บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ขอเชิญร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกถึงภาคประชาสังคมต่อการปฏิรูปประเทศไทยอำพราง

ที่มา Thai E-News

เรียนทุกท่าน

ขณะนี้พวกเรา ซึ่งประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่หรืออดีตเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชน นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และนักวิชาการที่ติดตาม ศึกษา และร่วมงานกับขบวนการภาคสังคมมาอย่างต่อเนื่องได้ร่วมกันออกจดหมายเปิดผนึกเพื่อเรียกร้องให้เพื่อนพี่น้องในขบวนการภาคประชาสังคมมีท่าที่ถูกต้องต่อกระบวนการปฏิรูปประเทศ พวกเราขอเชิญชวนเพื่อนพี่น้องในภาคสังคมท่านอื่นๆ ร่วมลงนามในจดหมายกับพวกเรา โดยส่งรายชื่อมาได้ที่ ชลิตา บัณฑุวงศ์ chalita.bundhuwong@gmail.com ภายในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ เวลาเที่ยงวันในประเทศไทยค่ะจากนั้นพวกเราจะส่งจดหมายเปิดผนึกนี้ออกเผยแพร่ผ่านสื่อ พร้อมทั้งจะส่งไปยังหน่วยงานองค์กรต่างๆ ในภาคประชาสังคม รวมทั้งผู้นำเอ็นจีโอ และผู้นำองค์กรชาวบ้านต่างๆ ทั่วประเทศ

ขอบพระคุณมากค่ะ
ชลิตา บัณฑุวงศ์ (โก)



เรื่อง เชิญร่วมต่อต้านกระบวนการปฏิรูปประเทศไทยอำพราง

เรียน เพื่อนพี่น้องในขบวนนักพัฒนา ขบวนการภาคสังคม ขบวนการภาคประชาชนที่รักเคารพยิ่ง

ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินหน้าแผน “ปรองดอง” โดยกำหนดให้การปฏิรูปประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งแผนซึ่งล่าสุดนายอานันท์ ปันยารชุน และนายแพทย์ประเวศ วะสี ได้ตอบรับเป็นประธานคณะกรรมการกำกับการปฏิรูปและประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปตามลำดับ โดยประธานทั้งสองจะได้ทาบทามบุคคลต่างๆ เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการฯ และจะได้จัดเวทีเพื่อระดมข้อเสนอแนะจากชุมชนท้องถิ่นและองค์กรต่างๆ ต่อไปนั้น (ดูรายละเอียดได้ที่http://www.thaireform.in.th/news-national-strategy/1352--2-.html )

พวกเราในฐานะของผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการภาคสังคม ทั้งเจ้าหน้าที่หรืออดีตเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชน นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และนักวิชาการที่ติดตาม ศึกษา และร่วมงานกับขบวนการภาคสังคมมาอย่างต่อเนื่อง มีความรู้สึกกังวลและห่วงใยต่อการกำหนดท่าทีของขบวนการภาคสังคมต่อการปฏิรูปประเทศไทยในครั้งนี้เป็นอย่างมาก และใคร่ขอนำเสนอความเห็นของพวกเราไปยังเพื่อนพี่น้องในขบวนการภาคสังคมในประเด็นต่างๆ ดังนี้

1) การปฏิรูปประเทศไทยในครั้งนี้เป็นเพียงเครื่องมือที่รัฐบาลใช้เบี่ยงเบนประเด็นความสนใจของสังคมต่อข้อเรียกร้องที่ให้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงและรับผิดชอบในกรณีที่มีมีผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายนับร้อยราย และผู้บาดเจ็บพิการนับพันรายจากการที่รัฐบาลสั่ง “กระชับพื้นที่” ในเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา ตลอดจนการใช้มาตรการที่รุนแรงและละเมิดสิทธิมนุษยชนเพื่อไล่ล่าบดขยี้คนเสื้อแดงและการปฏิบัติการทางจิตวิทยาในระดับต่างๆ ของหน่วยงานด้านความมั่นคง ดังนั้น การเสนอแผนการปฏิรูปประเทศไทยเป็นเพียงการซื้อเวลาของรัฐบาลเพื่อจะไม่คืนอำนาจให้ประชาชนผ่านกระบวนการเลือกตั้งเท่านั้นเอง

2) การเข้าร่วมกระบวนการปฏิรูปประเทศไทยเท่ากับเป็นการสนับสนุนให้รัฐบาลมีความชอบธรรมที่จะไม่แสดงความรับผิดต่อการใช้ความรุนแรงและใช้อำนาจรัฐอย่างไร้ความเป็นธรรม ขณะที่การเพิกเฉยการบาดเจ็บล้มตายของประชาชน การใช้ความรุนแรง และกระบวนการอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมนับเป็นความอำมหิตแบบหนึ่งและขัดต่อเป้าหมายในการทำงานของภาคสังคมที่ผลักดันการสร้างสรรค์สังคมที่เป็นธรรมและยั่งยืน

3) การเข้าร่วมการปฏิรูปประเทศไทยของคนบางกลุ่มโดยใช้อ้างคำว่า “ภาคประชาชน” หรือ “ภาคสังคม” เป็นการบิดเบือน ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่า “ภาคประชาชน” ส่วนใหญ่เห็นพ้องกับการปฏิรูปประเทศไทย ทั้งที่ในความเป็นจริง มีกลุ่มคนอีกเป็นจำนวนมากในขบวนการภาคสังคมที่วิพากษ์วิจารณ์และปฏิเสธแผนการปฏิรูปนี้อย่างสิ้นเชิง เพราะมีที่มาที่ไม่ชอบธรรมและมีเนื้อหาที่ไม่ได้ตอบโจทย์ใหญ่ซึ่งเป็นประเด็นขัดแย้งของสังคมไทยในขณะนี้

4) เป็นที่น่ายินดีที่เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนและเครือข่ายองค์กรชาวบ้านหลายแห่งมีมติไม่เข้าร่วมขบวนการปฏิรูปประเทศในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี พวกเราเห็นว่ากลุ่มต่างๆ ในขบวนการภาคสังคมจำเป็นต้องลุกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่มาพากลและไม่ชอบธรรมของแผนการปฏิรูปประเทศครั้งนี้อย่างถึงที่สุด เนื่องจากการปฏิรูปประเทศที่แท้จริงไม่อาจเกิดขึ้นได้หากประเทศตกอยู่ในสภาวะรัฐประหารเงียบแบบที่เป็นอยู่ ภายใต้ระบอบกึ่งอำนาจนิยมที่สำแดงผ่านการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

5) ขบวนการภาคสังคมจำเป็นต้องตรวจสอบและทบทวนอุดมการณ์และกระบวนการทำงานของตนอย่างจริงจัง เพื่อให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย และเข้าใจถึงความเชื่อมโยงระหว่างปัญหา และความต้องการของมวลชนคนจนระดับล่าง กับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและการเมืองเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานการณ์ที่แหล่งงบประมาณขององค์กรของตนมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นส่วนเดียวกับระบอบอำนาจนิยมที่ขัดต่อหลักการประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานหรือไม่อย่างไร การทบทวนที่ว่านี้จะนำมาสู่ท่าทีที่เหมาะสมของขบวนการภาคสังคมต่อการปฏิรูปประเทศไทย

พวกเราเชื่อมั่นว่าเพื่อนพี่น้องทั้งหลายซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของขบวนการภาคสังคมในประเทศไทยจะกรุณารับฟังข้อคิดเห็นข้างต้นของพวกเรา รวมทั้งเชื่อมั่นว่าขบวนการภาคสังคมในไทยจะยังคงเป็นขบวนการที่มีความหวัง ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และมีประโยชน์ต่อมวลชนคนยากคนจน รวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการนำพาประชาธิปไตยที่แท้จริงมาสู่สังคมไทย

ขอแสดงความนับถือ

ลงชื่อและสังกัด/หน่วยงาน/สถานศึกษา (ถ้ามี)

ลงชื่อ และสังกัด/หน่วยงาน/สถานศึกษา (ถ้ามี)

ลงชื่อ และสังกัด/หน่วยงาน/สถานศึกษา (ถ้ามี)

ลงชื่อ และสังกัด/หน่วยงาน/สถานศึกษา (ถ้ามี)

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker