บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ไทยจะเสียเพื่อนเพิ่มขึ้น / ทางเสือผ่าน

ที่มา สยามรัฐ

นายอิสระชัย25/12/2552

ล็อตแรกผ่านไปแล้ว มาล็อตสองความเข้มข้นของเอกสารลับกระทรวงการต่างประเทศที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นำมาเปิดเผยก็ไม่ได้แตกต่างกับล็อตแรก เพียงแต่ให้รายละเอียดมากกว่าเท่านั้น
ประเด็นความสนใจไม่ได้อยู่ที่เอกสารมีกี่หน้า ใครเป็นสปายสายลับในกระทรวงบัวแก้วที่ส่งเอกสารให้ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล แต่สาระสำคัญอยู่ที่การวิเคราะห์สถานการณ์และมาตรการต่างๆที่กระทรวงการต่างประเทศโดยนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการได้นำเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
รวมทั้งผลที่จะเกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชาและประชาชนของทั้งสองประเทศจะเป็นอย่างไร ถ้าหากนายอภิสิทธิ์บ้าจี้เอาตามที่นายกษิตเสนอเพื่อควสาม”สะใจ”ของตนเอง
เอกสารลับมากของกระทรวงการต่างประเทศที่นายจตุพรหรือตู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเกลอแกนนำคนเสื้อแดงนำมาเปิดเผยมาเป็นระลอกที่สองนี้ เป็นเรื่องขอการส่งสัญญาณและระดับความรุนแรงเพื่อเตรียมมาตรการป้องปรามและตอบโต้การกระทำของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
ซึ่งมาตรการต่างๆที่เตรียมไว้หากมีความจำเป็นต้องใช้ มีตั้งแต่ระดับมาตรการรุนแรงน้อย ปานกลางและรุนแรงมาก มีการวิเคราะห์ถึงผลดีผลเสียของแต่ละมาตรการ ยกตัวอย่างเช่น ชะลอความร่วมมือวิชาการไทย-กัมพูชา ชะลอการเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหมที่บริเวณคลองลึก-ปอยเปต ขัดขวางหรือไม่สนับสนุนการลงสมัครของกัมพูชาในเวทีระหว่างประเทศต่างๆซึ่งเป็นมาตรการความรุนแรงน้อย
ส่วนระดับปานกลาง เช่น ระงับการเปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าบริเวณบ้านโนนหมากมุ่น จ.สระแก้ว ชะลอการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เป็นต้น ในขณะที่มาตรการความรุนแรงมากมีตั้งแต่ยกเลิกสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไทย-กัมพูชา ยกเลิกเอ็มโอยูว่าด้วยพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา เสริมกำลังทางทหารของไทยบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาทุกจุดให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบริเวณปราสาทพระวิหาร
อย่างไรก็ดี มาตรการที่กระทรวงการต่างประเทศได้นำเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ครั้งนี้ย่อมจะมีผลกระทบด้วยกันทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครได้หรือเสียทั้งหมดเหรอก มันก็เหมือนกับการสาดน้ำเข้าใส่กันก็ต้องเปียกด้วยกันทั้งคู่ อยู่ที่ว่าใครจะเปียกมากกว่ากันเท่านั้น
ยกตัวอย่างมาตรการออก Investment Travel Advisory เตือนคนไทยและนักธุรกิจไทย แม้จะตัดแหล่งรายได้ของกัมพูชาซึ่งมาจากการท่องเที่ยวจากประเทศไทยประมาณปีละ 3-4 หมื่นล้านบาท ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การลงทุนและการท่องเที่ยวของกัมพูชา
ทว่า ไทยก็ต้องแลกกับการเสียประโยชน์ทางการค้าและการท่องเที่ยวเช่นกัน ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม มาเลเซีย ได้รับประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวแทน ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลต้องรับแรงกดดันจากภาคธุรกิจไทยมากขึ้น
เช่นเดียวกับการระงับเปิดจุดผ่อนปรนทางการค้า ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเชื่อว่าจะส่งผลต่อนักธุรกิจกัมพูชาที่ให้ผลประโยชน์แก่สมเด็จ ฮุน เซน หรือตีความง่ายๆหากใช้มาตรการดังกล่าวจะเป็นการตัดรายได้และเงินสนับสนุนสมเด็จ ฮุน เซน
แต่ไทยได้เตรียมรับผลกระทบหรือยัง โดยเฉพาะนักธุรกิจท้องถิ่นของไทยที่ต้องเสียประโยชน์ ซึ่งะจะต้องเพิ่มแรงกดดันรัฐบาลแน่นอน ยิ่งถ้านายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เจ้าพ่อวังน้ำเย็นเข้าร่วมอีกคน
นายอภิสิทธิ์ก็นายอภิสิทธิ์เถอะ เจอฤทธิ์ป๋าเหนาะแล้วอยู่ไม่เป็นสุขแน่ และต้องไม่ลืมว่าการค้าชายแดนตลอดจนธุรกิจอื่นๆที่คนไทยเข้าไปลงทุนในกัมพูชานั้น ไม่ใช่เฉพาะนักธุรกิจท้องถิ่นเท่านั้น แต่เป็นนายทุนใหญ่ระดับชาติจาก กทม.ด้วย
ถ้าความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาเลวร้ายไปมากกวานี้ เช่น ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและทำสงครามกัน แน่นอนว่านักธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชาต้องได้รับผลกระทบ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นทั้งรัฐบาลและประชาธิปัตย์นั่นแหละจะเดือดร้อน
ต้องไม่ลืมว่านักธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชาเป็นนายทุนให้กับพรรคการเมือง ซึ่งอาจรวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ถ้ารัฐบาลใช้มาตรการเหล่านี้กดดันรัฐบาลกัมพูชามันก็เท่ากับทุบหม้อข้าวตัวเองเหมือนกัน
นี่ยังไม่ได้รวมถึงมาตรการทางทหารและต่างประเทศ เช่น ไม่สนับสนุนข้อเสนอของสมเด็จ ฮุน เซน ในการจัดตั้งสมาคมผู้ผลิตข้าวภายในกรอบ ACMECS และชะลอความร่วมมือต่างๆในกรอบ ACMECS ซึ่งสมเด็จ ฮุน เซน จะผลักดันในการปรุชม ACMECS Summit ที่กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพในปี 2553
แต่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่แค่กัมพูชาเท่านั้น อาจรวมไปถึงเพื่อนบ้านที่ผลิตข้าว เช่น ลาว เวียดนาม พม่า ดังนั้น หากไทยใช้มาตรการดังกล่าวกับกัมพูชา ก็จะถูกประเทศเหล่านี้คัดค้าน
เมื่อนั้นไทยก็จะเสียเพื่อนเพิ่มขึ้น
ทั้งกัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนามได้ร่วมจัดตั้งกลุ่ม C L M V ขึ้นมาเมื่อปี 2547 เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจและความไว้เนื้อเชื่อใจกันและกัน ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 4 ประเทศได้คลางแคลงใจประเทศไทยในหลายเรื่อง ในขณะที่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อกัน
ในยุคสงครามเย็น ตอนที่ไทยสู้รบกับเวียดนามบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีสมาชิกอาเซียนประเทศไหนบ้างช่วยไทยรบ นายอภิสิทธิ์ควรกลับไปทบทวนเหตุการณ์ในช่วงนั้นก่อน
ถ้าคิดจะรบกับสมเด็จ ฮุน เซน

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker