บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

แนวประชานิยม เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ต่างที่ "โนว์ฮาว"

ที่มา มติชน




ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านหลังแรกในวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถยนต์คันแรกลดภาษี 100,000 บาท ภายใน 1 ปี

ยังอยู่ในกรอบแห่ง "เคนเนเซี่ยน" ของ จอห์น เมย์นาร์ด เคย์นส์

แม้ว่าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในราคา 15,000 บาทต่อเกวียน พร้อมกับเงินที่ทุ่มลงไป 4.3 แสนล้านบาท เป้าหมายจะอยู่ที่ชาวนา

สะท้อนกลิ่นอายกระดูกสันหลังแห่งชาติ ซึ่งถูกทอดทิ้งมาอย่างยาวนาน

แต่ก็ยังอยู่ในหลักการแห่งการเข้าไปแสดงบทบาทของรัฐในจุดอันเหมาะสม ตามแนว ทางของ เคย์นส์

นั่นก็คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจโดย "รัฐ" เป็นกองหน้า

คล้าย กับโครงการบ้านหลังแรกและโครงการรถยนต์คันแรกจะกำหนดเป้าหมายอยู่ที่คนชั้น กลางในเมือง ขณะที่โครงการรับจำนำข้าวเปลือกจะกำหนดเป้าหมายไปยังชาวนาในชนบท แต่ทั้งหมดนี้ดำเนินไปภายในกรอบแห่งการสร้างกลไกให้เกิดการหมุนเวียนของทุน

เมื่อ เป็นบ้านหลังแรกย่อมอยู่ในกรอบแห่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อเป็นรถยนต์คันแรกย่อมอยู่ในกรอบแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ ขณะที่เรื่องของชาวนาอยู่ในกรอบแห่งการ เกษตร

นี่คือ ดู-อัล แทร็ก กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในเมืองและในชนบท



ถึง แม้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะมีคนเสื้อแดงเป็นรากฐานทางการเมือง แต่กรอบแห่งการกำหนดนโยบายก็ยังเป็นนโยบายประชานิยมภายใต้กระแสทุน

ยังมิได้เป็น "ลัทธิแดง" อย่างที่มีบางคนป่าวร้องเพื่อสร้างความหวาดกลัว

อย่าลืมเป็นอันขาดว่า ไม่ว่าคนเสื้อแดงจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ว่าคนเสื้อแดงจากภาคเหนือ ไม่ว่าคนเสื้อแดงจากภาคกลาง

ล้วนเสพติดกับนโยบายประชานิยมของพรรคไทยรักไทย

เป็น นโยบายประชานิยมอย่างที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำไปขยายให้ อลังการใหญ่โตมากยิ่งขึ้น จาก 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นรักษาฟรี เป็นนโยบายประชานิยมอย่างที่พรรคภูมิใจนำไปประกาศเป็นของตนเอง

เพียงแต่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำ ชาวบ้านเขาไม่เชื่อ เพียงแต่เมื่อประกาศจากพรรคภูมิใจไทย ชาวบ้านเขาไม่ศรัทธา

อย่าได้แปลกใจหากคำขวัญที่นำเสนอใหม่คือ "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"

คำ ขวัญนี้ทำให้พรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ได้รับเลือกมากถึง 265 ส.ส. กำชัยเหนือทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และสามารถต่อยอดนโยบายจากพรรคไทยรักไทยมาถึงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้อย่างเป็นรูปธรรม

ทุกอย่างอยู่ในกรอบของประชานิยม ทุกอย่างดำเนินไปตามแนว จอห์น เมย์นาร์ด เคย์นส์



กระแสคัดค้านต่อต้าน ไม่ว่าจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะมาจาก ทีดีอาร์ไอ ไม่ว่าจะมาจากปัญญาชน นักวิชาการ ยังเป็นเหมือนเดิม

นั่นก็คือ เสมอเป็นเพียงการคัดค้านในเรื่องวิธีการ ในเรื่องกระบวนการ

มิได้เป็นการคัดค้านในเรื่องหลักการอันเป็นแก่นแท้ นั่นก็คือ มิได้เป็นการเอาแนวคิดตรงกันข้ามกับหลักการทุนเสรีไปคัดค้าน

ทีดีอาร์ไอก็คิดในกรอบของทุนนิยม พรรคประชาธิปัตย์ก็คิดในกรอบของทุนนิยม

ที่มีการหยิบยกเอาคำว่า "ลัทธิแดง" มาเป็นอุทานเสริมบทก็เสมอเป็นเพียงถนิมพิมพาภรณ์ สร้างอลังการแห่งวาทกรรมเท่านั้น

พรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังอยู่ในกรอบแห่งทุนเช่นเดียวกัน

เพียงแต่ความเก่งของพรรคเพื่อไทยก็คือ การสร้างสีสันให้กับทุนโดยการกระตุ้นทั้งระดับชนชั้นกลาง และชนชั้นล่าง

ทั้งในเมือง ทั้งในชนบท

แท้ จริงแล้ว โครงการจำนำข้าวเปลือกก็เท่ากับเป็นการแจกเงินให้ชาวนา เพียงแต่มีข้าวเปลือกมาเป็นสินทรัพย์เพื่อต่อยอด อันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงไปกับโครงการแจกเงินเฉยๆ ของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นี่คือความวิลิศมาหราอันเหนือกว่าของพรรคเพื่อไทยเมื่อเทียบกับของพรรคประชาธิปัตย์



มีความพยายามในการใส่สีตีไข่ วาดหัวต่อหาง นโยบายพรรคเพื่อไทยอย่างเจตนามากมาย

แต่ เมื่อกล่าวในเชิงเปรียบเทียบแล้ว นโยบายประชานิยมของพรรคเพื่อไทยกับนโยบายประชานิยมของพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในกรอบใกล้เคียงและเหมือนๆ กัน

เพียงแต่ "โนว์ฮาว" ของพรรคเพื่อไทย อลังการและน่าเชื่อถือมากกว่าเท่านั้น

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker