บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ผลักเพื่อนล่อบาทา!

ที่มา ไทยรัฐ

ดูทื่อๆ แต่จริงๆแล้วซ่อนคมกริบเลย

กับคิวที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ไปพูดผ่านรายการความจริงวันนี้ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม “ดีสเตชั่น” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประโยคหนึ่งที่ว่า

“หากผมเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ประชาชนจะเห็นมาตรการปราบปรามยาเสพติด”

ฟังเผินๆเหมือนไม่มีอะไร แค่เรื่องของคนที่พูดได้ แต่ไม่มีโอกาสทำ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด “เอแบคโพล” ระบุตัวเลขชัดๆ ประชาชนถึงร้อยละ 67.2 มากเป็น

อันดับหนึ่ง อยากให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พูดถึงปัญหาการกลับมาระบาดของยาเสพติด ในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์”

นี่แหละสัญญาณอันตราย

ไม่ใช่แค่กับสถานะของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ แต่มันหมายถึงสถานะของเยาวชนคนไทย วันนี้ยาเสพติดกำลังกลับมาระบาดอย่างหนักในทุกหัวระแหงของประเทศ

ฝันร้ายกลับมาหลอกหลอนคนไทย

หลังได้นอนตาหลับกับผลงานชิ้นโบแดงสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำสงครามกับยาเสพติด ปราบกันแบบถึงลูกถึงคน จนซาไปพักใหญ่

รัฐบาล “อภิสิทธิ์” กำลังเจอโจทย์โคตรยาก

เอาเป็นว่า คะแนนหด ต้นทุนหายแน่ หากพรรคประชาธิปัตย์ยังคงเมามันอยู่กับการเปิดเกมการเมืองตามสไตล์ถนัด ไม่จับต้องผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน

บริหารแบบเบี่ยงกระแส เอาตัวรอดไปวันๆ

โดยเฉพาะการเปิดเกมเขี้ยวๆกับเพื่อนพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน

มันต้องมีที่มาที่ไปแน่ กับเรื่องร้อนๆกรณีมีข่าวแพร่สะพัดในวงการธุรกิจว่า มีรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายกฯอภิสิทธิ์รายหนึ่ง ถูกทางการสหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศ

เนื่องจากประกอบธุรกิจที่ไร้จริยธรรม (Immoral Business)

และก็เป็นนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ออกมาชี้แจง ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง น่าจะเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองมากกว่า เพราะเพิ่งไปต่ออายุหนังสือเดินทาง เนื่องจากเล่มเก่าหาย

โดยได้รับการต่อวีซ่าเข้าสหรัฐฯระยะเวลา 10 ปีมาเรียบร้อยแล้ว

ในขณะที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาช่วยเคลียร์ ไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว และไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ เพราะก่อนหน้านี้หอการสหรัฐฯและทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ก็ได้เข้าเยี่ยมคารวะ รมว.พาณิชย์ ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ

แต่ก็อีกนั่นแหละ ไม่มีมูลหมาไม่ขี้

หรือไม่ก็มีคนไปเขี่ยมูลให้หมาขี้

ที่แน่ๆ โดยเรื่องลับๆแหลมๆวงในเกี่ยวกับการทูต ด่านแรกเลยที่จะระแคะระคายก็คือ กระทรวงการต่างประเทศที่มีนายกษิต ภิรมย์ คนของประชาธิปัตย์ นั่งคุมเกมอยู่

และก็เป็นที่รู้กันในวงการ นางพรทิวาเป็นทายาทของนักธุรกิจใหญ่ที่ล้อกันเล่นในหมู่นักเที่ยวว่า เป็นเจ้าของ 3 วัด “วัดโพ- วัดไทร-วัดดอน”

คิวนี้ “ก้นร้อน” ก็แล้วกัน

และแม้จะได้รับความเอื้ออาทรจากคนของพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยเคลียร์ให้พอเป็นพิธี โดยลีลาไม่ได้แตกต่างจากคิวของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย คนของพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการอุ้มชูเอ็นดูเป็นพิเศษจากนายกฯอภิสิทธิ์ และคนของพรรคประชาธิปัตย์

ไม่แตะต้อง ไม่เขี่ยออกจาก ครม.

แถมยังแก้ต่างให้เสร็จสรรพว่า คิวแจกเงินหลวงพร้อมนามบัตรของนายบุญจง ถือว่าไม่ได้เกิดความเสียหายกับประชาชน ถือเป็นคนละกรณีกับนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ ที่โดนโละออกไป

“อภิสิทธิ์” ยอมโดนด่า ไม่กล้าแหยมกับ “พ่อมดเขมร”

นั่นเพราะรู้อยู่แก่ใจ โดยเงื่อนไขที่นายบุญจงโดนดักอยู่ทั้งด่านของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่โดนพรรคเพื่อไทยยื่นเชือด และด่านของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในคดีใบแดงที่โคราช

โอกาสรอดแทบไม่มี

นี่แหละเกม “ซาดิสต์” ของเซียนจอมโหดอย่างพรรคประชาธิปัตย์ใช้ “บุญจง” ที่บาดเจ็บสาหัสแผลเต็มตัว เลี้ยงไว้ “ล่อเป้า”

เบี่ยงกระแสลดแรงเสียดทานที่จะพุ่งเข้าใส่คนของพรรคประชาธิปัตย์

จากคิวของนายบุญจงมาถึงคิวของนางพรทิวา ถึงนาทีนี้ ค่ายภูมิใจไทยน่าจะเอะใจในความเอื้ออาทรแบบมีเลศนัยของเพื่อนกินเพื่อนกันอย่างพรรคประชาธิปัตย์

เผลอๆก็ถีบเพื่อนออกมาล่อบาทา.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker