พูดเร็วเกินไปหรือเปล่า กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าคลัง เมื่อเวียดนามลดค่าเงินของเขาลงแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย..แต่สำหรับประเทศใดประเทศหนึ่งแล้ว...การลดค่าเงินของชาติลงไปนั้น จะมีผลกระทบอย่างแน่นอนเพียงแต่ว่ามันกระทบในทางที่เป็นบวกหรือเป็นลบเท่านั้นสำหรับเวียดนามแล้ว การลดค่าเงินต้องถือ
ว่าเป็นปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อป้องกันตนเองหรือกอบกู้สถานะหรือเพื่อปรับตัวให้เหมาะสมกับการแข่งขัน..หรือเพื่อสร้างมนต์เสน่ห์ให้กับการลงทุน..หรือการต่อสู้กับค่าของเงินแต่ไม่ว่า เวียดนามจะมุ่งผลไปในทางใดนั้น..คำกล่าวที่ว่า จะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยนั้น...มันเป็นไปไม่ได้และไม่มีทางเป็นไปได้ประเทศในภูมิภาคเดียวกัน มีสินค้าขาเข้าขาออกเกือบจะเป็นอย่างเดียวกัน เป็นตลาดแรงงานราคาถูกเหมือนกัน เป็นประเทศที่กำลังเรียกร้องการเข้ามาลงทุนจากชาติ
พัฒนาด้วยกันความเปลี่ยนแปลงในแผ่นดินเวียดนามย่อมส่งผลกระทบต่อไทย...ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ไม่มากก็น้อย...แต่ที่ว่าไม่กระทบเลยนั้น...มันเด็กเกินไปเป็นอีกหนึ่งของความสงสัย...ปัญหาของประเทศไทยในวันนี้นั้น...เพราะเราคบเด็กสร้างบ้าน..กันใช่หรือไม่..สิ่งที่ไม่ใช่ปัญหามันถึงกลับกลายมาเป็นปัญหาไปซะหมด...สิ่งที่เป็นปัญหาก็นับวันแต่จะหนักหนาสาหัสมากขึ้นเมื่อเงินของเวียดนามถูกลง...คนก็จะพากันไปเที่ยวเวียดนามมากขึ้น รวมทั้งคนไทย..ที่จะหลั่ง
ไหลเข้าไป...แค่นี้ก็กระทบกับประเทศไทยแล้ว...เพราะไปสมุยไปภูเก็ตราคาแพงกว่าฝรั่งมังค่าไม่ต้องพูดถึงสินค้าของเขาราคาจะถูกลง..อย่างน้อยร้อยละหนึ่ง..ตามมูลค่าที่ลดลงของเงิน แต่หากนำไปคำนวณในทุกๆองค์ประกอบแล้ว..มันจะมากกว่าร้อยละหนึ่ง...แรงงานของเขาจะถูกลง..แต่คนของเขาก็จะว่างงานน้อยลง..เพราะมีโรงงานไหลเข้าไปลงทุนมากขึ้น..หรือบางโรงงานอาจจะย้ายจากมาบตาพุดที่กำลังเป็นปัญหาในประเทศไทย..ไปตั้งใหม่ในเวียดนาม..ที่
มั่นคงแข็งแกร่งกว่าในทางการเมืองและไร้มลภาวะจากม็อบหน้านิคม เมื่อเวียดนามติดต่อกับโลกมากขึ้นมีเที่ยวบินขึ้นลงมากขึ้น..ตำแหน่งบนผิวโลกในฐานะศูนย์การบินก็จะดีขึ้น..นั่นก็กระทบกับสุวรรณภูมิของประเทศไทยกรณ์ จาติกวณิช...มองโลกมองปัญหา..ด้วยตาที่มองไม่เห็นในสมอง..อย่ามองผ่านแว่น..เศรษฐกิจชาติไม่ใช่อยู่บนกระดานหุ้น..