บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

"กกต.ชุด...′หนา 2".....

ที่มา มติชนออนไลน์

โดย ประสงค์ วิสุทธิ์

ความไม่ชอบมาพากลใน กกต.นั้นมีหลายเรื่อง เช่น หมกเม็ดการสอบสวนวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่ กกต.2 คนที่ปลอมลายเซ็นเอกสารที่ส่งศาลฎีกาในคดีใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช นานกว่าครึ่งปี

เห็นอาการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ที่มีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ เป็นประธานแล้วรู้สึกว่า มีพฤติการณ์ใกล้เคียงกับ กกต.ชุดที่มีพล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน จนเกือบจะคิดว่าเป็น " กกต.ชุดวาสนา 2 "หรือเรียกสั้นๆว่า "กกต.ชุด..′หนา2"


ที่ว่า พฤติการณ์ใกล้เคียงกันนั้น มีตั้งแต่ความไม่ลงรอยกันของ กกต.ทั้ง 5 คน, การทำงานที่ไม่เป็นเอกภาพ, การวินิจฉัยคดีที่ถูกมองว่าไม่มีบรรทัดฐาน, ทำงานไร้ประสิทธิภาพคดีตกค้างเป็นจำนวนมาก, ดื้อดึงไม่แก้ไขความผิดพลาด, ปกปิดข้อมูล ขาดความโปร่งใส


ที่สำคัญคือ มีการร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการวินิจฉัยว่า นายนายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี สิ้นสมาชิกภาพ อาจทำให้ต้องเผชิญชะตากรรมเช่นเดียวกับ กกต.ชุด พล.ต.อ.วาสนา


ความไม่ชอบมาพากลใน กกต.นั้นมีหลายเรื่อง เช่น หมกเม็ดการสอบสวนวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่ กกต.2 คนที่ปลอมลายเซ็นเอกสารที่ส่งศาลฎีกาในคดีใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช นานกว่าครึ่งปี แต่ขอยกมาเพียง 2 ตัวอย่าง ดังนี้


หนึ่ง กกต.มีมติเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2551ว่า นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมาและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยมีพฤติการณ์หลอกลวง ใส่ร้ายด้วยความเท็จจริงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ในการเลือกตั้งปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ว.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 53(การทุจริตเลือกตั้งด้วยการจูงใจให้ลงคะแนนด้วยวิธีการต่างๆ) แต่ให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายบุญจงเพียงอย่างเดียว(แถมยังล่าช้านานถึง10 เดือน) โดยไม่เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง(ให้ใบแดง)ซึ่งต้องส่งคำร้องให้ศาลฎีกาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 239 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ มาตรา 111


คำถามคือ เคยมีผู้สมัครรับเลือกตั้งรายใดบ้างที่ กกต.มีมติว่า เป็นผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ มาตรา 53 แต่ไม่ถูกแจกใบแดง


หรือมีนายบูญจงเพียงกรณีเดียว?


ที่ผ่านมา เลขาธิการ กกต.เคยหยิบยกคดี 3 คดีมาเปรียบเทียบ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่เป็นตามที่ชี้แจง เพราะมีถึง 2 คดีกระทำผิดเกี่ยวกับการติดป้ายไม่เป็นไปตามระเบียบ กกต.


ยิ่งประธาน กกต.อ้างว่า การปราศรัยโจมตีผู้อื่นไม่ใช่เรื่องความไม่สุจริต และไม่มีผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรม ไม่ให้ใบแดงนายบุญจง


แต่ประธาน กกต.คง(แกล้ง?)ลืมไปแล้วว่า กกต.มีมติเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2551แจกใบแดงนายธานินทร์ ใจสมุทร นายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัดสตูลในข้อหาปราศรัยใส่ร้ายเช่นเดียวกับนายบุญจง และต้องส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 239


นอกจากนั้น ถ้าพิจารณาจากเอกสารโหวตเสียงของ กกต.แต่ละคนพบว่า นายประพันธ์ นัยโกวิทและนายสุเมธ อุปนิสาการมีความเห็นว่า มีการกระทำความผิดมากกว่าการปราศรัยใส่ร้าย แต่มีการให้ทรัพย์สินด้วยเพราะเห็นตามความเห็นของอนุการสืบสวนฯและเลขาธิการ กกต.


ขณะที่นางสดศรี สัตยธรรมรทำเครื่องหมายในช่องให้ดำเนินคดีอาญาอย่างเดียว


ส่วนนายอภิชาตเอง แม้จะให้ดำเนินคดีอาญาอย่างเดียว แต่เห็นว่า นายบุญจงมีความผิดในข้อกล่าวหาที่ 1 และ 3 แสดงว่า มากกว่าการปราศรัยใส่ร้าย


จากข้อเท็จจริงดังกล่าวแสดงว่า กกต.อย่างน้อย 3 คน เห็นว่า นายบุญจงมีความผิดมากว่าการปราศรัยใส่ร้ายฯซึ่งน่าจะเพียงพอในการให้ใบแดงแล้ว


การที่ กกต.มีมติเพียงให้ดำเนินคดีอาญาอย่างเดียวจึงเป็นพิรุธอย่างมาก


เมื่อมีการเปิดโปงเรื่องนี้ทางสื่อมวลชน มีข่าวว่า กกต.บางคนซึ่งลงชื่อไปแล้วแก้ร่างคำวินิจฉัยหลายรอบเพื่อลดข้อกล่าวหาให้น้อยลง


สอง กกต.มีมติเอกฉันท์ให้นายสุรเดช ส.ว.ปราจีนบุรี พ้นจากความเป็น ส.ว.เนื่องจากขาดคุณสมบัติ เพราะพ้นจากเป็นการสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่เกิน 5 ปี แต่กลับส่งให้ประธานวุฒิสภาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทั้งๆที่เป็นการคัดค้านการเลือกตั้งหลังประกาศผล ต้องส่งให้ศาลฎีกาฯตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 239ซึ่งท้ายคำวินิจฉัยของ กกต.เองก็อ้างอิงมาตราดังกล่าว แต่กลับทำในทางตรงกันข้าม


ยิ่งฟังนางสดศรีชี้แจงว่า ที่ไม่ส่งศาลฎีกาเพราะนายสุรเดช ไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ขาดคุณสมบัติการเป็นส.ว. แล้วเห็นได้ชัดว่า ขัดแย้งกับ มติกกต.กรณีนายสมบูรณ์ นุชพันธ์ อดีตนายก อบต.แก่งกระจานที่ขาดคุณสมบัติเนื่องจากไม่ยื่นบัญชีทรัพย์ต่อ ป.ป.ช. โดย กกต.เขียนคำวินิจฉัยว่า มีผลให้การเลือกตั้งที่มีขึ้นเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม การประกาศผลจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและส่งให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย


เรื่องนี้ถ้านายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำตัวเป็นแค่บุรุษไปรณีย์ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อาจมีชะตากรรมเดียวกับ"กกต.ชุด...′หนา 2 "

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker