บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 7 เมษายน 2552

ที่มา ประชาไท

การเมือง

ยกคำร้อง “บุญจง” แจกเงินแนบนามบัตร เชื่อไม่ยุ่งจนท.
มติชนออนไลน์ - เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่า ที่ประชุม กกต.ได้พิจารณาคำร้องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และนายคารม พลทะกลาง คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ตรวจสอบกรณีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบเงินสงเคราะห์ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แจกผ้าห่มพร้อมแนบนามบัตรให้แก่ราษฎรที่บ้านพัก จ.นครราชสีมา ซึ่งอาจเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 ประกอบมาตรา 268 ซึ่งมีผลให้ความเป็น ส.ส.ต้องสิ้นสุดลงตามมาตรา 106 (6) และความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 182 (7) ของรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังขอให้ตรวจสอบว่านายบุญจงฝ่าฝืนมาตรา 22 อันเป็นความผิดตามมาตรา 109 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองนั้น ทั้งนี้ ที่ประชุม กกต.โดยมติเสียงเอกฉันท์ให้ยกคำร้อง ตามความเห็นคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงที่เสนอมา


นายสุทธิพล กล่าวว่า การใช้บ้านพักนายบุญจงเป็นสถานที่แจกเงินงบประมาณ จากการสอบสวนพบว่า ได้มีการจัดเตรียมหอประชุมที่ว่าการอำเภอโชคชัยไว้แล้ว แต่ไม่ว่าง เพราะมีกลุ่มแม่บ้านซ้อมรำบวงสรวงท้าวสุรนารี ทำให้นายอำเภอโชคชัยเป็นพยานชี้แจงว่า จำเป็นต้องหาสถานที่ใหม่ โดยการเลือกบ้านพักนายบุญจง ซึ่งนายอำเภอโชคชัยตัดสินใจเอง ส่วนกรณีแจกนามบัตรไม่อาจฟังได้ว่านายบุญจงแนบนามบัตรของตนไปพร้อมกับผ้าห่มและเงิน และไม่อาจฟังได้ว่าทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าเป็นเงินของนายบุญจง หรือใช้อำนาจหน้าที่ของตนจัดสรรเงินมาให้ประชาชน อีกทั้งข้อเท็จจริงเชื่อว่าผ้าห่มที่แจกพร้อมเงินสงเคราะห์ นายบุญจงใช้เงินส่วนตัวจัดหามาไม่ได้เป็นผ้าห่มของทางราชการตามที่มีการกล่าวหา ดังนั้น การแจกผ้าห่มโดยใช้เงินซื้อมาจึงเป็นสิทธิที่สามารถดำเนินการโดยไม่จำเป็นต้องใช้สถานะ ส.ส.หรือรัฐมนตรี จึงถือว่าไม่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของราชการ

กกต.ยกคำร้องสอบขาดคุณสมบัติ 22 ส.ว. จุ้น “เอ็นบีที”
มติชนออนไลน์ - นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลการประชุมกกต. เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมว่า กกต.ได้พิจารณาคำร้องที่นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย ขอให้ตรวจสอบความเป็นสมาชิกภาพของ 22 ส.ว.สิ้นสุดลงตามมาตรา 119 (5) ของรัฐธรรมนูญ หลังจากใช้ตำแหน่งขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 ที่ห้ามก้าวก่ายแทรกแซงส่วนราชการ กรณีที่ 22 ส.ว.ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ให้งดการถ่ายทอดรายการ “ความจริงวันนี้” ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ที่ประชุม กกต.มีมติเสียงข้างมากให้ยกคำร้องตามความเห็นของคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว เพราะการที่ผู้อำนวยการสถานีเอ็นบีทีไม่ได้ถ่ายทอดรายการถือเป็นดุลพินิจ อีกทั้งไม่ได้ใช้ตำแหน่งของ ส.ว.แต่เป็นการกระทำโดยสุจริต

เพื่อไทยยื่นหลักฐานเพิ่มร้องยุบ ปชป.

เว็บไซต์คมชัดลึก - (6พ.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทย เดินทางมายื่นพยานหลักฐานต่อกกต.กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยไปชักนำอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง เช่น นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พยานหลักฐานที่ได้ยื่นต่อกกต. ประกอบด้วยภาพถ่ายและวีซีดีที่นายอภิสิทธิ์ พบปะกับอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งตนเชื่อมั่นในหลักฐานที่ยื่นในวันนี้ และเชื่อว่าหลักฐานทั้งหมดจะสามารถยุบพรรคประชาธิปัตย์ได้

ผมอยากให้กกต.เป็นองค์กรยุติธรรมทางการเมือง โปร่งใส และเป็นมาตรฐานเดียว เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของความสมานฉันท์ในประเทศนายพร้อมพงศ์ กล่าว

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการยุบพรรค สะท้อนให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีพฤติกรรมปากว่าตาขยิบ เพราะหลังจากที่รัฐบาลออกมาให้ข่าวว่าต้องการแก้ไขมาตราดังกล่าวทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาต่อต้าน รัฐบาลจึงกลัวกระแสสนับสนุนพรรคตกต่ำ จึงมี ส.ส.บางส่วนออกมาให้ข่าวว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญมาตรานี้

วิปรัฐบาล เสนอ 2 แนวทางแก้รัฐธรรมนูญ

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า วิปรัฐบาลให้ความสำคัญในการทำงานของคณะกรรมการเพื่อความปรองดองสมานฉันท์และศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากจะเป็นทางออกของประเทศได้ โดยทุกพรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นตรงกันว่าควรจะให้ตัวแทนแต่ละพรรคได้ดำเนินการ หาทางออกให้ประเทศอย่างอิสระ ไม่มีการกดดันซึ่งกันและกัน

ทั้งนี้ วิปรัฐบาลมีแนวทางดำเนินการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 แนวทาง คือ การเปิดกว้างให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น โดยอาจผ่านการตั้งคณะอนุกรรมการ และเสนอเข้าสู่สภาต่อไป หรือให้คณะกรรมการฯได้รวบรวมประเด็นเพื่อสอบถามมติจากประชาชน และหากต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องดำเนินการตามกระบวนการคือ ให้ ส.ส. 1 ใน 5 ของสภาเสนอชื่อ หรือประชาชนเข้าชื่อ 5 หมื่นรายชื่อเพื่อเสนอ โดยอาจทำในรูปแบบสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)หรือทำประชามติเหมือนกับรัฐธรรมนูญปี 50

“ส่วนการทำประชาพิจารณ์ เพื่อเป็นแนวทางให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมนั้น ทางวิปรัฐบาลจะให้คณะกรรมการเพื่อความปรองดองฯวางแนวทางดำเนินการ แต่ในส่วนของเรา ก็มี 2 แนวทาง ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน” นายชินวรณ์ กล่าว

นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า วิปรัฐบาลมีมติเห็นชอบตามที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา เสนอให้เปิดประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 12 พ.ค.พิจารณาวาระกรอบข้อตกลงตามรัฐธรรมนูญ ม.190

และจะดำเนินการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ โดยวิปรัฐบาลมีมติให้ทุกพรรคเสนอรายชื่อกรรมาธิการฯ ตามสัดส่วนของแต่ละพรรค ทั้ง 35 คณะ ๆละ 15 คน เสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่วนตำแหน่งอื่นๆในคณะกรรมาธิการให้แต่ละคณะเลือกกันเอง เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากฝ่ายค้านเป็นอย่างดี เพราะกรรมาธิการเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้าน

กก.สมานฉันท์ถกกรอบทำงาน พรุ่งนี้

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯเตรียมประชุมนัดแรกวันพรุ่งนี้เพื่อหารือถึงกรอบเวลาการทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการเมือง จากนั้นจะหารือถึงเป้าหมายการทำงาน รวมทั้งจะขอรับฟังความเห็นของคณะกรรมการแต่ละพรรคการเมืองถึงประเด็นต่างๆ ด้วย

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการได้มอบหมายจากนายพิฑูรย์ พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รวบรวมประเด็นที่กรรมาธิการแต่ละคณะของรัฐสภาได้ศึกษาไว้ โดยเฉพาะคณะกรรมการศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญที่มีนายกระมล ทองธรรมชาติ เป็นประธาน ซึ่งได้ศึกษาไว้เสร็จแล้ว

นอกจากนี้ คาดว่าแต่ละพรรคการเมืองอาจมีการนำสนอประเด็นของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อส่งให้คณะกรรมการพิจารณาพร้อมกัน ทั้งนี้ยืนยันว่าประเด็นหลักการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ ไม่ได้มุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองทั้งระบบด้วย

ไอซีทียังไม่ตัดสินใจเปิดดีสเตชั่นโยน กทช.ชี้ขาด

เว็บไซต์ไทยรัฐ - วันนี้ (6 พ.ค.)ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในฐานะเป็นผู้ให้บริการวงจรเช่าอินเทอร์เน็ตแก่สถานีโทรทัสน์ดีสเตชั่น ได้รายงานให้ทราบว่า ตามผังรายการของดีสเตชั่นจะเน้นการทำรายการวาไรตี้บันเทิง แต่ที่ผ่านมาเนื้อหาที่ถ่ายทอดออกไปเป็นการปลุกระดม เผยแพร่ข่าวสารทำให้ไม่สงบสุข จึงได้ให้คณะกรรมการพิจารณาสัญญาว่าดีสเตชั่นทำผิดสัญญาหรือไม่ และหากดีสเตชั่นจะต่อสัญญาควรต่อหรือเปล่าเพราะถือว่าขึ้นเป็นบัญชีดำ

ร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ไอซีทีได้ถอนวาระการโอนย้ายช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม 3 ไปไทยคม 5 และกรณีให้ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เช่าดาวเทียมจากต่างประเทศแทนการยิงดาวเทียมไทยคม 6 ออกจากวาระการประชุมครม.เพื่อขอกลับมาดูสัญญาใหม่อีกครั้ง อาทิ ตามสัญญาต้องมีดาวเทียมสำรองแทนการโอนถ่ายลูกค้าจากไทยคม 3 ไปไทยคม 5 หรือไม่ รวมถึงกรณีการยิงดาวเทียมขึ้นบนท้องฟ้าแล้วถือว่าเป็นสมบัติของชาติ และหากดาวเทียมดวงนั้นเป็นการเช่าใช้จากประเทศอื่นจะเป็นเช่นไรเป็นต้น

ด้านนายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวว่า ดีสเตชั่นยังออกอากาศไม่ได้ เพราต้องขออนุญาตใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กทช.) ในฐานะที่มีอำนาจชั่วคราวระหว่างรอ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติว่า จะมอบใบอนุญาตหรือไม่

ขณะที่นายสุรนันท์ วงศฺวิทยกำจร เลขาธิการ กทช.กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้ขึ้นอยู่กับคณะทำงานด้วยกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ (เคเบิ้ลทีวี) ว่าจะร่างหลักเกณฑ์ออกมาเช่นใด

มท.1 รับเด้งผู้ว่าฯ ชลบุรี เพราะคุมม็อบ “เสื้อแดง” ไม่อยู่
มติชนออนไลน์ - นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าฯ ชลบุรีที่ถูกมองว่า เป็นเพราะไม่สามารถควบคุมความเรียบร้อยของการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงได้ว่า ก็มีส่วน เพราะเขาเป็นผู้ว่าฯ และจะถามว่า เขาต้องแบ่งภาระรับผิดชอบคนเดียวหรือไม่นั้น ก็ไม่ใช่ แต่บังเอิญว่ามันเป็นคล้ายรูปแบบบริษัท ท่านเป็นซีอีโอของชลบุรี ก็ต้องมีความรับผิดชอบ


เมื่อถามว่า คำสั่งโยกย้ายได้มีการหารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของข้าราชการกระทรวงมหาดไทยที่ดูเอง ถ้าพูดถึงความดีของท่านก็ยังมี จังหวัดชลบุรีก็ถือว่าเป็นจังหวัดที่เจริญมากแล้ว ก็อยากให้ท่านนำรูปแบบการพัฒนา จ.ชลบุรีไปพัฒนาจังหวัดอื่น ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ถ้าท่านยังไม่เกษียณ ก็จะหาจังหวัดอื่นให้ท่านไปบูรณาการ ส่วนกรณีที่ก่อนจะมีการโยกย้าย ได้พูดคุยกับผู้ว่าฯ ก่อนหรือไม่นั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องปกติ การย้ายเราจะไม่บอกก่อนอยู่แล้ว

เพื่อไทยบอยคอต ตั้งกมธ. 35 คณะ ตกลงเก้าอี้ไม่ได้

เว็บไซต์ไทยรัฐ - ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (6 พ.ค.) ว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐสภา มีมติเลื่อนวาระเลือกตั้งคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร(ใหม่) จำนวน 35 คณะ คณะละ 15 คน ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนส.ส.ของแต่ละพรรคมานาน กว่า 3 เดือนแล้ว แต่กว่าจะตกลงกันได้ต้องใช้เวลาถกเถียงกันนานเกือบสองชั่วโมง เนื่องจากตัวแทนของพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งใหม่ทั้งหมดเพราะ เกรงว่าโควต้าประธานคณะกรรมาธิการที่อดีตพรรคพลังประชาชนได้รับจะถูกสลายไป ด้วย

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลยืนยันจะตั้งกรรมาธิการก็ตั้งไป แต่ฝ่ายค้านจะไม่เสนอชื่อด้วย เพราะเหตุผลที่แท้จริงคือการตกลงกันไม่ได้เพียงกรรมาธิการคณะเดียวคือคมนาคม ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยต่างก็ต้องการเป็นประธาน ขณะที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกันแล้วให้ตั้งกรรมาธิการใหม่ทั้งหมด จึงขอให้พรรคการเมืองที่พร้อมเสนอรายชื่อต่อสภาผู้แทนราษฎรได้เลย ส่วนพรรคใดยังไม่พร้อมก็ให้ไปเสนอรายชื่อคราวหลัง

ในที่สุดนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้แต่ละพรรคการเมืองเสนอรายชื่อกรรมาธิการในสัดส่วนของตัวเองก่อน ส่วนพรรคใดจะได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการ คณะใดค่อยไปตกลงกันเองภายใน กรรมาธิการ ทั้งนี้ในระหว่างที่พรรคภูมิใจไทยเสนอตั้งกรรมาธิการ ได้มีการเสนอชื่อนายพิ เชษฐ์ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อแผ่นดินเข้าไปเป็นกรรมาธิการทหารในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทยด้วย ทำให้นายอนุวัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน ลุกขึ้นประท้วงว่าการเสนอชื่อข้ามพรรคขัดรัฐธรรมนูญ ทำให้พรรคภูมิใจไทยต้องเสนอนายมนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ ส.ส.บุรรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทยเข้ามาเป็นแทน ในขณะที่พรรคเพื่อไทยไม่ยอมเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการสามัญทั้ง35คณะเพียง พรรคเดียว

แจ้งจับเว็บ “คุยกับเสธ.แดง” โพสต์หมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ

ASTV ผู้จัดการรายวัน –วานนี้ (6 พ.ค.)เวลา 14.30 น. ที่สน.พระราชวัง นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายเชาวนะ ไตรมาศ รองเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.วิทยา กิจกำธร พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.พระราชวัง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ เว็บบอร์ด"คุยกับเสธ.แดง" http://board.sae-dang.com/ ในความผิดข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 ข้อหาดูหมิ่นศาล หรือผู้พิพากษาในการพิจารณา หรือพิพากษาคดี ตามมาตรา 198 และข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตามมาตรา 136 โดยนำหลักฐานเป็นข้อความที่ถูกโพสต์ไว้ในเว็บบอร์ดดังกล่าว มามอบไว้เป็นหลักฐาน โดย มี พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน ผกก.สน.พระราชวัง พ.ต.ท.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผกก.สส.สน.พระราชวัง ร่วมทำการสอบสวน

นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เปิดเผยว่า สำหรับหลักฐานที่นำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานนั้น เป็นข้อความที่ถูกโพสต์ไว้ในเว็บบอร์ดดังกล่าว เช่น เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีผู้เข้าไปโพสต์ไว้ในเว็บบอร์ดด้วยข้อความที่หมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ และศาลยุติธรรมอย่างชัดเจน

ด้าน พ.ต.อ.สุคุณ กล่าวว่า เบื้องต้นจะรับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อน หลังจากนั้นก็จะเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง และรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งถ้าหากมีพยานหลักฐานเพียงพอ ก็จะเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผบ.4 เหล่าทัพถกแผนรับมือประชุมอาเซียน
มติชนออนไลน์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและวางแผนการรักษาความปลอดภัยการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ระหว่างวันที่ 13-14 มิถุนายนนี้ที่ จ.ภูเก็ต มี พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าประชุมอย่างพร้อมเพียง


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทุกอย่างจะต้องใช้คำว่า 100% และคงต้องจัดชุดเฉพาะดูแลความปลอดภัยผู้นำแต่ละประเทศ เช่น ให้ตำรวจรับผิดชอบ 1 ประเทศ กองทัพบก 1 ประเทศ กองทัพเรือ 1 ประเทศ เป็นต้น จะไม่ใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแน่นอน แต่จะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงซึ่งอยู่ในดีกรีเหมาะสม ไม่หนักเกินไป คงจะประกาศก่อนการประชุม 10 วัน หากทำแผนเสร็จจะเสนอขออนุมัติจากรัฐบาลต่อไป

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หลังจากประชุมปลัดกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ระหว่างวันที่ 6-8 พฤษภาคม จะมีความชัดเจนว่าผู้นำประเทศใดจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาบ้าง นอกจากนี้ในโอกาสครบรอบ 20 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-เกาหลีใต้ วันที่ 1-2 มิถุนายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลีใต้ด้วย จากนั้นจะเยือนฮ่องกงในวันที่ 15 พฤษภาคม ร่วมกับนักธุรกิจ 400 คน เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ จะพบผู้บริหารเกาะฮ่องกง พบนักธุรกิจฮ่องกง 15 คน

เศรษฐกิจ

ไอเอ็มเอฟหั่นศก.เอเชียโต1.3%ไทย-ปินส์-มาเลย์หนักสุด
มติชนออนไลน์ - เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม เอเอฟพีรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเติบโตเศรษฐกิจเอเชียปีนี้ลงอีกจากเดิม 2.7% เหลือ 1.3% เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อเอเชียในอัตราความเร็วและพลังสูงอย่างที่คาดไม่ถึง และยังได้รับผลกระทบมากกว่าภูมิภาคอื่น เพราะเศรษฐกิจเอเชียเกาะเกี่ยวและเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกอย่างมากและยังพึ่งการส่งออกสูง อย่างไรก็ตาม เอเชียจะกลับมาเติบโตได้ในระดับ 4.3% ในปีหน้า


ไอเอ็มเอฟระบุว่า กลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทยจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากพึ่งพาการส่งออกสูง ทั้งนี้คาดว่าปีนี้ประเทศไทยจะติดลบ 3% มาเลเซียติดลบ 3.5% ฟิลิปปินส์ 0% ส่วนปีหน้าไทยจะเติบโตประมาณ 1% มาเลเซีย 1.3% เนื่องจากทั้งสองประเทศนี้ใช้มาตรการทางการคลังอย่างแข็งแกร่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ฟิลิปปินส์จะขยายตัว 1% สำหรับประเทศอื่นในเอเชียที่จะติดลบมากในปีนี้ ก็อย่างเช่น สิงคโปร์ติดลบ 10% และยังจะติดลบต่อเนื่องไปถึงปีหน้าที่คาดว่าจะติดลบ 0.1% ส่วนไต้หวันติดลบ 7.5% ฮ่องกงติดลบ 4.5% ในปีนี้

สั่งรีดภาษีบาปคอสุราเซ็งปรับขึ้น 4-20 บ.

สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 6 พ.ค.52 นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้อนุมัติการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต เบียร์ สุราและบรั่นดี อีก 7-9% มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาลปีละประมาณ 6.3 พันล้านบาท และจะช่วยลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขในอนาคต ประกอบด้วย การปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตเบียร์ จาก 55%เป็น 58%, สุราขาว ปรับขึ้นอัตราภาษีจาก 110 บาท/ลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็น 120บาท/ ลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์, สุราผสม ปรับขึ้นอัตราภาษีจาก 280 บาท/ลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็น 300 บาท/ลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์และบรั่นดี ปรับขึ้นภาษีจาก 45% เป็น 48%

นอกจากนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ โดยอาจมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตสินค้าประเภทอื่นๆ อีกตามความเหมาะสม หากอัตราภาษีสินค้าประเภทใดมีการจัดเก็บภาษีเต็มเพดานแล้วก็จะออกเป็น พ.ร.ก. เพื่อขยายเพดานการเก็บภาษี และหากรัฐบาลมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตอื่นๆ อีก คาดว่าจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 70,000 ล้านบาท/ปี

ด้านนายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตเบียร์จะทำให้ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 4-5 บาท/ขวด สุราขาว เพิ่มขึ้น 1.75-2.50 บาท/ขวด สุราผสม ราคาเพิ่มขึ้น 4-5 บาท/ขวด ส่วนบรั่นดี ราคาเพิ่มขึ้น 19 บาท/ขวด

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง คาดว่าจะมีการพิจารณาขยายเพดานการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ และภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ทั้งนี้หาก พ.ร.ก.ดังกล่าวผ่าน คาดว่าสินค้าบุหรี่จะถูกจัดเก็บภาษีเพิ่มเป็น 85-90% ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.วรรณรัตน์ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)เป็นการด่วน เพื่อพิจารณาลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากกรณีกระทรวงการคลังได้เสนอต่อที่ประชุม ครม.เรียกเก็บภาษีน้ำมันทุกประเภทเพิ่มอีก 2 บาท/ลิตร โดยอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน ขยับเป็น 7 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ อี 10 ขยับเป็น 6.50 บาท ไบโอดีเซล บี 2 ขยับเป็น 5.3050 บาท/ลิตร และเมื่อขยับภาษีแล้วจะทำให้ประชาชนต้องจ่ายภาษีเทศบาลเพิ่มเติม ส่งผลให้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นไปด้วย ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงเตรียมลดเงินกองทุนน้ำมันฯ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ

ขณะที่นายทวีวัฒน์ รติรมย์พันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ ซี.ดี.ซัพพลายจำกัด ตัวแทนจำหน่ายสุรา เบียร์ ทั้งในและต่างประเทศรายใหญ่ของภาคเหนือ กล่าวว่ามติปรับขึ้นเพดานภาษีเหล้าและเบียร์ จะส่งผลกระทบอย่างแน่นอน และตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจภาพรวมตลาดเหล้า-เบียร์ มียอดขายลดลงกว่าร้อยละ 30-40 อยู่แล้ว หากรัฐบาลปรับเพิ่มเพดานภาษี คาดว่ายอดขายจะลดลงจากเดิมอีก แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน ว่าหลังปรับขึ้นภาษีแล้วราคาเหล้าเบียร์แต่ละยี่ห้อจะปรับขึ้นเท่าใด

ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ผู้ผลิตและจำหน่ายสุรา เบียร์โซดาและน้ำดื่ม ภายใต้สินค้า เบียร์ช้าง สุราแม่โขง สุราแสงโสม เป็นต้น มีคำสั่งให้สำนักงานในต่างจังหวัด แจ้งไปยังตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่รับผิดชอบ ว่าทางบริษัท จำเป็นต้องหยุดการจำหน่ายสินค้าชั่วคราวเพื่อรอการกำหนดราคาใหม่ หลังจากที่มีการปรับภาษีแต่ในวันนี้ทำให้เกิดความปั่นป่วนให้กับลูกค้า เนื่องจากเอเย่นต์บางแห่งไม่มีสินค้าในสต็อค ทำให้ไม่สามารถส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้

บีโอไอไฟเขียว กลุ่มเอทานอล เม็ดเงิน 2 พันล.

เว็บไซต์ไทยโพสต์ - นางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตเอทานอล และการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล 5 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 2,548 ล้านบาท คาดเกิดการใช้วัตถุดิบจากผลผลิตทางการเกษตรในประเทศไม่ต่ำกว่า 1,190 ล้านบาทต่อปี โดยกิจการที่ได้รับการส่งเสริม ได้แก่ การผลิตเอทานอล 99.5% ของบริษัทในเครือน้ำตาลไทยรุ่งเรือง ใช้วัตถุดิบจากกากน้ำตาล เป็นการลงทุนใน 2 บริษัท เงินลงทุนรวม 1,332 ล้านบาท คือ บริษัท บ้านไร่พลังงาน จำกัด ที่ จ.อุทัยธานี และบริษัท ฟิวเจอร์ ฟูเอล จำกัด ที่ จ.เพชรบูรณ์ กำลังการผลิต 43,800,000 ลิตรต่อปีต่อแห่ง ทั้ง 2 บริษัท มุ่งจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออก

อีก 3 โครงการ ได้แก่ บริษัท กรีนไบโอ เอ็นเนอร์จี 19 จำกัด ได้รับส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล ขนาด 6 เมกะวัตต์ ใช้แกลบเป็นวัตถุดิบ เงินลงทุน 340 ล้านบาท อยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา, บริษัท สตาร์ พาวเวอร์ แพลนท์ จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุน 2 โครงการ อยู่ที่ จ.ตาก ได้แก่ การผลิตไฟฟ้าแบบพลังงานร่วมใช้แกลบเป็นเชื้อเพลิง ขนาด 8.9 เมกะวัตต์ เงินลงทุน 696.4 ล้านบาท และโครงการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากไอน้ำเชื้อเพลิงชีวมวล 180 ล้านบาท

คุณภาพชีวิต

เล็งแจกไลเซ่นส์เคเบิ้ลทีวี กทช.ดีเดย์ประชาพิจารณ์

เว็บไซต์แนวหน้า - นายพนา ทองมีอาคม ประธานคณะทำงานด้วยกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ (เคเบิ้ลทีวี) เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 พฤษภาคม2552 นี้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน (ประชาพิจารณ์) ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ชั่วคราว (กิจการโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก)

ก่อนหน้านี้กทช.ได้มีการนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปโพสต์ขึ้นบนเว็บไซต์ของ กทช.เพื่อให้ทางประชาชนรับทราบถึงรายละเอียดถึงร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเคเบิ้ลทีวีกว่า 400 บริษัท และจำนวนนี้เคยได้รับใบอนุญาตจาก กรมประชาสัมพันธ์ 78 บริษัท แต่ในขณะนี้ใบอนุญาตหมดอายุแล้ว และตามรัฐธรรมนูญไม่สามารถระงับการแพร่ภาพหรือออกอากาศของผู้ประกอบการเคเบิ้ลในระหว่างนี้ได้ ส่งผลทำให้ทางคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องต้องเร่งออกใบอนุญาตเพื่อรองรับการเปิดให้บริการของเคเบิ้ลทีวี

สำหรับผู้ขอใบอนุญาตเคเบิ้ลทีวีจะต้องแสดงรายละเอียดสัดส่วนรายการและผังรายการเบื้องต้น ซึ่งจะต้องมีข่าวสารหรือสาระอย่างน้อย 25% และมีช่องรายการต่างประเทศ ช่องข่าวรายการท้องถิ่น รายการกีฬา รายการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ รวมทั้งต้องจัดให้มีการบันทึกรายการที่ได้ออกอากาศไปแล้วด้วย

หั่นงบแรงงาน2.6หมื่นล.-เงินสมทบประกันฯเหลือ1.8 หมื่นล.
มติชนออนไลน์ - นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน เปิดเผยวันที่ 6 พฤษภาคมว่า ตามที่กระทรวงแรงงานได้เสนองบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 จำนวน 4.8 หมื่นล้านบาทต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 6 พฤษภาคมว่าที่ประชุมครม.พิจารณาตัดงบประมาณในแต่ละหน่วยงาน ในส่วนกระทรวงแรงงานถูกตัดบลงกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท คงเหลืองบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 จำนวน 2.2 หมื่นล้านบาท ถือว่าลดลงมากเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ที่ได้รับการจัดสรรจำนวน 4.3 หมื่นล้านบาท

รัฐบาลยอมรับว่าไม่มีเงินบริหารจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องตัดงบประมาณบางส่วนลง ในส่วนของโครงการกิจกรรมต่างๆของกระทรวงแรงงานนั้นเฉลี่ยถูกตัดไปกรมละ 40 ล้านบาท ยืนยันว่าภารกิจ โครงการ กิจกรรมต่างๆ ยังเหมือนเดิม ไม่กระทบ”

นายไพฑูรย์ กล่าวว่า สำหรับงบประมาณของกระทรวงแรงงานที่ถูกตัดลงส่วนใหญ่เป็นงบประมาณของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จำนวนกว่า 20,000 ล้านบาท ที่เป็นที่กระทรวงแรงงานขอไปเป็นส่วนที่รัฐบาลต้องชำระการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร้อยละ 2.75 หรือปีละ 3.9 หมื่นล้านบาท เหลือเพียง 1.8 หมื่นล้านบาท

ไฟเขียว 2.2 หมื่นล.พัฒนาแหล่งน้ำ เปิดทางกรมชลฯ เคลื่อน 5 โครงการยักษ์ใต้-ตะวันออก

เว็บไซต์แนวหน้า - นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้กรมชลประทานดำเนินก่อสร้างโครงการชลประทานขนาดใหญ่ 5 โครงการ มูลค่า 22,460 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการผันน้ำจากพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกไปยังอ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้อ่างเก็บน้ำบางพระ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การเกษตร และอุปโภคบริโภค เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถผันน้ำจากคลองพระองค์ไชยานุชิตไปอ่างเก็บน้ำบางพระได้ 70 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี และเท่ากับเป็นการลดปัญหาอุทกภัย น้ำท่วมขังในพื้นที่คลองพระองค์ไชยานุชิต ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคมได้ด้วย

2.โครงการผันน้ำจากพื้นที่ จ.จันทบุรี ไปยัง จ.ระยอง เป็นการผันน้ำจากคลองวังโตนด จ.จันทบุรี ไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง ปีละ 70 ล้านลบ.ม. ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำต้นทุนของ จ.จันทบุรี โดยปริมาณน้ำดังกล่าวจะส่งน้ำต่อมายังอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ตามลำดับ เพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับพื้นที่ชลประทาน 137,000 ไร่ การอุปโภคบริโภค การท่องเที่ยว และการอุตสาหกรรมในเขตจังหวัดระยองอีกด้วย

3.โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองจันทบุรี ระยะที่2 เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัยในตัวเมืองจันทบุรี รวมทั้งใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำบางส่วนสำหรับการเกษตรประมาณ 5,000 ไร่ ตลอดจนช่วยป้องกันการรุกล้ำของน้ำเค็มในช่วงฤดูแล้ง 4.โครงการพัฒนาลุ่มน้ำตาปี-พุมดวง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ประมาณ 73,980 ล้านไร่ และสามารถแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ทำให้มีความอุปโภคบริโภคในพื้นที่ได้ตลอดทั้งปี และ 5.โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง จ.ชลบุรี จะสามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 98 ล้าน ลบ.ม. ช่วยเพิ่มพื้นที่ชลประทานอีก 44,000 ไร่ ซึ่งโดยภาพรวมทั้ง 5 โครงการ จะขยายพื้นที่ทำการเกษตรได้ประมาณ 297,000 ไร่

อบต.เทอดไทยหนุนตั้ง “โลตัสเอ็กซ์เพรส” บนดอย

เว็บไซต์คมชัดลึก - นายธงชัย ลาชี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เปิดเผยว่า กรณีที่จะมีกลุ่มเทสโก้โลตัส เตรียมเข้ามาก่อสร้างสาขาโลตัส เอ็กซ์เพรส ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กในย่านชุมชนการค้า ต.เทอดไทย ซึ่งปัจจุบันพื้นที่บริเวณ ต.เทอดไทย มีร้านค้า โรงพยาบาล เป็นจุดศูนย์กลางการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ 3 ตำบลใน อ.แม่ฟ้าหลวง ทั้ง ต.แม่ฟ้าหลวง ต.แม่สลองนอก และ ต.แม่สลองใน

นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกล่าวว่า ทาง อบต.มองว่ามีความเหมาะสมมาก หากมีสาขาโลตัสเอ็กซ์เพรสเข้ามาตั้งในจุดนี้จริง จะทำให้ ต.เทอดไทย กลายเป็นศูนย์กลางใหม่ที่จะมีประชาชนอาศัยอยู่บนดอยสูง สามารถเดินทางมาซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องขับรถเพื่อเข้าไปซื้อของในตัว อ.เมือง ซึ่งมีระยะทางไกล ต้องใช้เวลาเดินทางนาน และเสียค่าใช้จ่ายมาก

นายธงชัยกล่าวต่อว่า อยากให้ทางโลตัสดูเรื่องเอกสารการครอบครองที่ดินด้วย เพราะว่าหากตั้งผิดจุด เกรงจะมีการปัญหาเรื่องเอกสารการครอบครองที่ดิน ซึ่ง ต.เทอดไทย มีที่ดินทั้งมีเอกสารโฉนดถูกต้อง กับที่ดินป่า หากไม่ศึกษาเรื่องนี้ให้ดี อาจมีปัญหาในอนาคตได้

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากประชาชนทราบข่าวการเข้ามาก่อสร้างโลตัสฯ ทำให้มีประชาชนหลายรายเริ่มวางแผนเก็งขายที่ดินให้กับกลุ่มทุนต่างชาติรายนี้กันอย่างคึกคักแล้ว

ครม.อนุมัติงบ100ล้าน แก้ปัญหาไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่
มติชนออนไลน์ - เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภรักษ์ ควรหา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบกลางจำนวน 100 ล้านบาทสำหรับการระบาดใหญ่ของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ1 เอช1 เอ็น1 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอมา เพื่อใช้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ในระยะเวลา 1 เดือน และเตรียมการจัดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน+3 ในระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคมนี้ สำหรับงบประมาณทั้ง 100 ล้านบาทจะถูกจ่ายเป็นค่าตอบแทนบุคลากร 10.3 ล้านบาท ค่าใช้สอยสำหรับควบคุมการระบาด 3.9 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอาเซียน+3 จำนวน 15 ล้านบาท ค่าวัสดุเวชภัณฑ์ 22.7 ล้านบาท ค่าครุภัณฑ์ 16 ล้านบาท และงบประชาสัมพันธ์ 30 ล้านบาท

ต่างประเทศ

กาชาดยืนยัน อัฟกันสังเวย ทัพสหรัฐถล่ม

ไทยโพสต์ - เฮรัต - เจสสิกา แบร์รี โฆษกของคณะกรรมาธิการกาชาดสากล ระบุว่า กาชาดสากลได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปยังพื้นที่ที่ถูกโจมตีเมื่อบ่ายวันอังคาร และพบศพผู้เสียชีวิตหลายสิบ รวมทั้งเด็กและผู้หญิง นอกจากนี้ บ้านเรือนจำนวนมากยังพังยับเยิน แบร์รีเผยด้วยว่าในจำนวนเหยื่อผู้เสียชีวิต มีอาสาสมัครของสภากาชาดของประเทศมุสลิมรวมอยู่ด้วย 1 คน ทั้งนี้ การเปิดเผยดังกล่าวถือเป็นการยืนยันระดับสากลครั้งแรกเกี่ยวกับเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น

กองทัพสหรัฐในอัฟกานิสถานยอมรับว่า มีส่วนในการสู้รบและการโจมตีทางอากาศในแถบบาลาโบลุคของจังหวัดฟาราห์ตะวันตก ที่เริ่มเปิดฉากตั้งแต่วันจันทร์เรื่อยไปจนถึงวันอังคาร และอ้างว่าขณะนี้กองกัพกำลังสอบสวนรายการเสียชีวิตดังกล่าวร่วมกับทางการอัฟกานิสถาน

โรฮุล อามิน ผู้ว่าฯ จังหวัดฟาราห์ตะวันตก หวั่นว่ายอดเหยื่อการโจมตีอาจมีมากถึง 100 ราย แต่ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่นบอกว่ายอดอาจมากกว่านั้น

หากยอดผู้เสียชีวิตข้างต้นได้รับการยืนยัน จะถือเป็นความสูญเสียที่มากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่กองกำลังผสมโดยการนำของสหรัฐเปิดฉากสงครามโค่นล้มกลุ่มตอลิบันเมื่อปี 2544

ทำเนียบประธานาธิบดีอัฟกานิสถานแถลงว่า ประธานาธิบดีฮามิด การ์ไซ ที่ขณะนี้อยู่ที่วอชิงตันและมีกำหนดเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐในวันพุธ จะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดคุยกับผู้นำสหรัฐอย่างแน่นอน

ปากี 5 หมื่นหนีภัยสู้รบตาลิบัน

ไทยโพสต์ - มิงโกรา - กองกำลังความมั่นคงของปากีสถานเปิดฉากรุกโจมตีนักรบตอลิบันในพื้นที่หุบเขาสวัตทั้งภาคพื้นดินและอากาศเมื่อวันพุธ คลื่นประชาชนกว่า 50,000 คนหลั่งไหลอพยพหนีภัยสู้รบนับแต่วันอังคารหลังรัฐบาลออกคำเตือน ขณะผู้นำปากีฯ มีนัดหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐที่วอชิงตัน

การแผ่อิทธิพลเพิ่มขึ้นของกลุ่มตอลิบันในประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองแห่งนี้กำลังสร้างความตื่นตัวทั้งในและต่างประเทศ และคาดว่าปัญหานี้จะเป็นประเด็นหลักของการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีบารัก โอบามา, ประธานาธิบดีอาซิฟ อาลี ซาร์ดารี ของปากีสถาน และประธานาธิบดีฮามิด การ์ไซ ของอัฟกานิสถานในวันพุธ

ข้อตกลงสันติภาพที่ทางการปากีสถานทำไว้กับตอลิบันเพื่อยุติความรุนแรงในพื้นที่หุบเขาสวัต แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเมื่อครั้งอดีต อยู่ในสภาพใกล้พังทลาย ประชาชนหลายแสนคนเริ่มอพยพหนีออกจากเมืองมิงโกรา เมืองหลักของภูมิภาคนี้ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงอิสลามาบัดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราว 130 กม.ภายหลังเจ้าหน้าที่รัฐบาลประกาศเตือนเมื่อวันอังคารว่ากำลังจะมีการสู้รบเกิดขึ้น

มีการปะทะกันอย่างดุเดือดเมื่อช่วงดึกทั้งในและโดยรอบเมืองมิงโกรา ซึ่งประชาชนถูกห้ามออกจากเคหสถานช่วงเคอร์ฟิว พวกนักรบตอลิบันได้เข้ายึดอาคารที่ทำการสำคัญๆ หลายแห่งของรัฐบาลในเมืองนี้ไว้ได้ และขึ้นคุมตามดาดฟ้าอาคารต่างๆ โดยกองทัพได้ส่งเฮลิคอปเตอร์กันชิพออกโจมตีและยิงปืนใหญ่ถล่มจากภาคพื้นดิน เพื่อขับไล่ตอลิบันออกจากเมือง และสามารถสังหารนักรบได้ 64 ราย

อย่างไรก็ดีรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งปฏิเสธเสียงคาดเดาที่ว่าการปะทะกันครั้งนี้ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลใกล้เปิดปฏิบัติการรุกโจมตีในหุบเขาในเร็วๆ นี้ แต่ชาวบ้านกล่าวกันว่าพวกตนเห็นขบวนรถบรรทุกทหารเข้าไปในพื้นที่ เจ้าหน้าที่รัฐบาลปากีสถานเผยด้วยว่ากำลังมีการเสริมกำลัง

รัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดนอร์ทเวสต์ฟรอนเทียร์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งจัดหาที่พักพิงให้ผู้อพยพที่คาดว่าจะมีมากถึง 500,000 ราย หุบเขาโด่งดังแห่งนี้มีประชากรรวมเกือบ 2 ล้านคน แต่นับแต่เดือนสิงหาคมปีก่อนมีผู้คนอพยพจากพื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือแถบนี้แล้วหลายแสนคน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวด้วยว่า นับแต่บ่ายวันอังคารเป็นต้นมามีชาวบ้านมากกว่า 40,000 คนหลั่งไหลหนีออกจากเมืองมิงโกราแล้ว

“คลื่นอพยพมากกว่า 40,000 คนถือเป็นตัวเลขขั้นต่ำสุด อันที่จริงแล้วอาจมีมากกว่า 50,000 คน” เจ้าหน้าที่ข่าวกรองรายหนึ่งกล่าว

ชาวเมืองมิงโกราบางรายกล่าวว่าเสบียงอาหารที่พวกตนมีอยู่กำลังร่อยหรอ และอยากหลบหนีจากเมืองนี้ให้เร็วที่สุด แต่ทำไม่ได้เพราะคำประกาศเคอร์ฟิว

รัฐบาลปากีสถานถูกวิจารณ์อย่างหนักที่ทำข้อตกลงสันติภาพกับตอลิบันในหุบเขาสวัต โดยยอมให้ตอลิบันใช้หลักกฎหมายอิสลาม (ชะรีอะอ์) ในพื้นที่นี้ได้ แต่ฝ่ายตอลิบันกลับปฏิเสธจะวางอาวุธตามข้อตกลง เดือนที่ผ่านมานักรบส่วนหนึ่งยังบุกยึดอำเภอบูเนอร์ ซึ่งห่างจากกรุงอิสลามาบัดทางตะวันตกเฉียงเหนือเพียง 100 กม. และเมืองติดกับเขตสวัตอีก 1 เมือง

ความกังวลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและแรงกดดันจากสหรัฐที่เป็นห่วงความปลอดภัยคลังอาวุธนิวเคลียร์ของปากีสถาน ทำให้รัฐบาลเปิดปฏิบัติการขับไล่ตอลิบันออกจาก 2 เมืองนี้เมื่อวันที่ 26 เม.ย. กองทัพคุยว่าสามารถฆ่านักรบได้ 180 คน แต่ไม่มีข้อมูลยืนยันจากหน่วยงานอิสระ

ในวันพุธ กองกำลังป้องกันชายแดนแถลงด้วยว่า ได้ยิงปืนใหญ่ถล่มที่มั่นของพวกกบฏในเมืองบูเนอร์ และสามารถฆ่านักรบได้ 27 คนและทำลายยานพาหนะอีก 8 คัน

ที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งผู้นำประเทศทั้งสามคนจะร่วมหากันที่ทำเนียบขาวนั้น เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเผยว่าประธานาธิบดีโอบามาจะกล่าวเร่งเร้าให้ผู้นำปากีสถานและอัฟกานิสถานลืมเรื่องบาดหมางความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างสองชาติในอดีตที่ผ่านมา และรวมตัวกันเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลสหรัฐในการต่อสู้กับพวกที่มีแนวคิดสุดโต่ง

จีนห่วงปัญหาขัดแย้งทางทะเลกับสหรัฐ

ไทยโพสต์ - เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า ความขัดแย้งล่าสุดเมื่อวันศุกร์ เกิดขึ้นบริเวณน่านน้ำสากลห่างจากแผ่นดินจีนราว 274 กม. เมื่อเรือประมงจีน 2 ลำแล่นเข้าประชิดเรือตรวจการณ์ยูเอสเอ็นเอส วิคทอเรียส ของสหรัฐ ในระยะห่างเพียงไม่กี่เมตร ฝ่ายสหรัฐจึงตัดสินใจส่งสัญญาณเตือนและใช้น้ำฉีดสกัด แต่เรือทั้งสองลำก็ยังไม่ยอมถอย จนกระทั่งเรือแวเกอร์-17 ของกองทัพจีนเดินทางมาถึง

เพนตากอนบอกว่า เรือยูเอสเอ็นเอสกำลังปฏิบัติภารกิจตรวจตราบริเวณน่านน้ำระหว่างจีนและคาบสมุทรเกาหลีตามปกติ แต่จู่ๆ เรือ 2 ลำนี้ก็โผล่มา และยังไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่

หม่าเจ้าซู โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า ทางการจีนรู้สึกเป็นห่วงกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายสหรัฐใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก และว่าเรือของสหรัฐเข้ามาในเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการไม่ให้ความเคารพต่อทั้งจีนและกฎหมายระหว่างประเทศ อย่างไรก็ดี นายหม่าไม่ได้ระบุถึงเรือแวเกอร์-17 ที่เพนตากอนเอ่ยถึงแต่อย่างใด

ความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 5 ในระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือน ก่อนหน้านี้ เพนตากอนกล่าวหาว่าเรือของจีนข่มขู่คุกคามเรือตรวจการณ์ยูเอสเอ็นเอส อิมเพคเคอร์เบิล ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในทะเลจีนใต้ ห่างจากเกาะไหหนานซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือดำน้ำของจีนราว 120 กม. ส่งผลให้ฝ่ายสหรัฐไม่พอใจและประท้วง

พร้อมเตือนว่าท่าทีของจีนในภูมิภาคจะยิ่งแข็งกร้าวมากขึ้นในอนาคต แต่ไม่นานหลังจากนั้น นายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ กลับเลี่ยงไม่แตะประเด็นนี้ โดยกล่าวเพียงว่าเขาหวังว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะได้รับการแก้ไขผ่านช่องทางการทูต

เชื้อหวัด 2009 พุ่ง 24 ชม.ป่วย 403 คน

สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 6 พ.ค.52 นายโฮเซ แองเจล คอลโกลา รมต.สาธารณสุขเม็กซิโกกล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือ เอช 1เอ็น 1 ในขณะนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 29 รายแล้ว และติดเชื้ออีก 913 ราย โดยผู้ที่ติดเชื้อจะมีอายุระหว่าง 20-39 ปี

ด้าน องค์การอนามัยโลก หรือ ฮู ได้รายงานจำนวนผู้ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลก ว่า มีอย่างน้อย 1,617 ราย และมีผู้เสียชีวิต 31 ราย

ขณะเดียวกัน นางแคธลีน เซเบเลียส รมต.สาธารณสุขสหรัฐฯ แถลงข่าวร่วมกับนายริชาร์ด เบสเซอร์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ว่าโรคติดต่อนี้เป็นเหมือนกับไข้หวัดธรรมดา และในฤดูกาลหวัด โรงเรียนจะพิจารณาปิดการเรียนการสอนเมื่อมีครูและนักเรียนจำนวนมากป่วยเท่านั้น จึงมีความคิดที่จะผ่อนปรนคำชี้แนะปิดโรงเรียนป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อหวัดเอช 1 เอ็น 1 ซึ่งผลสรุปโดยรวม ซึ่งได้ศึกษาอย่างระมัดระวัง ยังขอแนะนำให้นักเรียนที่ติดเชื้อพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านต่อไปอีก 7 วันแต่โรงเรียนสามารถสบายใจได้มากขึ้นต่อกรณีเปิดการเรียนการสอน

นางแคธลีน กล่าวด้วยว่า พบผู้ป่วยรายที่ 2 ในสหรัฐฯ ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส เอช 1 เอ็น 1 เป็นครูผู้หญิงจากเท็กซัส อายุประมาณ 30 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 4พ.ค.หลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนานถึง 3 สัปดาห์ และตามความเข้าใจในเบื้องต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตไม่น่าจะเดินทางไปเม็กซิโกในช่วงที่ผ่านมา เพียงแค่พำนักอยู่ในเมืองคาเมรอน ทางใต้สุดของรัฐเท็กซัส ซึ่งมีพรมแดนเชื่อมต่อกับเม็กซิโก

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นพลเมืองสหรัฐฯรายแรก ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ในสหรัฐฯมีผู้เสียชีวิต 1 ราย แต่เป็นเด็กทารกชาวเม็กซิโกที่เดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองที่มาเยี่ยมครอบครัวในเมืองบราวน์ส์วิลล์ ตามแนวพรมแดนโดยเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในฮิวส์ตันเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา

ขณะที่ นายริชาร์ด กล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ พุ่งเป็น 403 คนแล้ว ภายใน 24 ชั่วโมง ทั้งที่เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ยังพบผู้ติดเชื้อแค่ 286 คน แต่ไม่ได้หมายความว่าเชื้อแพร่ระบาดมากขึ้น แต่เป็นเพราะเจ้าหน้าที่กระจายการตรวจสอบหาผู้ติดเชื้อได้อย่างกว้างขวาง จึงพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น

ทางด้าน สาธารณสุขสิงคโปร์ ได้ประกาศห้ามประชาชน จำนวน 8 ราย ที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศเม็กซิโก ห้ามเดินทางออกนอกบ้านพัก 1 สัปดาห์ โดยคำสั่งกักตัวอยู่ในบ้านพัก ประกาศภายใต้กฎหมายโรคติดต่อ สำหรับผู้ที่ติด หรือต้องสงสัยว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 เพื่อเป้าหมายจำกัดการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในชุมชน

โดยแถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ยังระบุว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งจะถูกปรับเป็นเงิน 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 240,000 บาท) หรือจำคุก 6 เดือนทั้งนี้โทษจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งเป็นครั้งที่สอง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเว็บไซต์สถานทูตจีนในสหรัฐฯ แถลงว่า จีนขอระงับการให้บริการวีซ่าด่วนและด่วนพิเศษสำหรับชาวอเมริกัน โดยกระบวนการขอวีซ่าจีนจะเปลี่ยนแปลงเป็น 6 วันทำการ ทั้งนี้ไม่ได้ระบุว่าเป็นมาตรการเพื่อสกัดกั้นไวรัสเอช 1เอ็น 1 และไม่ได้แถลงว่าการเปลี่ยนแปลงบริการนี้ครอบคลุมถึงประเทศอื่นด้วยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ทางการจีนเข้มงวดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซึ่งรวมถึงการกักตัวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หลังมีรายงานแพร่ระบาดในเม็กซิโกและสหรัฐ ฯ นอกจากนี้ สถานทูตจีนในสหรัฐฯ ยังขอให้ผู้ยื่นขอวีซ่าต้องกรอกข้อมูลว่าเคยไปประเทศใดบ้างในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนขอวีซ่าเดินทางเข้าจีน

ฟิลิปปินส์เตือนภัยพายุ ขึ้นฝั่งพรุ่งนี้ มะนิลารับผลกระทบ

เว็บไซต์ไทยรัฐ - สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันนี้ ( 6พ.ค.) ว่า ทางการฟิลิปปินส์ แถลงว่ายอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่น “คุจิระ” ที่ก่อให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในภูมิภาคไบคอล ทางตะวันออกของประเทศ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 27 คนแล้ว ส่วนผู้ไร้บ้านมีกว่า 54,000 คน

กรมอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ ยังเตือนภัยพายุลูกใหม่ ชื่อว่า “จันทน์หอม” มีความเร็วลม 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง กำลังก่อตัวเหนือทะเลจีนใต้ คาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งตะวันตกของประเทศในเช้าวันพรุ่งนี้ (7พ.ค.) กรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศจะได้รับผลกระทบด้วย

ส่วนเหตุน้ำท่วมใหญ่ใน 10 เมืองของ 34 จังหวัดในประเทศอัฟกานิสถาน ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้คนแล้วเกือบ 30 คน บ้านเรือนเสียหายกว่า 1,200 หลังคา ด้านเหตุน้ำท่วมและดินถล่มในช่วงหน้าฝน ทางเหนือของประเทศบราซิล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คนและผู้คนไร้บ้านนับแสนคน

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker