมาหากิน...มีธุรกิจการค้าเอาเงินไป

ลงทุนหมุนเวียน...จะเจ๊ง จะเจ๊า หรือได้กำไร ไม่มีใครสามารถตอบได้...นอกจาก “ศักยภาพ” ในด้านการลงทุนของแต่ละบุคคล เงินดังกล่าวจึงเป็นเงินที่ผ่านมาแล้วผ่านไป...มิใช่เงินก้อนโตที่นอนนิ่งเหมาะแก่การจับจ่ายใช้สอย เฉกเช่น “งบประมาณ” ของแผ่นดิน คุ้มหรือไม่? กับการลงทุนซึ่งมิอาจคาดเดากับผลลัพธ์ที่จะ

เกิดขึ้นในอนาคต...ทั้งที่รู้เห็นเต็มสองตาว่า “ผู้ที่จะโค่นล้ม” มิใช่บุคคลในอาชีพเดียวกัน ซึ่งเป็น “นักการเมือง” เพียงอย่างเดียว เพราะวันนี้ “อำนาจ” หลากหลายเส้นทางได้มุ่งสู่ถนนการเมือง...โดยการเกาะกลุ่มรวมตัวกันเพื่อ “ประสานประโยชน์” ให้เข้ากับพวกพ้องฝ่ายตน คนเหล่านี้มีเงิน...มีอำนาจ...และมีสื่อซึ่งถือเป็น

“อาวุธร้าย” ในการทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามอย่างครบถ้วน ขณะที่ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยง “คนเสื้อแดง” หลายบุคคลถูกลดบทบาทเป็นเพียง “ประชาชนคนธรรมดา” เพราะในประเทศไทยไม่มีอำนาจอะไรยิ่งใหญ่เหนือไปกว่า “อำนาจทางการเมือง” ความชั่วร้ายเหล่านี้มิใช่หรือที่ประชาชน “รุ่นแล้วรุ่นเล่า”

ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษได้ออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้อง “ความเป็นธรรม” แต่สุดท้ายก็ต้อง “ถอยไปตั้งหลัก” เพราะสรรพกำลังยังมิอาจต่อกรกับ “อำนาจมืด” ดังกล่าวได้ 28 มิถุนายนนี้...กรมสอบสวนคดีพิเศษจะเรียก 83 บัญชีรายชื่อบุคคลและนิติบุคคล เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงว่า นำเงินส่วนตัวไปทำอะไร? ที่ไหน? อย่างไร?

และจำนวนเท่าได? เพื่อแลกมาซึ่งความอิสระปราศจากข้อหาการสนับสนุน “การก่อการร้าย” และนี่คือเหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลอ้างว่าจำเป็นต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากบุคคลดังกล่าวต้องเข้าให้ข้อมูลธุรกรรมการเงินที่ผิดปกติ หรือธุรกรรมการเงินต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือพัวพันกับการเป็นท่อน้ำเลี้ยง

“คนเสื้อแดง” หรือไม่ หากไม่มารายงานตัว..คุกรออยู่! นี่คือระเบียบตามกฎหมาย ที่ผ่านมา...ต้องยอมรับว่า “การคอรัปชั่น” ยังติดหูติดตา แถมเป็นการคอรัปชั่น “ซึ่งๆหน้า” ภายนอกแต่งสูทดูดี...แต่ภายในไม่รู้เป็นพวก “กระสือกระหัง” หรือไม่ เพราะเห็นทำตัว “อดอยากปากแห้ง” กินทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า...

ไม่เว้นแม้กระทั่งอุปกรณ์ไฮเทคนอกโลก เฉกเช่น “ดาวเทียม” เรื่องนี้ทำให้ถูกตั้งข้อสงสัยว่า “83 บัญชีรายชื่อ” จะโดนเชือดในฐานะ “ฝ่ายตรงข้าม” หรือไม่? ทำไปเพื่อความสะใจ...ทำไปเพื่อสนองความต้องการของตนเอง คล้ายๆ พวก “รูปชั่วตัวดำ” ที่ทำตัวลึกลับหลบๆ ซ่อนๆ ร้องครวญครางซี๊ดอ้า...ซี๊ดอ้า

เพียงลำพังในห้องแคบสี่เหลี่ยม...เพราะไม่มีหญิงคนใดเหลียวมอง “บางกอกทูเดย์” จำเป็นต้องเขียนถึงเรื่องดังกล่าวในฐานะตัวแทนประชาชน ซึ่งอาจมองไม่เห็นและคิดไม่ถึงเท่ากับมันสมองของ “ขุนนาง” ระดับประเทศ เราจะไม่พูดถึงกระบวนการชี้แจง..แต่จะเน้นย้ำถึงความโปร่งใสในการตรวจสอบ...ว่ากันตรงๆ

ก็คือ “รัฐบาล” ต้องแสดงออกอย่างจริงใจ...มิใช่ “ปรองดองบนปองร้าย” อย่าทำเสมือนว่า..ชัยชนะที่อยู่เหนือฝ่ายตรงข้ามยังเป็นความต้องการที่ล้นปรี่ถึงคอหอย เพราะทุกวันนี้พรรครัฐบาลโดยการนำของ “ประชาธิปัตย์” ยังคงเป็นเส้นขนานกับพรรคฝ่ายค้าน “เพื่อไทย” อย่างปฏิเสธไม่ได้ ฉะนั้น...การตรวจสอบ

“เชือด” นายทุนหนุน “คนเสื้อแดง” จึงเป็นคำตอบที่สำคัญในการ “เรียกคืน” ศรัทธาของประชาชน หากผิดจริงแบบหลักฐานแน่นปึ๊ก...รัฐบาลจะลงดาบฟันให้คอขาดก็มีแต่คนชม แต่ถ้าลงดาบแบบหลักฐานครึ่งๆกลางๆ พิจารณาแล้วคิดว่า “น่าจะใช่” การปฏิบัติเช่นนี้ถือเป็นเรื่อง “ผิดมหันต์” เพราะนอกจากจะ

เป็นการ “ดิสเครดิต” ความน่าเชื่อถือของรัฐบาล...มันยังเป็นการสร้าง “ความแตกแยก” ระหว่างคนไทยให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น “ช่วงเวลาที่พวกท่านกำชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่สุดไว้ได้...เป็นเวลาที่ต้องมีความเมตตาปราณีอย่างถึงที่สุด” คำพูดของ เนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ “แมนเดลา” ต้องการบอกผู้มีอำนาจ

ทั่วโลกว่า...หากบุคคลใดยิ่งใหญ่ถึงขั้นสามารถหยิบยื่น “ความเป็นความตาย” ให้แก่ผู้อื่นได้...สิ่งที่พวกเขาควรทำ นั่นคือ การให้ “ความเมตตา” เพราะวันใดที่คนอยู่ใต้อำนาจขึ้นมาเป็นใหญ่ในวันข้างหน้า...เขาก็จะให้ “ความเมตตา” กับพวกท่านเช่นเดียวกัน!

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker