เสียบเก้าอีรมช. รบ.เซ็งฝ่ายค้าน ยื้อสภาถกพรก.
มอบตัว - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน บก.น.1 คดีม็อบเสื้อแดง โดยไม่ขอใช้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองระหว่างสมัยประชุมสภาฯ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับมอบตัว |
มาร์คแบ่งรับแบ่งสู้ปรับครม.
เวลา 09.00 น. วันที่ 18 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เป็นประธานประชุมส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ห้องสารนิเทศ อาคารรัฐสภา 1 จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับ ครม.ว่า พรรคภูมิใจไทยยังไม่เสนอเข้ามา ยืนยันไปตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.แล้วว่ายังไม่มีการปรับ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่คิดที่จะปรับตอนนี้ เมื่อถามย้ำว่าทั้งนายกษิตย์ ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ ที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่ค่อยพอใจการทำงาน จะยังไม่ปรับเปลี่ยนใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องปรับครม. ตนเพียงแต่ตอบคำถามว่าถ้ามีพรรคร่วมรัฐบาลเสนอมาก็จะพิจารณาให้ โดยจะดูในเรื่องประสิทธิภาพการทำงาน และโดยหลักการตนประเมินการทำงานอยู่ตลอดเวลา ยืนยันในชั้นนี้ยังไม่มีพรรคใดมีความเคลื่อน ไหวในช่วงนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประเมินว่าจะปรับ ครม.หรือไม่ เกี่ยวข้องกับการตั้งให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็น ประธานคณะทำงานประเมินผลการทำงานของรัฐมนตรีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ปฏิเสธว่า ไม่ใช่ เป็นการตั้งให้ทำหน้าที่ในการติดตามเพราะจะต้องรายงานผลงานต่อสภา และต่อองค์กรต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ จึงต้องรวบรวมผลงานของกระทรวงต่างๆ จึงมอบให้นายสาทิตย์ ดำเนินการเพราะเป็นผู้ดูแลการบันทึกมติครม.และติดตามงานที่เกี่ยวกับครม. แต่ไม่ใช่ทำเพื่อเป็นฐานข้อมูลในการพิจารณาปรับครม. แต่ทำไว้เพื่อเตรียมแจงให้รับทราบถึงความคืบหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของกระทรวง
โต้เขี่ยออก"กษิต-กอร์ปศักดิ์"
ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ อาจมีชื่อถูกปรับออกจากครม.ว่า ไม่มี ยังไม่เห็นข่าว ไม่เห็นมีใครพูด รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ยังทำหน้าที่ตามปกติ ส่วนที่มีข่าวพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มี นายกอร์ปศักดิ์ยังทำงานแข็งแรงและเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ผู้สื่อข่าวถามถึงพรรคภูมิใจไทยผลักดันนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม เป็นรมช.เกษตรฯ แทนนายชาติชาย พุคยาภรณ์ นายสุเทพกล่าวว่า เห็นจากข่าว ยังไม่ทราบรายละเอียด เมื่อถามว่าการปรับครม. ต้องรอผลการสอบสวนของป.ป.ช.กรณีเขาพระวิหารก่อนหรือไม่ เนื่องจากมีรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องถึง 5 คน รองนายกฯกล่าวว่า การปรับครม.ต้องมีสาเหตุ แต่ยืนยันว่าในรัฐบาลยังไม่มีการพูดคุยเรื่องปรับครม.
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการปรับครม.ว่า พรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีปัญหา ทำงานกันดีทุกคน พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีปัญหา ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหาหรือความขัดแย้งกันก็มีเพียง 2 มุมเท่านั้น คือเรื่องการเมืองและการทำงาน แต่ยืนยันว่าเรื่องการเมืองภายในพรรคร่วมไม่มีปัญหา ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวการปรับครม.ในพรรคภูมิใจไทย นายชุมพลกล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของนายกฯ พรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีแรงกระเพื่อม ที่มีแรงกระเพื่อมน่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทยมากกว่า
"ชาติชาย"เตรียมแถลงเปิดใจ
วันเดียวกัน นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช. เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากญี่ปุ่น กรณีถูกกดดันจากส.ส. พรรคภูมิใจไทยให้พ้นจากตำแหน่ง ว่า ยังไม่ขอพูดอะไรมาก ขอดูรายละเอียดข้อมูลและขอปรึกษากับผู้ใหญ่ก่อน เพราะยังไม่ทราบเรื่องอะไรเลยเนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับจากไปญี่ปุ่น เมื่อถามว่านายสรอรรถ กลิ่นประทุม แกนนำกลุ่มโทรศัพท์มาหารืออะไรหรือไม่ นายชาติชายกล่าวปฏิเสธว่า ยัง
นายชาติชายกล่าวว่า ยืนยันว่าการทำงานที่ผ่านมาของตน มีผลงานเรื่องหลักๆ ออกมาตลอด ล่าสุดเดินทางไปญี่ปุ่น พาผู้นำสหกรณ์จากประเทศไทยไปขายผลไม้ไทย ทั้งมะม่วง มังคุด เงาะ ทุเรียน ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ขายสินค้าได้จำนวนมาก คนก็ให้ความสนใจกันเยอะ ถือว่าประสบความสำเร็จในการนำสหกรณ์ไทยไปสู่เวทีโลก และยังนำผู้นำสหกรณ์ไปพบกับผู้นำสหกรณ์ของญี่ปุ่น ลงนามความร่วมมือระหว่างกันด้วย ซึ่งจะทำให้มีการทำธุรกิจร่วมกันและแลกเปลี่ยนสินค้าทางการเกษตรระหว่างกันมากขึ้นในอนาคต ส่วนข้อกล่าวหาที่ระบุว่าตนไม่ฟังส.ส.นั้น ขอยังไม่พูดอะไรมาก แต่ยืนยันว่าการรับฟังส.ส. เป็นสิ่งสำคัญแน่นอน ซึ่งมีหลายวิธีและเราต้องใช้เวลาทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
รายงานข่าวแจ้งว่า เวลา 13.30 น. วันที่ 19 พ.ค. นายชาติชายจะแถลงข่าวเปิดใจถึงการทำงานที่ผ่านมา หลังโดนกระแสกดดันจากคนในพรรค
"เพื่อนเนวิน"เชียร์คนกันเอง
เวลา 09.45 น. ที่รัฐสภา นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการปรับนายชาติชาย พุคยาภรณ์ ออกจากรมช.เกษตรฯว่า พรรคเห็นพ้องในเรื่องนี้ว่าควรปรับเปลี่ยน เพราะนายชาติชายไม่เคยมาร่วมประชุมพรรค ไม่เคยมาร่วมกิจกรรมกับพรรค ผลงานและการออกข่าวก็ไม่เคยเห็น เรื่องนี้เป็นสิทธิ์ของนายสรอรรถจะตัดสินใจ จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมพรรคเพื่อหามติต่อไป ทั้งนี้ คุณสมบัติบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนต้องเป็นส.ส.เท่านั้น ส่วนนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย มีความเหมาะสม เป็นส.ส.มาหลายสมัย
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การปรับครม.ขึ้นอยู่กับนายกฯ พรรคยังไม่ได้หารือกัน คาดว่าวันที่ 19 พ.ค. ที่มีการประชุมพรรคคงจะพูดคุยกันว่าจะอย่างไร ส่วนที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ระบุนายชาติชายไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของพรรคนั้น เป็นเรื่องจริง แต่จะมีผลต่อการพิจารณาปรับออกหรือไม่ ไม่ขอแสดงความคิดเห็น เมื่อถามว่าคนที่จะเข้ามาแทนยังเป็นโควตากลุ่มนายสรอรรถหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า เป็นไปตามที่หัวหน้าพรรคระบุ ส่วนชื่อบุคลจะมาจากกลุ่มใดนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาภายในพรรค ต่อข้อถามว่าแสดงว่านายสรอรรถรับได้หากจะมาจากกลุ่มเพื่อนเนวินหรือกลุ่มนายสรอรรถใช่หรือไม่ รมช.มหาดไทยกล่าวว่า ตอบแทนนายสรอรรถไม่ได้ ตามหลักการแล้วหัวหน้าพรรค แกนนำและกรรมการบริหารพรรคต้องเป็นผู้พิจารณา ยืนยันว่าพรรคไม่มีรอยร้าว
เนวินเคลียร์"สรอรรถ"แล้ว
รายงานข่าวจากกลุ่มนายสรอรรถ เปิดเผยว่า ในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งรมช.เกษตรฯของนายชาติชาย ซึ่งเป็นโควตาของกลุ่มนั้น เนื่อง จากส.ส.กลุ่ม 3-4 คน มีปัญหาคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี เช่น อายุไม่ถึง ไม่จบปริญญาตรี เป็นต้น นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคจึงเสนอให้นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม กลุ่มเพื่อนเนวินมารับตำแหน่งแทน โดยนายเนวินหารือกับนายสรอรรถแล้ว และนายสรอรรถยอมรับได้ เพราะนายศุภชัยเป็นส.จ.และส.ส.รุ่นเดียวกับนายบุญลือ ประเสริฐโสภา แกนนำพรรคภูมิใจไทย ในกลุ่มนายสรอรรถ และมีความคุ้นเคยกันอยู่ ประกอบกับมีประสบการณ์ทำงานการเมือง และถือเป็นการแบ่งพื้นที่ทำงานระหว่างกลุ่ม ไม่ได้เกิดปัญหาแตกคอในพรรค
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกรัฐบาล ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับนายชาติชาย ออกจากรมช.เกษตรฯว่า พรรคยังไม่มีการพูดคุยเป็นทางการ แต่คิดว่าผู้ใหญ่และกรรมการบริหารพรรคคงพูดคุยกันบ้างแล้ว ทั้งนี้ สิ่งที่พรรคประสงค์คืออยากให้รัฐมนตรีทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน และเป็นผลงานให้กับรัฐบาลและพรรค หากจะปรับเปลี่ยนอย่างไรแต่ละคนก็พร้อม อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการตกลงกันว่าใครจะอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีคนละกี่เดือนกี่ปี พรรคยึดหลักความเหมาะสมในการทำงานมากกว่า
เผยอาจปรับมากกว่า1เก้าอี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าการปรับครม.ครั้งนี้มองเรื่องโควตาหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า ไม่มี พรรคภูมิใจไทยอาจมีหลายกลุ่มที่มารวมกัน แต่วันนี้ได้หลอมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้ว ดังนั้นโควตาของกลุ่มยืนยันว่าไม่มี การปรับรัฐมนตรีที่เป็นข่าวเวลานี้ อาจมีหลายเหตุผล ไม่ว่าเรื่องผลงาน ที่สำคัญท่านขาดการเชื่อมโยงกับพรรคกับสมาชิกในพรรค จึงเป็นปัญหาเรื่องการประสานงาน อย่าลืมว่ากระทรวงเกษตรฯ ต้องอยู่ใกล้ชิดประชาชน คนที่เลือกพรรคภูมิใจไทยก็คือเกษตรกร จึงจำเป็นต้องพึ่งพากระทรวงเกษตรฯ ตรงนี้อาจเป็นปัญหาที่ส.ส.เข้าไม่ถึงรัฐมนตรี แต่ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่อาจจะปรับเปลี่ยนได้ในเรื่องการทำงาน แต่อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าพรรคที่มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจ และนายกฯเปิดทางแล้วว่าถ้าส่งชื่อมาก็พร้อมจะปรับให้
นายศุภชัย โพธิ์สุ กล่าวถึงการเป็นแคนดิเดตรมช.เกษตรฯคนใหม่ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ต้องรอพูดคุยกันในที่ประชุมพรรควันที่ 19 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนายศุภชัย มาถึงรัฐสภา ผู้สื่อข่าวเข้าไปขอสัมภาษณ์ถึงข่าวจะได้เป็นรมช.เกษตรฯ แทนนายชาติชาย และเรียกนายศุภชัยว่า "ท่านรัฐมนตรี" นายศุภชัยถึงกับยิ้มก่อนกล่าวว่า "ใครรัฐมนตรี ไม่มี"
รายงานข่าวแจ้งว่า นายศุภชัยเคยมีชื่อจะได้เป็นรมช.เกษตรฯ ตั้งแต่แรกในการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้แล้ว แต่ช่วงนั้นมีแคนดิเดตเข้าช่วงชิงตำแหน่งกันเยอะมาก ทำให้ต้องเอาคนนอกอย่างนายชาติชาย เข้ามารับตำแหน่งแทนก่อน ทั้งนี้ ในการปรับครม.ของพรรคภูมิใจไทย เมื่อถึงเวลาจริงๆ อาจจะเป็นการปรับมากกว่า 1 ตำแหน่ง ส่วนจะปรับเมื่อไหร่ขึ้นกับพรรคร่วมหารือกัน
"พรทิวา"ยันพรรคไม่มีปัญหา
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสการปรับครม.ภายในพรรค ว่า เป็นดุลพินิจของหัวหน้าพรรค ส่วนตนและหัวหน้าพรรคไม่ได้มีปัญหาหรือช่องว่างต่อกัน หัวหน้าพรรคให้ความเมตตามาตลอด ส่วนปัญหาความน้อยใจจากกลุ่มต่างๆ ภายในพรรคที่ได้รับการดูแลไม่เท่าเทียมกัน น่าจะเป็นข่าวลือเพราะมีการปฏิบัติเหมือนกันหมด ส่วนกรณีนายชาติชาย จะถูกปรับออกเพราะไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมภายในพรรค นางพรทิวากล่าวว่า การปรับครม.มีหลายอย่างเป็นองค์ประกอบคงไม่ใช่เรื่องไม่เข้าประชุมพรรคอย่างเดียว
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ภายในพรรคที่มีปัญหา นางพรทิวากล่าวว่า ไม่ทราบคนอื่นคิดอย่างไร แต่ภายในพรรคทุกคนทำงานเป็นทีม เป็นพรรค ไม่มีกลุ่มใครกลุ่มมัน ต่อข้อถามว่าได้พูดคุยกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตกรรม การบริหารพรรคไทยรักไทยบ้างหรือไม่ รมว. พาณิชย์กล่าวว่า ตนไม่มีเวลาว่าง ไม่ได้พบเจอใครเพราะทำแต่งาน ซึ่งสมาชิกภายในพรรคทุกคนจะเจอกันสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
นางพรทิวา กล่าวถึงมาตรการการระบายข้าวโพดในสต๊อกของรัฐบาลจำนวน 4.49 แสนตัน ว่า การดำเนินงานเป็นไปตามที่นายกฯ สั่งการ และได้เสนอให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯด้านเศรษฐกิจถึงหลักการ และหลังจากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมครม. อีกครั้ง ขอยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาในการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล
ชวรัตน์ย้ำเหตุปรับ"ชาติชาย"
ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีการปรับครม.ของพรรคภูมิใจไทยว่า ยังไม่มีการเสนอชื่อรมช.เกษตรฯ ต่อนายกฯ เพราะต้องมีขั้นตอนในการประชุมพรรค จะมีการประชุมในวันที่ 21 พ.ค. แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้ชื่อในวันดังกล่าวหรือไม่เพราะต้องเป็นไปทีละขั้นตอน ต้องเอาคนเก่าออกไปก่อนแล้วจึงเอาคนใหม่เข้ามา อย่างไรก็ตามนายชาติชายไม่ได้มีความผิดอะไร แต่เป็นนโยบายของพรรคที่ต้องสับเปลี่ยน และนายชาติชายไม่เข้าประชุมเพื่อรับนโยบายพรรคเลย ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค รัฐมนตรีต้องมาชี้แจงที่ประชุมพรรคว่าได้ทำอะไรไปบ้าง แต่นายชาติชายไม่เคยมา ทำให้ไม่รู้เรื่องนโยบายพรรค
นายชวรัตน์กล่าวว่า นายชาติชายเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในโควตาของนายสรอรรถก่อนที่จะมีพรรคภูมิใจไทย ที่ขณะนั้นยังเป็นกลุ่มเพื่อนเนวิน เป็นพรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งตนยังไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย แต่หลังจากรวมกันตั้งเป็นพรรคภูมิใจไทยแล้ว นายชาติชายไม่มาร่วมประชุม ถือว่าไม่ได้สังกัดพรรคภูมิใจไทย ดังนั้น ต้อง หาคนของพรรคที่ให้นโยบายไปทำงานได้ เพราะรัฐมนตรีต้องทำงานภายใต้สังกัดพรรค ขณะนี้นายชาติชายยังไม่มีการติดต่อมา ได้ข่าวว่าไปต่างประเทศ ส่วนตัวบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ยังไม่อยากพูดว่าเป็นใคร กำลังมองหาอยู่ แต่เป็นคนของพรรค ไม่ใช่ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คาดจะทราบใน 1-2 สัปดาห์นี้ สำหรับนายสรอรรถได้คุยกันรู้เรื่องแล้ว
ปชป.เขม่น"ธีระ-อลงกรณ์"
รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า จากการที่นายอภิสิทธิ์ ออกมายืนยันว่าในส่วนของรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ จะยังไม่ปรับครม.นั้น ปรากฏว่าได้เกิดแรงกระเพื่อมภายในพรรคประชาธิปัตย์ โดยกลุ่มส.ส.ของพรรคประมาณ 40-50 คน ส่วนใหญ่เป็นส.ส. หน้าใหม่ที่ติดตามการทำงานของรัฐมนตรีของพรรคแต่ละคน พบว่ายังไม่เป็นที่พอใจทั้งเรื่องการทำงาน และการดูแลเอาใจใส่ส.ส.พรรค ดังนั้น ในการสัมมนาส.ส.พรรคที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ค. จะมีการหยิบยกปัญหาการทำงานของรัฐมนตรีขึ้นมาพูด และจะเสนอว่าควรปรับรัฐมนตรีคนใดออกจากตำแหน่งบ้าง ขณะนี้มีรัฐมนตรี 3-4 คน ที่ส.ส.กลุ่มนี้ไม่ค่อยพอใจในผลงาน เช่น นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เป็นต้น
นอกจากนั้นกลุ่มจะเสนอให้นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน เป็นรัฐมนตรีดีเด่น เพราะนอกจากงานประจำในกระทรวงแรงงานที่มีผลงานออกมาชัดเจน ทั้งที่เป็นรัฐมนตรีที่อาวุโสที่สุดแล้ว ยังมีคุณสมบัติโดดเด่นคือเอาใจใส่สมาชิกพรรคมากกว่ารัฐมนตรีคนอื่น โดยไม่เลือกว่าบุคคลนั้นจะสังกัดกลุ่มหรือเป็นส.ส.ภาคใด ให้ความช่วยเหลืออย่างทันใจเมื่อมีการเอ่ยปากขอ ซึ่งเป็นการซื้อใจส.ส.หน้าใหม่ได้มาก ผิดกับรัฐมนตรีบางคนที่เมื่อได้เป็นรัฐมนตรีแล้วก็ไม่สนใจสมาชิกพรรคเลย
ดัน"องอาจ-นิพิฏฐ์"เสียบ
"นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคเปรยกับส.ส.ของพรรค ว่าปัญหาเรื่องในพรรค ขอให้ส.ส.ไปพูดในที่สัมมนาพรรค โดยจะเปิดให้อัดได้เต็มที่ ดังนั้น นอกจากจะมีการเสนอให้ปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีบางคนแล้ว ยังจะเสนอให้ปรับเลขานุการรัฐมนตรีบางคนด้วย เพราะบางคนมือไม่ถึงจริงๆ แต่จะมีการปรับใครออกหรือไม่อยู่ที่การตัดสินของนายกฯ ซึ่งทางกลุ่มไม่มีการเสนอว่าควรจะให้ใครมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือเลขานุการรัฐมนตรีแทน" รายงานข่าวระบุ
รายงานข่าวแจ้งว่า หากมีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีของพรรคจริง คาดว่าบุคคลที่น่าจะได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีคือนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่พลาดหวังจากเก้าอี้รัฐมนตรีในการตั้งรัฐบาลคราวที่ผ่านมา
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 19 พ.ค. ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้เรียกประชุมส.ส.พรรค ซึ่งถือเป็นการประชุมนัดสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุมสภา ที่ประชุมจะเปิดให้ 8 กรรมการ สมานฉันท์ฯ ของพรรค ได้ชี้แจงความคืบหน้าในการทำงาน และจะให้ส.ส.อภิปรายได้อย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ยังมีส.ส.บางคนเตรียมหยิบยกพฤติกรรมของนายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี ที่โกนหัวเข้าประชุมสภาขึ้นมาหารือในที่ประชุมด้วย
เพื่อไทยประชุมใหญ่31พ.ค.
วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี เพื่อปรับโครง สร้างกรรมการบริหารพรรค พร้อมเลือกตัวหัวหน้าและเลขาธิการพรรคใหม่ โดยมีกรรม การบริหารพรรคเข้าร่วมพร้อมเพรียง อาทิ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรค น.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค ฯลฯ ขาดเพียงนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค โดยใช้เวลาประชุมกว่า 1 ชั่วโมง
นายคณวัฒน์แถลงว่า ที่ประชุมมีมติจัดประชุมใหญ่วิสามัญ ในวันที่ 31 พ.ค. เวลา 09.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย จะเปิดโอกาสให้ส.ส .มีส่วนร่วมเสนอชื่อหัวหน้าและเลขาธิการพรรค โดยกำหนดคุณสมบัติว่าต้องมาจากส.ส.เท่านั้น เพื่อให้การประสานงานระหว่างส.ส.พรรคและในสภาราบรื่น แก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเต็มที่ สำหรับรายชื่อแคนดิเดตหัวหน้าพรรคที่ปรากฏตามสื่อเช่น พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี รองประธานสภาผู้แทนฯ นั้น ส.ส.พูดคุยกันอย่างกว้างขวาง แต่สุดท้ายต้องไปสรุปในที่ประชุมใหญ่โดยไม่ต้องผ่านความเห็นของกรรมการบริหารหรือแกนนำพรรคเหมือนเมื่อก่อน ส่วนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะให้ส.ส.สมัครใจเสนอตัวเข้ามาเอง จะมีบุคคลภายนอกที่เป็นนักวิชาการและผู้สนับสนุนพรรคเข้าร่วมด้วย
เปิดหาเสียงชิงหน.พรรค
เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แนะนำคุณสมบัติหัวหน้าพรรคคนใหม่ต่อที่ประชุมหรือไม่ นายคณวัฒน์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าพ.ต.ท. ทักษิณติดต่อมาทางใครหรือไม่ แต่พรรควาง สเป๊กไว้ว่าหัวหน้าพรรคต้องมาจากส.ส.เท่านั้น ขณะนี้บุคคลที่มีรายชื่อแคนดิเดตบางคนเริ่มแนะนำตัวและหาเสียงกับส.ส.บ้างแล้ว
นายยงยุทธ ให้สัมภาษณ์ถึงการลาออกจากหัวหน้าพรรคว่า ไม่ได้น้อยใจ อึดอัดหรือกดดันในการทำหน้าที่ แต่เป็นเพราะต้องการให้การทำงานของพรรคมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการทำงานการเมืองขณะนี้ต้องมองไปข้างหน้า ทั้งนี้ ตนจะยื่นใบลาออกต่อนายทะเบียนพรรคในวันที่ 22 พ.ค. ส่วนการทำงานหลังจากลาออกแล้ว จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะร่วมงานกับพรรคต่อไปหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ไว้เมื่อวันที่ 13 พ.ค. พ.ศ.2552 เป็นปีที่ 64 ในรัชกาลปัจจุบัน ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริว่า ตามที่ได้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญทั่วไป พ.ศ.2552 ในวันที่ 21 ม.ค. 2552 นั้น บัดนี้ จะสิ้นกำหนดสมัยประชุมในวันที่ 20 พ.ค. 2552 สมควรจะปิดประชุมได้แล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 128 และมาตรา 187 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมสมัยประชุมสามัญทั่วไป พ.ศ.2552 ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 2552 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ
"เหลิม"ดอดพบ"แม้ว"ที่ดูไบ
แหล่งข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบการเข้าพักโรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อวันที่ 10-14 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีรายชื่อของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นายสงวน ติยะไพบูลย์สิน ผู้ที่เคยได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบอร์ด อสมท นายโจ เชาวน์เกษม และมิสเตอร์ลิม ชู เสง (Lim Shu Seng) นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ซึ่งเคยเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีรายชื่อเป็นผู้จองห้องพัก 4 ห้อง
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบเอกสารการเดินทาง พบว่าทั้ง 4 คนได้ใช้หนังสือเดินทางของสหรัฐ อเมริกาเพื่อขอเดินทางเข้าดูไบ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ร.ต.อ.เฉลิม อาจจะไปหารือกับพ.ต.ท. ทักษิณ เรื่องการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ รวมทั้งแนวทางการทำงานของพรรคเพื่อไทย
แหล่งข่าวยังอ้างถึงคำพูดของร.ต.อ.เฉลิมด้วยว่า ระหว่างการรับประทานอาหารร่วมกัน ร.ต.อ.เฉลิมเปรยขึ้นมาว่า "สปอนเซอร์ใหญ่ของทริปนี้คือนายกฯทักษิณ"
ยึดโครงสร้าง"ทรท."เดิม
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคเพื่อไทย ทางแกนนำสายตรงชินวัตร อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายยงยุทธ ติยะไพรัช นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ได้หารือกันถึงการหาบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ตลอดจนบุคลากรอื่นๆ โดยจะปล่อยให้ส.ส.ในพรรคเป็นผู้เสนอชื่อบุคคลต่างมาแข่งขันกัน
ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ให้แนวทางกับแกนนำ ว่าต้องการให้เกิดภาพการมีส่วนร่วมของส.ส.ในพรรคมากที่สุดในการคัดเลือกหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ตลอดจนเปิดโอกาสให้ส.ส. แจ้งความจำนงเข้ามาทำงานในฝ่ายต่างๆ เพื่อให้มีภาพเป็นสถาบันการเมือง และควรนำบุคคลที่เป็นที่รู้จัก และมีภาพดีในทางการเมืองเข้ามาทำงานให้กับพรรค โดยมีสัดส่วนคณะกรรมการบริหารพรรคที่มาจากนักการเมือง นายทุนและนักวิชาการในสัดส่วนที่เหมาะสม คล้ายกับลักษณะโครงสร้างของพรรคไทยรักไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นนายสมชายและนายสมพงษ์ ได้ประสานไปยังพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ขอให้เข้ามาเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย และดูแลคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ของพรรค ขณะเดียวกันได้ทาบทามให้พล.อ. ชวลิตรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคในกรณีที่มีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ขณะที่ด้านเศรษฐกิจได้ทาบทามนายโอฬาร ไชยประวัติ มาเป็นหัวหน้าคณะทำงานและคิดนโยบายด้านเศรษฐ กิจของพรรคเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง
"อภิวันท์"นั่งหน.ขัดตาทัพ
แหล่งข่าวจากส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา เปิดเผย ว่า ตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะต้องมาจากส.ส.เท่านั้น มีความเป็นไปได้ว่าพ.ต.ท. ทักษิณ และผู้ใหญ่ในพรรคอาจจะให้พ.อ. อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา รับตำแหน่งนี้ เนื่องจากมีคุณสมบัติตรงคือเป็นส.ส. เป็นที่ยอมรับได้ และมีความใกล้ชิดกับผู้ใหญ่หลายคนเช่น นายสมชาย นางเยาวภา และนายยงยุทธ แต่เป็นไปได้ว่าจะมีการเปลี่ยนให้บุคคลอื่นมาเป็นหัวหน้าพรรคใหม่อีกครั้ง เมื่อเข้าสู่โหมดการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เพราะขณะนี้พ.ต.ท. ทักษิณและแกนนำพรรคเห็นว่าต้องการให้พรรคมีการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์และโครงสร้างพรรค ให้มีความเข้มแข็งเหมือนเมื่ออย่างพรรคไทยรักไทย
แหล่งข่าวกล่าวว่า ส่วนแคนดิเดตคนอื่นเช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน ล่าสุดทั้งสองได้ชี้แจงกับผู้ใหญ่ในพรรค ว่าหากยังใช้รัฐธรรมนูญปัจจุบันอยู่ก็ขอปฏิเสธ เพราะเกรงจะถูกตัดสิทธิ์หากมีการยุบพรรค อย่างไรก็ตามวันที่ 18 พ.ค. เวลา 19.00 น. ส.ส.ภาคอีสานนำโดยกลุ่มอีสานพัฒนา กว่า 20 คน ได้นัดหารือเป็นการภายในที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง ถึงการเลือกตัวบุคคลที่จะเป็นหัวหน้าพรรค ตลอดจนประเมินสถานการณ์การเมืองของพรรคเพื่อหายุทธศาสตร์ในการต่อสู้ต่อไป
รัฐบาลชะลอถกพ.ร.ก.กู้เงิน
เวลา 08.50 น. ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล เป็นประธานการประชุมวิปรัฐบาลเตรียมความพร้อมพิจารณา พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ยาสูบ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.อัตราภาษีสรรพสามิต และพ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยนายชินวรณ์ย้ำที่ประชุมให้เข้าประชุมโดยพร้อมเพรียง เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ
จากนั้นนายชินวรณ์แถลงว่าวิปรัฐบาลตกลงว่าจะชะลอการพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท โดยจะนำมาพิจารณาอีกครั้งหลังจากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเสร็จสิ้น คาดว่าจะเป็นช่วงหลังปิดประชุมสมัยสามัญแล้ว โดยรัฐบาลจะเปิดสภาวิสามัญเพื่อพิจารณา ยืนยันการออก พ.ร.ก.กู้เงินครั้งนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง และก่อนหน้านี้ในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ เคยออกพ.ร.ก.ในลักษณะนี้มาหลายครั้ง อาทิ พ.ร.ก.แก้ไขอัตราภาษีสรรพสามิต เพื่อแก้ไขอัตราภาษีโทรคมนา คม เมื่อปี 2546 ศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยว่าทำได้
"แม้การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจะเป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้าน แต่ขอเรียกร้องว่าอย่านำปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องประชาชนมาเป็นเกมการเมือง และยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีพฤติกรรมป่วนงานสภา เพื่อไม่ให้การทำงานของสภามีประสิทธิภาพ เพราะเห็นว่าการเคลื่อนไหวนอกสภาและการใช้ความรุนแรงไม่ได้รับความยอมรับจากประชาชน" นายชินวรณ์กล่าว
นายกฯยอมรับกระทบแก้ศก.
เวลา 09.00 น. มีการประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ห้องสารนิเทศ อาคารรัฐสภา เกี่ยวกับการพิจารณาพ.ร.ก. 3 ฉบับที่สภาจะพิจารณา โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวต่อที่ประชุมกรณีฝ่ายค้านส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ พ.ร.ก.กู้เงิน ว่าการต้องชะลอพ.ร.ก.กู้เงินออกไปส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอยู่บ้าง เพราะเกี่ยวโยงกับร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วย
เวลา 09.45 น. มีการประชุมสภาผู้แทนฯ มีนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานที่ประชุม มีวาระพิจารณา 4 เรื่อง คือพ.ร.ก. 3 ฉบับคือ 1.พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 2.พ.ร.ก.เพิ่มเติมพ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 (ฉบับที่ 2) และ 3.พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2552 และ 4.ร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ..
ทั้งนี้ นายชัยเรียกประชุมเวลา 09.30 น. แต่กว่าส.ส.จะมาลงชื่อจนครบองค์ประชุมต้องใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 10.30 น. จึงเข้าสู่ระเบียบวาระ นายชัยแจ้งว่า ตามที่ส.ส. 99 คนเข้าชื่อเสนอให้ตนส่งพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินวงเงิน 4 แสนล้านบาท ที่ครม.เสนอไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเห็นว่าการเสนอกฎหมายดังกล่าวมิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ตนส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ดังนั้น การพิจารณากฎหมายดังกล่าวในวาระเรื่องด่วนที่ 1 จึงต้องเลื่อนไปก่อนเพื่อรอการวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้เพื่อความสามัคคีปรองดอง
"ชัย"เฉ่งจนท.ทำหวาดเสียว
จากนั้นที่ประชุมพิจารณาพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ยาสูบฯ ที่ครม.เสนอ กำหนดให้เพิ่มค่าแสตมป์ยาสูบสำหรับยาเส้นและยาสูบ ตามมูลค่าร้อยละ 90 หรือ 3 บาทต่อปริมาณ 1 กรัม เศษของ 1 กรัมให้นับเป็น 1 กรัม หลังอภิปรายนาน 2 ชั่วโมง ที่ประชุมขอให้ลงมติ ขณะนั้นมีส.ส.อยู่ในห้อง 251 คน เมื่อประธานให้ออกเสียงลงมติ และให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์แสดงผลออกเสียง ปรากฏหน้าจอคอมพิวเตอร์แสดงผลว่ามีผู้ลงมติเห็นชอบ 7 เสียง มีผู้ไม่ลงคะแนน 251 เสียง เท่ากับว่าที่ประชุมไม่เห็นชอบกับพ.ร.ก.ดังกล่าว ทำให้รัฐบาลต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกเพราะถือว่ากฎหมายการเงินไม่ผ่านสภา
เมื่อนายชัยเห็นการแสดงผลดังกล่าวได้พูดขึ้นมาว่า คงเกิดความผิดพลาดขอให้ลงคะแนนใหม่ แต่คงต้องเปลี่ยนเจ้าหน้าที่เพราะทำผิดพลาดมาหลายครั้งแล้ว เมื่อมีการลงคะแนนใหม่ปรากฏว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างพ.ร.ก.ดังกล่าว 245 ต่อ 33 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง ไม่ลงคะแนน 13 เสียง
เวลา 12.30 น. พิจารณาเรื่องด่วนที่ 3 พ.ร.ก.กำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตฯ มีสาระสำคัญ คือให้แก้ไขอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพื่อให้จัดเก็บภาษี
สรรพสามิตสำหรับน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันเป็นรายได้ของรัฐมากขึ้น
พท.ถล่มแหลกขึ้นภาษีน้ำมัน
ส.ส.ฝ่ายค้านส่วนใหญ่ทักท้วงว่าพรรคประ ชาธิปัตย์หาเสียงโดยประกาศนโยบาย 99 วัน ประชาชนต้องมาก่อน และประกาศจะลดภาษีสรรพาสามิต แต่ตอนนี้กลับขึ้นภาษีน้ำมัน ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรเดือดร้อน ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นตามมา และตั้งข้อสังเกตถึงความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของพ.ร.ก. ฉบับนี้ เสนอให้ทบทวน และให้รัฐบาลหาแนวทางจัดหารายได้ที่ไม่สร้างภาระให้ประชา ชนในระยะยาว ควรยกเลิกหรือถอน พ.ร.ก.ดังกล่าวออกไป
น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการออกพ.ร.ก.ฉบับนี้อาจเข้าข่ายขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 186 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า พ.ร.ก.ที่ตราขึ้นจะต้องนำเสนอต่อสภาผู้แทนฯภายใน 3 วัน นับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา กรณีนี้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 13 พ.ค. ถ้าจะเข้าสภาต้องเสนอมาตั้งแต่ 16 พ.ค. การจัดเก็บภาษีส่วนนี้จะเป็นการซ้ำเติมปัญหาภาคการผลิตอย่างภาคการเกษตร ดังนั้นจะขอใช้สิทธิ์ไม่อนุมัติพ.ร.ก.ฉบับนี้
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตว่า การถอนร่าง พ.ร.บ.กู้เงินเป็นไปด้วยความจริงใจหรือเพราะแบ่งเค้กในโครงการไทยเข้มแข็งไม่ลงตัวในพรรคร่วม ขณะที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนและให้นายกฯยุบสภา
"กรณ์"ลุกชี้แจงความจำเป็น
ขณะที่ส.ส.รัฐบาลลุกอภิปรายสนับสนุน อาทิ นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ และนายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ว่าการออกพ.ร.ก.ดังกล่าวเป็นวิธีการทางเลวน้อยที่สุด
น.พ.พฤติชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง ชี้แจงว่าพ.ร.ก.ฉบับนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 13 พ.ค. วันที่ 14 พ.ค. นายกฯมีหนังสือมาถึงประธานสภาขอให้เรียกประชุมสภาเพื่อพิจารณา จึงทำถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าจุดประสงค์หลักของการออกพ.ร.ก.เน้นให้ประชาชนประหยัดการใช้น้ำมัน
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ชี้แจงว่าถ้าไม่จำเป็นไม่มีรัฐบาลไหนอยากปรับเพิ่มภาษี แต่ปัจจุบันจำเป็น มีคนตั้งข้อสังเกตว่าแทนที่จะปรับภาษี ทำไมไม่หาทางช่วยเหลือประชาชนแทน ก็เป็นเพราะรัฐบาลพยายามหาทางลดภาระประชาชนหลายรูปแบบ จึงต้องพยายามเข้าถึงแหล่งเงินเพื่อทำโครงการเรียนฟรี รักษาพยาบาลฟรี ถนนหนทางให้เดินทางสะดวก แหล่งน้ำ เป็นต้น จึงต้องใช้เงินมหาศาล นอกจากนี้สภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมากระทบรัฐบาลในการจัดเก็บภาษีจากประชาชน จึงมีการประเมินเพื่อทำงบปี"53 และเป็นที่มาของแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ยืนยันว่าภาษีสรรพาสามิตตั้งใจให้กระทบต่อประชาชนน้อยสุด มีผู้เสนอให้ปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่รัฐบาลดูแล้วจะทำให้กระทบประชาชนวงกว้าง จึงเลือกเพิ่มภาษีฟุ่มเฟือยเพื่อให้ประชาชนเจ็บปวดน้อยที่สุด เช่น ภาษีน้ำมันที่มีการเก็บเข้ากองทุน วันนี้ถ้าสังเกตราคาหน้าปั๊มยังไม่ปรับขึ้น
เสียดายกู้4แสนล้านสะดุด
นายกรณ์กล่าวว่า ส่วนพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสน ล้านที่ประธานสภาส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ ขอชี้แจงเบื้องต้นว่าแบ่งเป็น 2 แสนล้านเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ อีก 2 แสนล้านเพื่อลงทุนโครงการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาตามที่สมาชิกเสนอแนะ รวมถึงการว่างงานจึงต้อง ออกพ.ร.ก. การยื่นตีความเป็นสิทธิ์ของสมาชิก ส.ส.ต้องทำงานด้วยความรับผิดชอบด้วย ความ ล่าช้าของพ.ร.ก.จะกระทบแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งและการช่วยเหลือประชาชน จึงเสียดายแทนประชาชนที่จะได้รับความช่วยเหลือของรัฐบาลต้องสะดุดไป
รมว.คลังชี้แจงต่อไปว่า ในส่วนร่างพ.ร.บ.กู้เงินอีก 4 แสนล้าน เป็นส่วนของแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง จึงไม่มีการถอนร่างแน่นอน แต่วิปเห็นว่าควรพิจารณาพร้อมกับพ.ร.ก.ดังกล่าว จึงเลื่อนการพิจารณาออกไป
น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ชี้แจงว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้ใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเข้าไปแทรกแซง ทำให้ประชาชนผู้บริโภคไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม รัฐบาลจะไม่ใช้กองทุนนี้ในการเข้าไปตรึงราคาน้ำมัน จนเกิดปัญหาเหมือนในปี"47 และ"48 ที่ทำให้เป็นหนี้ถึง 9.2 หมื่นล้านบาท แต่จะดูแลให้ราคาน้ำมันเป็นธรรมและสอดคล้องกับตลาดโลกแทน
หลังจากที่ประชุมอภิปรายนานกว่า 5 ชั่วโมง จึงมีมติเห็นชอบอนุมัติพ.ร.ก.ดังกล่าวด้วยคะแนน 245 ต่อ 34 งดออกเสียง 7 และไม่ลงคะแนน 12 พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธาน ประธานในที่ประชุมสั่งปิดประชุมเมื่อเวลา 18.30 น.
"มาร์ค-เทือก"เข้าชี้แจงกก.
ก่อนหน้านี้เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง โดยนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ ว่า ยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่ารัฐบาลจะให้ความร่วมมือกับการหาข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ดังนั้นตนจะชี้แจงทุกคำถามให้ครบถ้วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนภาพที่ออกมาเป็นการโต้แย้งกันมากกว่าการหาข้อเท็จจริงนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนพยายามตอบในเรื่องที่เป็นข้อเท็จจริงให้มากที่สุด ชี้แจงเรื่องขั้นตอนการกำหนดนโยบาย และการตรวจสอบเวลาที่เกิดเหตุการณ์ว่าเราได้ทำอย่างไรไปบ้าง ที่เหลือเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาและหาข้อสรุปเพื่อให้สังคมสบายใจ
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงการชี้แจงว่า ไม่ได้เตรียมอะไรเป็นพิเศษ เพราะชี้แจงด้วยวาจาว่าในช่วงเกิดเหตุการณ์ได้ดำเนินการอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าทุกฝ่ายจะยอมรับผลการพิจารณาของคณะกรรมการ นายสุเทพกล่าวว่า กรรมการต้องรับฟังข้อเท็จจริงของทุกฝ่ายก่อนจะประมวลเหตุการณ์ตามความเป็นจริง ต้องดูตามความเป็นจริงของคณะกรรมการที่รวบรวมออกมา ไม่ใช่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ส่วนแกนนำเสื้อแดงเตรียมชุมนุมใหญ่อีกครั้ง หากไม่ผิดกฎหมายก็ดำเนินการได้ สำหรับแกนนำที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ รัฐบาลจะจับตามดูความเคลื่อนไหว
เล่านาทีระทึกที่มหาดไทย
เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ มีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน ที่ประชุมได้เชิญนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย มาชี้แจง แต่นายชวรัตน์ไม่มา ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ได้ชี้แจงลำดับเหตุการณ์ทั้งหมด ก่อนที่กรรมการจะซักถามหลายประเด็น เช่น อยู่ในรถที่กระทรวงมหาดไทยจริงหรือไม่ มาตรฐานการจัดการกับการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงและกลุ่มเกษตรกรที่ปิดถนน สาเหตุการไปแถลงข่าวที่กระทรวงมหาดไทย โอกาสที่มือที่สามจะเข้ามาเคลื่อน ไหวเพื่อให้เกิดความชอบธรรมในการใช้กำลังของรัฐบาล และกรณีซีดีการชี้แจงข้อเท็จจริงของรัฐบาล รวมทั้งเหตุการณ์รถนายกฯติดไฟแดงที่พัทยา เป็นเพราะนายกฯสั่งเปลี่ยนเส้นทางเองหรือไม่
นายกฯชี้แจงว่า วันที่ 12 เม.ย. ตนมาที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อแถลงการณ์ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งคิดว่าหากมีการชุมนุมก็ไม่น่าจะรุนแรง อาจประเมินสถานการณ์ผิดก็ได้ แต่การรักษาความปลอดภัยได้ทำเต็มที่ มีกำลังทหารและตำรวจดูแล แต่เหตุใดกลุ่มผู้ชุมนุมจึงเข้ามาได้นั้น ต้องถามทหาร และเหตุที่เลือกใช้กระทรวงมหาดไทย เพราะขณะนั้นรมว.มหาดไทยและรมว.กลาโหมอยู่ที่นั่น และที่กระทรวงมหาดไทยมีความเชี่ยวชาญเรื่องกฎหมาย จึงเห็นว่าฝ่ายนโยบายน่าจะแถลงพร้อมกัน อีกทั้งตอนนั้นยังไม่มีกองบัญชาการ เพราะตามปกติต้องประชุมที่ทำเนียบฯ แต่มีกลุ่มผู้ชุมนุมล้อมทำเนียบฯจึงไม่ไป
ยืนยันอยู่ในรถตลอดเวลา
นายกฯชี้แจงต่อว่า หลังแถลงเสร็จมีคนบอกให้ลงทางบันไดด้านข้างเพื่อออกอีกทางหนึ่ง เนื่องจากมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาอยู่ข้างหน้าเมื่อขึ้นรถซึ่งสื่อมวลชนจับภาพที่ตนกับนายสุเทพขึ้นรถไปด้วยกันได้ ในรถมีอยู่ 4 คน คือคนขับ นายตำรวจติดตาม ตนและนายสุเทพ คนขับพยายามนำรถออกจากกระทรวง แต่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมาล้อม โดยมีทหารเข้ามาช่วยล้อมรถเพื่อรักษาความปลอดภัย แต่ทำอะไรไม่ได้มากเพราะกลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนมาก พอไม่สามารถออกประตูอีกด้านได้ คนขับก็ขับตามรถบัสของทหาร กะจะให้รถบัสนำทางออกจากกระทรวง แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบ คนขับรถบัสถูกนำตัวลงมาจากรถ ทำให้รถที่อยู่หลังรถบัสไม่สามารถไปไหนได้ เพราะมีกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ข้างหลัง ขณะนั้นมีคนพยายามเอาก้อนอิฐ แท่งเหล็ก ถุงทรายมากั้นรถไม่ให้เคลื่อนที่ได้ประมาณ 4-5 นาที ขณะนั้นเข้าใจว่าเป็นตำรวจติดตามที่อยู่ด้านหลังน่าจะยิงปืนขึ้นฟ้า เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมหันไปสนใจเสียงปืน ทำให้รถถอยออกมาได้แล้วจึงวนโดยรอบกระทรวง ก่อนคนขับตัดสินใจพุ่งเข้าชนประตูกระทรวงที่คล้องสายยูไว้จึงออกมาได้
"ผมนั่งอยู่ในรถตั้งแต่แรก เห็นทั้งหมดไม่ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมที่ทุบรถ ใช้กระถาง แท่งเหล็ก แท่งคอนกรีต ทุ่มเข้าใส่กระจกรถ เห็นแม้กระทั่งคนที่แต่งกายเป็นพระ กระโดดถีบรถผม แต่ตอนนั้นทั้งผมและรองฯสุเทพไม่ได้สั่งการอะไร มีแต่นายตำรวจติดตามที่วิทยุติดต่อกับคนข้างนอก แต่ทำอะไรไม่ได้มากเพราะเสียงจากเวทีดังมาก ผมแปลกใจว่าทำไมจึงตั้งคำถามว่าผมอยู่ในรถหรือไม่ ทั้งที่เข้ามาล้อมรถและทุบด้วยเจตนาชัดเจน ถ้าผมไม่อยู่ ผมต้องขอโทษหรือไม่ที่ไม่ได้อยู่ให้ฆ่า หรือถ้าผมอยู่ผมต้องขอโทษที่ไม่ได้เปิดกระจกให้เข้ามาทำร้ายผม" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ไม่มีจนท.รัฐเป็นมือที่3แน่
นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงถึงประเด็นสองมาตรฐานว่า กรณีที่เป็นกลุ่มเกษตรกรหากปิดถนน การดำเนินการก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หากไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล ซึ่งต้องเจรจา ส่วนใหญ่เจรจาได้ แต่ในกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงมีแกนนำบางคนพยายามให้เกิดความวุ่นวายและรุนแรง เพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และยุยงให้ประชาชนใช้ความรุนแรง ไม่เหมือนม็อบเกษตรกร ส่วนเรื่องซีดีชี้แจงข้อเท็จจริง เป็นเพราะมีคนพยายามบิดเบือนข้อมูลโดยใช้ใบปลิวหรือคำประกาศต่างๆ รัฐบาลจึงเห็นว่าควรชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาชน แต่ตนเน้นย้ำว่าขอให้เป็นข้อเท็จจริงและคำนึงถึงเรื่องความสมานฉันท์ เน้นการชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่ใช่การใส่ร้ายหรือกล่าวหาใคร
นายกฯกล่าวว่า ส่วนการเดินทางที่พัทยาที่ตนติดไฟแดงนั้น ตนไม่ได้สั่งเปลี่ยนเส้นทาง และยังสอบถามอีกด้วยว่าเหตุใดจึงมาทางนี้ ตำรวจชี้แจงว่าเหตุที่มาทางนี้เพราะเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเรียบร้อยแล้ว ผู้ชุมนุมจะสลายตัว จึงขอให้ใช้เส้นทางเดิมได้และไม่ใช่แค่ไฟแดงก่อนเกิดเหตุเท่านั้น พอผ่านแยกตรงนั้นมาก็ยังติดไฟแดงอีกครั้ง สำหรับการสั่งกำลังหรือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนใหญ่สั่งด้วยวาจาเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ ส่วนการเคลื่อนกำลังต้องสอบถามกับผบ.เหล่าทัพ ส่วนเรื่องมือที่สามนั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐไปดำเนินการแน่นอน และคงไม่สามารถสร้างสถานการณ์ใดๆได้ เพราะแกนนำประกาศจุดยืนผ่านโทรทัศน์และในที่สาธารณะว่ามีจุดยืนอย่างไร คงไม่สามารถสร้างสถานการณ์ได้
"เทือก"เผยที่มากลุ่มเสื้อน้ำเงิน
จากนั้นที่ประชุมสอบถามนายสุเทพ ในประเด็นอาสาสมัครที่มาช่วยเจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่การประชุมอาเซียนที่พัทยา และความเชื่อมโยงกับนายเนวิน ชิดชอบ โดยนายสุเทพชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่พัทยานั้น ตนไปถึงโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ทพบว่ามีเสื้อแดงมาล้อมโรงแรม จึงสอบถามตำรวจที่ดูแลพื้นที่ทราบว่าเล็ดลอดเข้ามา แต่คิดว่าไม่ใช่เพราะเห็นเดินกันมาตามถนน จึงสอบถามตำรวจว่าจะดูแลไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาได้หรือไม่ ตำรวจบอกว่าทำได้ยาก เพราะมีแต่โล่กับกระบอง และยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองการทำงาน เมื่อเกิดเหตุตำรวจมักจะถูกฟ้องร้องแพ่งและอาญา ตนจึงหารือกับนายกเมืองพัทยา ผู้ว่าฯชลบุรีและส.ส. ชลบุรี เพื่อหาอาสาสมัครมาช่วยดูแลพื้นที่ ซึ่งก็เป็นคนเสื้อน้ำเงินที่มหาดไทยเองมีโครงการปกป้องสถาบันอยู่แล้ว
นายสุเทพกล่าวว่า คนกลุ่มนี้เป็นอาสาสมัครที่สนับสนุนการประชุมอาเซียน และไม่อยากให้ใครมาล้มการประชุม แต่ไม่ใช่ตำรวจ ทหาร เพราะหากเป็นเจ้าหน้าที่จะแต่งเครื่องแบบ แต่ตนไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยตรง จึงให้กลุ่มอาสาเหล่านี้ไปเป็นแนวกั้นระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและทหารตำรวจ คนกลุ่มนี้ไม่มีอาวุธ ส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับนายเนวินนั้น ตอนนั้นตนเดินตรวจพื้นที่รอบโรงแรมพร้อมคณะใหญ่มีคนให้กำลังใจมาก รวมทั้งนายเนวินซึ่งพูดคุยกันธรรมดา นายเนวินไม่ใช่อาสาสมัครที่มาช่วยดูแลการชุมนุม
นายสุเทพ กล่าวว่า ผู้สูญหายจากเหตุการณ์การชุมนุม เท่าที่มีการแจ้งเข้ามามีผู้สูญหาย 4 คน แต่พบแล้ว 1 คน ทำให้ตอนนี้มีผู้สูญหาย 3 คน
พท.โวย"อนุพงษ์"ไม่มาเอง
ในช่วงบ่าย คณะกรรมการ เชิญพล.ต.ต. ปราโมช ปทุมวงศ์ รองผบช.ภ 2 พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พล.ต.องอาจ พงษ์ศักดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ตัวแทนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ต.สหัส สูงใหญ่ ผอ.สำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการกองทัพไทย ตัวแทนพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.กองทัพไทย เข้าชี้แจง โดยที่ประชุมสอบถามถึงหลักการเข้าควบคุมผู้ชุมนุม การสั่งให้ทหารออกปฏิบัติหน้าที่เป็นคำสั่งของใคร มีการเจรจาตามหลักสากลในการควบคุมการชุมนุมหรือไม่ รวมทั้งข่าวที่มีรถยีเอ็มซี ขนผู้เสียชีวิตไปที่สระบุรีและลพบุรี รวมถึงการดำเนินคดีของกลุ่มคนเสื้อแดงและเสื้อเหลืองมีสองมาตรฐานหรือไม่
พล.ต.องอาจชี้แจงว่า การใช้กำลังของกองทัพเป็นไปตามประกาศกระทรวงกลาโหม ที่กำหนดให้พล.อ.ทรงกิตติเป็นประธานกอฉ. และประกาศให้ทหารเป็นเจ้าพนักงาน ส่วนรถยีเอ็มซีขนคนไปลพบุรีนั้น ไม่เคยได้รับรายงาน มีเพียงรายงานที่รถทหารนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวที่ดินแดง 19 คนไปควบคุมตัวและสอบปากคำที่ค่ายทหาร จ.สระบุรี แต่หลังจากนั้นได้ส่งให้เจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา กรรมการ จากพรรคเพื่อไทย ได้ร้องขอเอกสารคำสั่งเคลื่อนย้ายกำลังพลและคำสั่งปฏิบัติการ รวมทั้งตำหนิประธานกรรมการที่ไม่สามารถเชิญผู้มีอำนาจตัดสินใจมาชี้แจงด้วยตัวเองได้ และไม่เข้าใจว่าเหตุใดเมื่อนายกฯ มาชี้แจงได้แล้ว ผบ.เหล่าทัพกลับไม่ให้ความสำคัญกับคณะกรรมการ
ปชป.ฉะฝ่ายค้านฉายหนังเก่า
นอกจากนี้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ กรรม การจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ขอเปิดวีซีดีเหตุการณ์ยาว 11 นาที มาตั้งแต่การประชุมช่วงเช้า แต่ประธานไม่อนุญาต โดยระบุว่าครั้งนี้ขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องชี้แจง ส่วนวีซีดีค่อยมาดูกันเองในคณะกรรมการ แต่ช่วงบ่าย นายพร้อมพงศ์ขอให้เปิดวีซีดีอีก และขู่ว่าจะลาออกจากคณะกรรมการ หากประธานไม่อนุญาต จนประ ธานต้องอนุญาตพร้อมออกปากว่าอยากจะลาออกเหมือนกัน
บรรยากาศการประชุมในช่วงบ่าย ส่วนใหญ่เป็นการสอบถาม และแสดงความคิดเห็นของคณะกรรมการจากพรรคเพื่อไทย ทำให้คณะกรรมการในซีกพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ และน.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เดินออกจากห้องก่อนการประชุมจะเลิก นายอาคมกล่าวตำหนิคณะกรรมการจากฝ่ายค้านว่า แทนที่จะฟังข้อมูลจากทหารและตำรวจให้ละเอียด แต่กลับแสดงความเห็นเสียเอง และเป็นข้อมูลเก่าที่เคยอภิปรายในสภาไปแล้ว ทำให้การดำเนินการของคณะกรรมการไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวันที่ 19 พ.ค. ที่ประชุมได้เชิญนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดงมาชี้แจง ส่วนวันที่ 20 พ.ค. เชิญผอ.ร.พ.ราชวิถี ผอ.ร.พ.รามาธิบดี ผอ.ร.พ.ศิริราช และผอ.ร.พ. ทหารผ่านศึกมาให้ข้อมูล
เสื้อแดงเปิดศึกวิวาทกับพระ
เวลา 10.00 น. กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) มาชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภา และเกิดการกระทบกระทั่งกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง ซึ่งระบุว่าเป็นตัวแทนเครือข่ายพุทธธรรมแห่งประเทศไทย ที่ปักหลักเรียกร้องให้บัญญัติศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ อยู่ที่บริเวณหน้ารัฐสภามาเป็นเวลายาวนาน พระรูปดังกล่าวอายุราว 40 ปี แสดงความไม่พอใจที่กลุ่มนปช.มาชุมนุมบนพื้นที่เดียวกัน ขณะที่กลุ่มนปช.ตะโกนด่าทอกลับไป บางคนชูนิ้วกลางให้ พระรูปดังกล่าวซึ่งกำลังฉันอาหารอยู่ได้ลุกไปเปิดเครื่องเสียง ซึ่งเป็นบทสวดมนต์ด้วยเสียงอันดัง กลบเสียงปราศรัยของแกนนำนปช. ทำให้ผู้ชุมนุมโห่ร้องไม่พอใจ เกิดการโต้คารมกันขึ้น ทำให้บรรยากาศเริ่มดุเดือดขึ้น
มวลชนเสื้อแดงเริ่มเข้ามาล้อมกรอบรอบเต็นท์ของพระ ซึ่งมีแนวรั้วเหล็กกั้นอยู่ถึง 3 ชั้น พร้อมตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำให้ตำรวจต้องเข้าไปเจรจาขอให้พระปิดเครื่องเสียง และขอให้ผู้ชุมนุมถอยห่างจากบริเวณที่พักของพระ แต่ยังคงมีการด่าทออยู่ประปราย จังหวะนั้นเองเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อพระได้ลุกไปถอดปลั๊กกระติกน้ำร้อนแล้วนำมาสาดใส่ผู้ชุมนุม ทำให้วงล้อมแตก ผู้ชุมนุมหนีกันวุ่นวาย แต่โชคดีที่น้ำร้อนไม่ถูกผู้ชุมนุม จากนั้นพระรูปเดิมได้ถอดจีวรเหลือเพียงอังสะ ชี้กราดออกไปที่กลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนท้าทายให้เข้ามาชกต่อยกัน และเริ่มใช้ถ้อยคำรุนแรงขึ้น แต่มวลชนเสื้อแดงช่วยกันห้ามปรามพวกตัวเองไม่ให้เข้าไปปะทะกับพระ เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย
ชี้หน้าด่ากันลั่นหน้าสภา
หลังความชุลมุนวุ่นวายจบลงเพียงไม่กี่นาที พระรูปดังกล่าวพูดผ่านไมโครโฟนไปยังเวทีปราศรัยของนปช. ว่าขณะนี้พระยอมทุกอย่างแล้ว แต่ทำไมยังปล่อยให้คนเสื้อแดงมาชี้หน้าด่าพระอยู่อีก ทำไมแกนนำควบคุมคนไม่ได้ ทำให้นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำนปช.รุ่น 2 ที่ปราศรัยอยู่ขณะนั้น ต้องประกาศให้ผู้ชุมนุมถอยห่างออกจากเต็นท์พระ ขณะเดียวกันได้ประกาศบอกพระว่าให้ช่วยอยู่ในอาการสำรวมด้วย เหตุการณ์จึงกลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมนปช.ได้สลายตัวเวลา 11.15 น. หลังแกนนำนายจรัล ดิษฐาอภิชัย นายสมยศ และนายสุพร อัตถาวงศ์ เข้ายื่นหนังสือถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียกร้องให้นำร่างแก้ไขรัฐธรรม นูญฉบับที่คณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คป.พร.) รวบรวมชื่อประชา ชนเสนอต่อสภา ตั้งแต่เดือนก.ย.2551 มาพิจารณาโดยเร็ว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการพัฒนาประชาธิปไตย จากนั้นผู้ชุมนุมได้เดินทางไปบช.น.เพื่อให้กำลังใจนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.รุ่น 1 ที่จะเข้ามอบตัววันนี้
นายพิฑูรย์ พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนฯ ซึ่งเป็นผู้รับหนังสือกล่าวว่า จะนำข้อเรียกร้องดังกล่าวเสนอนายชัย แต่วันที่ 20 พ.ค.นี้จะปิดสมัยประชุมสภาแล้ว
"ตู่"โวยตร.ไม่รับมอบตัว
เวลา 11.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมทนายความ เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน บก.น. 1 โดยมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. ร่วมสอบสวน โดยนายจตุพรกล่าวว่าสมัยประชุมจะหมดวันที่ 20 พ.ค. จึงเข้ามอบตัว ซึ่งตนไม่เคยได้ใช้เอกสิทธิ์ หลายคนเข้าใจผิดว่าเอกสิทธิ์เป็นเรื่องของผู้ต้องหา ซึ่งไม่ใช่ หากต้องการดำเนินคดีกับผู้มีเอกสิทธิ์ ไม่ว่าตำรวจหรือศาล หรือหากต้องการดำเนินคดีกับส.ส.ในสมัยประชุม ต้องทำหนังสือถึงประธานสภา และประธานสภาต้องบรรจุวาระเข้าไปในที่ประชุม ตนก็ไม่มีสิทธิ์ร้องขออะไร ตนก็อยู่เฉยๆ และประธานสภาไม่ได้บรรจุวาระ เพียงแต่คนที่ออกข่าวแสดงความโง่ออกมาเอง
ส่วนที่ตำรวจจะไม่รับมอบตัวเพราะถือว่ามีเอกสิทธิ์คุ้มครองอยู่ นายจตุพรพูดขึ้นว่า ก็สุดแท้แต่ หากจะเล่นเกมก็เชิญ ประเด็นที่น่าคิดคือคดีที่จะออกภายหลังคดีพันธมิตรที่ยึดสนามบินดอนเมืองกับสุวรรณภูมิ ก็แหกตาคนทั่วประเทศว่าจะส่งฟ้อง แต่ปรากฏว่าดึงเรื่องเหมือนไม่มีใครเกิดขึ้น กลุ่มพันธมิตรกว่าจะออกหมายจับ สอบพยานไป 200-300 ปาก ฝั่งเสื้อแดงไม่มี ฉะนั้นใครอยากทำอะไรก็เชิญ ตนมาทำหน้าที่ของตน ส่วนการจะแจ้งความจับนายกฯนั้น หลังจากนี้ไปทั้งนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพต้องถูกแจ้งข้อหาสั่งฆ่าประชาชน กรณีที่พัทยาก็มีแบบนี้เหมือนกัน ไม่มีปัญหา นายกฯก็ถูกดำเนินคดีได้ ฝ่ายกฎหมายทำอยู่ หลักฐานมีเยอะ ไม่ซี้ซั้วเหมือนออกหมายจับเสื้อแดง ไม่ไหวหวั่น มอบตัวแล้วก็ยื่นประกันปกติ
ตร.ชี้ยังมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายจตุพรจะต้องโดนแจ้ง 3 ข้อหาคือ ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน, มาตรา 215 มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และมาตรา 116 ผู้ใดกระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด มิใช่เป็นการกระทำภายในมุ่งหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่างที่นายจตุพรเดินทางมาที่บช.น. มีกลุ่มเสื้อแดงตามมาให้กำลังใจกว่า 100 คน และมีรถกระจายเสียงขึ้นพูดโจมตีรัฐบาลหน้าบช.น. ทำให้ต้องปิดประตูรั้วด้านหน้า โดยตำรวจจัดกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัย แต่ไม่ได้มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด
เวลา 12.10 น. นายจตุพรกล่าวก่อนเดินทางกลับว่า จะเข้ามอบตัวแต่พล.ต.ต.อำนวยไม่รับมอบตัว บอกว่ามีเอกสิทธิ์คุ้มครองอยู่ จากนี้จะส่งมอบปากคำเป็นลายลักษณ์อักษรในวันที่ 25 พ.ค. รวมทั้งจะยื่นขอความเป็นธรรมกับอัยการ โดยในส่วนของดีสเตชั่นจะออกได้บางส่วนในเวลา 18.00 น. และช่วงเดือนมิ.ย.จะมีการนัดชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวง ฝั่งวัดพระแก้ว
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวถึงการมอบตัวของนายจตุพรว่า ไม่รับมอบเพราะอยู่ในสมัยประชุม และสมัยประชุมจะปิดวันที่ 22 พ.ค. ในส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ 14 คน เกือบหมดแล้ว เหลือเพียงพ.ต.ท.ทักษิณและนายจักรภพ เพ็ญแข นอกนั้นเข้ามอบตัวเกือบหมดแล้ว