วันที่ 23 มี.ค.นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 26 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า เท่าที่ดูการชุมนุมที่ จ.เชียงราย และเชียงใหม่ พบว่ามีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของพวกเสื้อแดงที่จะแสดงพลัง และเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ามา หากมองในหลักจิตวิทยาก็เป็นการให้กำลังใจว่าผู้นำยังคงจะสู้ต่อ และได้ข่าวว่าการชุมนุมวันที่ 26 มี.ค. จะมีการโฟนอินเข้ามาเช่นกัน ดังนั้น กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ ผวจ.ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ ชุมนุมอย่างเข้มข้น ให้เน้นการประชาสัมพันธ์กับประชาชนว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเดินทางเข้ามา ทั้งเสียเวลาและค่าเดินทาง จึงขอให้โอกาสรัฐบาลทำงานก่อน หากทำงานไม่ได้ก็ต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นมาทำอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณประกาศสู้ขนาดนี้ เพราะปัจจัยใด นายชวรัตน์ตอบว่า ตามทฤษฎีอำนาจและสังคมมีอยู่ชัดเจนว่าคนที่มีอำนาจก็ไม่อยากที่จะเสียไป แล้วต้องพยายามต่อสู้ไม่ว่าด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง
ขำข่าวแจกเงิน-หว่านงบฯซื้อมือ ส.ส.
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่ารัฐบาลกันงบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แจกให้ ส.ส.คนละ 20 ล้านบาท เพื่อแลกกับการยกมือโหวตไว้วางใจในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ไม่ ทราบข้อเท็จจริง ต้องถามนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังระบุว่ามีการจ่ายเงินให้ ส.ส.คนละ 2 แสนบาท ด้วย นายชวรัตน์หัวเราะก่อนตอบว่า “ไม่มี ผมไม่เคยจ่ายใคร ขนาดเงินเดือนตัวเองยังไม่ถึงแสนบาทเลย จะเอาเงินไปแจกให้ใครได้ เรื่องอะไรจะต้องไปเสียเงินเป็นล้าน ทั้งที่เงินเดือนรัฐ-มนตรีแค่แสนกว่าบาท” เมื่อถามว่า มีความพยายามนำเรื่องงบประมาณของ อปท.ไปโยงกับการโยกย้ายนายสุกิจ เจริญรัตนกุล อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายชวรัตน์ตอบว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้ามีการโยงให้เกิดความสับสน แต่ยืนยันเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
พท.ตีปี๊บนายใหญ่จะแฉภาค 2
ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินแฉผู้อยู่เบื้องหลังการโค่นอำนาจว่า การแฉเรื่องนี้เป็นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น ขอให้ติดตามวันที่ 26 มี.ค.ที่จะมีการโฟนอินผ่านระบบวีดิโอลิงค์อีกครั้ง จะมีการแฉภาค 2 ว่าใครทำอะไรไว้บ้าง และจะพูดถึงวิธีการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ รับรองในวันดังกล่าวคนคงเต็มสนามหลวง ผู้สื่อข่าวถามว่าประเมินว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับประเทศไทยเมื่อไหร่ นายสุรพงษ์ตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาแน่ในช่วงเศรษฐกิจประเทศไทยพังแล้ว โดยจะเข้ามาขออาสาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ตอนนี้เศรษฐกิจใกล้พังเต็มทีแล้ว
“ณัฐวุฒิ” ให้รอฟังโฟนอิน 27 มี.ค.
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช. เปิดเผยว่า เนื้อหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดกับกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่นั้น ตนและแกนนำคนอื่นเคยรับรู้มาเพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ที่น่าตกใจ ยอมรับว่าการที่ พ.ต.ท. ทักษิณพูดพาดพิงถึงศาลและองคมนตรีอาจทำให้การชุมนุมถูกกดดันมากขึ้น แต่ในทางกลับกันจะเป็นผลดีกับคนเสื้อแดงที่จะเกิดความฮึกเหิมมาร่วมชุมนุมมากขึ้น สถานการณ์การเมืองปัจจุบันถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องยอมรับความจริง พ.ต.ท.ทักษิณก็ยืนยันข้อเท็จจริงทุกอย่างที่พูดผ่านวีดิโอลิงค์ บอกว่าคนเรากล้าทำต้องกล้ารับ และการพูดครั้งต่อไปจะมีขึ้นวันที่ 27 มี.ค. เวลา 19.30-20.00 น. หลังจากที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมกันวันที่ 26 มี.ค.แล้วเคลื่อนขบวนมาที่ทำเนียบฯ เนื้อหาคือทางออกของประเทศไทย วิกฤติเศรษฐกิจ การเมือง สังคม
แพลมไต๋ปูดชื่อตัวละครใหม่
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า การที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตามที่ พ.ต.ท. ทักษิณระบุ และยังบอกว่าเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมนั้น ไม่แน่ใจว่า พล.อ.สุรยุทธ์เชื่อมั่นกฎแห่งกรรมจริงหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณมีสิทธิที่จะสื่อสารเรื่องราวที่เป็นความจริง บอกเล่าต้นตอวิกฤติของการเมืองไทยวันนี้ การออกมาแสดงข้อมูลเหล่านี้ไม่มีเจตนาตอบโต้รุกรานใคร เพียงแต่เห็นว่าสังคมไทยน่าจะอยู่กันด้วยความจริงเพื่อหาทางออกที่ถูกต้อง ท่านยืนยันว่าจะพูดความจริงสื่อสารมายังคนไทยเป็นระยะๆ คาดว่าวันที่ 27 มี.ค.นี้ จะมีการเปิดเผยชื่อตัวละครอื่นๆอีกเพิ่มเติม
เล็งใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจาย
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่มีความรุนแรง จะชุมนุมอย่างสงบสันติปราศจากอาวุธ ไม่บุกยึดทำเนียบฯ ไม่เกี่ยวข้องกับข้าราชการ ชุมนุมยืดเยื้อถึงเมื่อไหร่ยังไม่มีกำหนดระยะเวลา แต่อาจมีการเคลื่อนไปยังสถานที่ต่างๆ เป็นการเพิ่มความเข้มข้นในการขับไล่รัฐบาล แต่คงไม่ไปขับไล่ถึงบ้านรัฐมนตรี เพราะเรามีเจตนาขับไล่รัฐบาล ไม่ได้รุกไล่ชีวิตส่วนตัว สำหรับงานกาชาดเข้าใจว่าพื้นที่ไม่คาบเกี่ยวกัน เราสามารถจัดการเรื่องสถานที่ได้ กลุ่มเสื้อแดงยังใช้สโลแกนเดิมคือ “ไม่ชนะ ไม่เลิก” คือไม่เลิกเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล นอกจากนี้ ยินดีท้าพิสูจน์เรื่องจำนวนคนและพลังของคนเสื้อแดงว่าแผ่วจริงตามที่บางฝ่ายเคยปรามาสหรือไม่ ส่วนฝ่ายความมั่นคงจะประเมินอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา นายกฯหรือใครที่บอกว่าเคยเห็นเอกสารแผนตากสิน ขอให้เอามาเปิดเผย เพราะยืนยันว่าเราไม่มีแผนนี้ ไม่เคยเห็นแม้แต่บรรทัดเดียว
เสื้อแดงมอบดอกไม้เชียร์ “สุชาติ”
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำสมาชิกและกลุ่มคนเสื้อแดงจากย่านลาดพร้าว 101 และพระประแดงจำนวนประมาณ 30 คน เดินทางไปมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.ภ.4 ที่ถูก ป.ป.ช.ตั้งข้อกล่าวหากรณีสั่งสลายการชุมนุมหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 พร้อมทั้งยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ผ่าน พ.ต.อ.สุทธินาท สุดยอด รองเลขานุการตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องให้ ออกมาปกป้องศักดิ์ศรีตำรวจด้วยการรักษากฎหมายบ้านเมืองอย่างแข็งขัน เร่งดำเนินคดีต่อแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปิดล้อมรัฐสภา และมีการใช้ความรุนแรงบุกยึดทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิอย่างจริงจัง โดยไม่เกรงกลัวต่อการแทรกแซงของรัฐบาล ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมใช้เวลาในการอ่านแถลงการณ์ ประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงสลายการชุมนุมอย่างสงบ
เตรียมสรุปสำนวนคดีปิดสุวรรณภูมิ
พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 กล่าวว่า จะยื่นสำนวนสรุปคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิเสนอ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เพื่อมีความเห็นในทางคดี ตอนนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ ว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาใครบ้าง โทษตั้งแต่คดีบุกรุกจนถึงความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศยาน เป็นความผิดที่มีโทษร้ายแรงมาก จำเป็นต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ และต้องขอความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมาประกอบการสรุปสำนวนคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวนผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้ายสากลเข้ามาร่วมทำคดีได้พิจารณารายละเอียดเหตุการณ์และข้อกฎหมายน่าจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดิน อากาศยาน และการก่อการร้ายสากล เพราะข้อหาดังกล่าวระบุว่าผู้ใดส่งเสริมทำให้เกิดความวุ่นวายและความเดือดร้อนกับคนจำนวนมาก ถือว่าเข้าข่ายความผิดนี้แล้ว ซึ่งผู้ที่อยู่ในข่ายถูกดำเนินคดีคือแกนนำพันธมิตรฯ ผู้ที่ขึ้นเวทีปราศรัยใช้ถ้อยคำยั่วยุส่งเสริม โดยพนักงานสอบสวนจะนำเทปภาพเหตุการณ์มาประกอบการพิจารณาแจ้งข้อหาแกนนำพันธมิตรฯ ที่อยู่ในข่ายดำเนินคดีประมาณ 20 คน