ภาพ:รอยเตอร์
เบื้องหลังการขับเคลื่อน กระดานการเมืองทั้งในฝ่ายบริหาร-กระบวนการยุติธรรม-อัยการ-ตำรวจ ล้วนถูกเซตติ้ง เป็นระบบ
เบื้อง หลังการอนุมัติและปฏิบัติการแต่งตั้ง "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เดินตาม "แผน" ของ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหา ความจริงเพื่อความปรองดอง แห่งชาติ (คอป.) ก็มาจากการนำความตั้งใจของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ส่งผ่าน "วัฒนา เมืองสุข" ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อไทย ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานในกระบวน การยุติธรรม และปฏิวัติกฎหมายทั้งหมด
จากนั้น "วัฒนา" นำความเห็นของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ส่งตรงถึง "กิตติพงษ์ กิตติยารักษ์" ในฐานะปลัดกระทรวงยุติธรรม มือทำงานใน คอป. จัดทำ "รายงานฉบับที่ 2" ส่งตรงถึงมือ "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี
คำ สั่งอย่างไม่เป็นทางการของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ยังครอบคลุมให้อำนาจหน้าที่ของ "วัฒนา" สามารถดึงรัฐมนตรียุติธรรม-รัฐมนตรีมหาดไทย และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯที่กำกับดูแลงานด้านกิจการตำรวจ และรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาประสานงานให้เกิดการ "ปรองดอง" ด้วย
วาระบรรยายเรื่อง "เส้นทางปรองดอง" ระดับนานาชาติและแนวปฏิบัติในประเทศไทย จึงเกิดขึ้นที่อาคารรัฐสภา มี "วัฒนา" เป็นผู้บรรยาย โดยมี "น.ส.ยิ่งลักษณ์" และคณะรัฐมนตรีจากเพื่อไทย "ถูกสั่ง" ให้เข้าร่วมวง
เบื้อง หลังการแต่งตั้ง นายอุกฤษ มงคลนาวิน ให้เป็นประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรม แห่งชาติ (คอ.นธ) นับเป็นอีก 1 แผนที่ขับเคลื่อนมาจาก "พ.ต.ท.ทักษิณ+ วัฒนา" เพื่อทำหน้าที่เป็นกลไก-สั่งการ-ส่งลูกให้คณะกรรมการชุด "ยงยุทธ" ปฏิบัติการปรองดองได้ราบรื่น
เบื้องหลังการเข้าประจำการที่บ้าน พิษณุโลกของ "คณะเนติบริกร" ทั้ง พงศ์เทพ เทพกาญจนา-นพดล ปัทมะ และ ภูมิธรรม เวชยชัย แต่ไม่ให้ "อำนาจ" และไม่ "แต่งตั้ง" ก็เป็นไปตามแผน "ใช้หนี้-ใช้งาน" ของเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง
เบื้องหลังการ เคลื่อนที่เร็ว-ยึดญัตติ สาธารณะ-ยึดพื้นที่สื่อ ของคณะ "น.ส. ยิ่งลักษณ์" จึงมาจากสมองกลของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ที่สั่งการกลุ่ม "ม้าเร็ว-ม้าใช้" ในเครือข่ายบ้านเลขที่ 111+37 อดีตกรรมการบริหารพลังประชาชนทั้งแผง
แม้ เบื้องหลังการขับเคลื่อนการ "ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่" ของคณะ "นิติราษฎร์" จะ "บังเอิญ" สอดคล้องต้องกันกับข้อเสนอของ "นายจาตุรนต์ ฉายแสง" และข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า แทบทุกมาตราล้วน "แตะสัมผัส" ความได้- เสียทางการเงิน-การเมืองของ "พ.ต.ท. ทักษิณ"
เบื้อง หลังชื่อ "วัฒนา เมืองสุข" คือคนเคยเป็นแคดิเดด รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรม ของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" แต่เมื่อชื่อของเขาหลุดโผ คนใกล้ชิด "พ.ต.ท.ทักษิณ" อธิบายว่า "วัฒนามีภาพที่เป็นคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชัดเจน หากให้เป็นรับมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ ก็จะถูกโยงมีผลประโยชน์ ทับซ้อนกับเจ้าของทุนสินค้าเกษตรยักษ์ใหญ่ หากให้เป็นรัฐมนตรีด้านความมั่นคง จะถูกครหาว่าตั้งใจช่วย พ.ต.ท. ทักษิณ โจ่งแจ้งเกินไป"
ตำแหน่งที่ลงตัวของ "วัฒนา" จึงเป็นคนเชื่อม-ตัวประสาน กับบุคคล ชั้นสูง-นายทหารในกองทัพ-ข้าราชการในกระบวนการยุติธรรม ด้วยคอนเนกชั่น พิเศษ ในนาม "ปราจีนบุรีคอนเน็กชั่น"
เกมใต้ดิน ของ "วัฒนา" จะถูกนำไปปฏิบัติบนดิน ด้วยคำสั่งของ "พ.ต.ท. ทักษิณ" ส่งตรงถึง "ครม.ยิ่งลักษณ์" ในห้องประชุมพรรคเพื่อไทย
การขับเคลื่อนรัฐบาล "น.ส.ยิ่งลักษณ์" จึงเป็นจังหวะก้าว จังหวะคิด ของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ทุกวาระ
นอก จากการประชุมคณะรัฐมนตรี "น.ส.ยิ่งลักษณ์" ทั้ง 35 คนแล้ว ยังต้องมีวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี "พ.ต.ท.ทักษิณ" ร่วมกับนักการเมืองจากบ้านเลขที่ 111 + อดีตกรรมการบริหารพลังประชาชน อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ "พี่น้องชินวัตร" ที่พรรคเพื่อไทย ทุกเช้าวันจันทร์ ผ่านโปรแกรมสไกป์
วาระเพื่อไทย ท้าชนกับทุกโครงสร้างอำนาจ ไม่เกรงหน้าอินทร์ หน้าพรหม เพราะ "พ.ต.ท.ทักษิณ" สั่งการว่า "เราชนะการเลือกตั้งเข้ามานั้นถือว่าประชาชนได้ให้โอกาสพรรคเพื่อไทย ได้เข้ามาทำงาน ไม่ต้องห่วงเรื่อง การต่อต้าน เพราะเป็นพวกหน้าเก่าเขย่ารัฐบาลตามวิถีทางที่พวกเขาชำนาญ"
นอก จากวาระ "สั่งการ" แล้ว "พ.ต.ท.ทักษิณ" ยังมีวาระให้การบ้าน รัฐมนตรีไปสานต่อนโยบายประชานิยม ที่เคยสร้างชื่อยุคไทยรักไทย โดยเฉพาะโครงการปล่อยกู้-ให้เงินในโครงการกองทุนหมู่บ้าน เพื่อให้เงินหมุนไปในระบบเศรษฐกิจ
จากนี้ไปอาจไม่มีอำนาจใด ขวาง เส้นทางอำนาจของ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"