บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

แก๊ง 3 อ.

การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยึดหัวหาดบนถนนราชดำเนินนอกปิดถนนประท้วง โดยไม่สนใจใยดีความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องสัญจรในเส้นทางดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องที่เหนือไปจากความคาดหมาย

เพราะท่วงท่าในการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องพอจะคาดเดาได้อยู่แล้วถึงเหตุผลแท้จริง โดยเฉพาะเมื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาพูดถึงภารกิจที่ยังทำไม่เสร็จ

และขณะเดียวกันก็ยังพอมองลึกถึงที่มาที่ไปของการเคลื่อนไหว ที่ออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญเผด็จการอย่างสุดเนื้อสุดตัว บวกด้วยเหตุผลที่เชื่อได้ว่ามีเจตนาจะล้มล้างรัฐบาล

เหมือนอย่างที่มีการตั้งข้อสังเกตไปถึงการให้การสนับสนุนรายการโทรทัศน์ ASTV ในเครือผู้จัดการ โดยสปอนเซอร์รายใหญ่อย่างค่ายซีพี ไม่ว่าจะเป็นทรูวิชั่นส์ หรือเซเว่นอีเลฟเว่น

ที่ชวนให้สงสัยว่าใครกันหนอถึงได้มีอำนาจบารมี ไปเอาเงินสนับสนุนจากเสี่ย ธนินท์ เจียรวนนท์ มาเป็นสปอนเซอร์รายการได้

และเงินที่เข้าไปสนับสนุนรายการ จะถูกส่งผ่านออกมาสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างที่มีการพูดกันจริงหรือไม่

ขณะเดียวกันท่วงท่าของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และกลับลำไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร

เพราะมีเหตุการณ์ตัวอย่างหลายครั้ง หลายหน ที่เชื่อมโยงให้คิดได้ว่าทั้งประชาธิปัตย์ และพันธมิตรฯ มีความคิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

แต่จะด้วยเพราะความบังเอิญ หรือเกิดจากเงื่อนไขเดียวกันอย่างไรนั้นไม่อาจรู้ได้

รู้แต่ว่าในการเปิดเวทีของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มีการประกาศชุมนุมยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ดังที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ประกาศว่า “หลังจากนี้จนเสร็จศึกจะไม่มีวันถอย”

มีคนของพรรคประชาธิปัตย์ร่วมเวทีอย่างเปิดเผยหลายต่อหลายคน และยังอาจมี “อีแอบ” อยู่อีกส่วนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ที่สวมหมวก ส.ส. แต่นิยมชมชอบวิธีการนอกสภา หรือจะเป็นคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช กรรมการสภาที่ปรึกษา อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปคอยให้กำลังใจอยู่หลังเวที

รวมไปถึงกระแสข่าวลือ ข่าวอ้าง ที่มีการระบุกันว่างานนี้พรรคประชาธิปัตย์ รับหน้าเสื่อขนคนมาช่วยเหลือการชุมนุม
และจากเรื่องราวทั้งหมดก็ทำให้อดคิดถึงพี่น้อง 3 อ. แห่งตระกูล “พลบุตร” ไม่ได้

คนหนึ่ง อลงกรณ์ พลบุตร เป็น ส.ส. ฝีปากกล้าของพรรคประชาธิปัตย์มาหลายสมัย ปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค

ทั้งยังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการรวบรวมข้อมูลถล่มรัฐบาลมาแล้วหลายยุค

เคยติดตามเรื่องราวการทุจริตในสนามบินสุวรรณภูมิอย่างใกล้ชิดในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ระยะหลังเริ่มแผ่วไป

อาจเพราะไม่พบข้อมูลสำคัญดังที่คุยเอาไว้ เรื่องราวมีความซับซ้อน สับสน พัวพันกันมากมายจนไม่น่าจะติดตามต่อ

อีกคนหนึ่ง อติพล พลบุตร ชื่อเสียงไม่โดดเด่นเท่าพี่ชาย เพราะยังเป็นเพียงนักการเมืองท้องถิ่น และเพิ่งจะได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 ในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา

เริ่มมีชื่อในข่าวก็เมื่อคราวมีการชุมนุมของพันธมิตรฯ ครั้งนี้ เพราะมีเอกสารเผยแพร่บนเว็บไซต์ อ้างว่าเป็นรายชื่อผู้รับผิดชอบนำคนมาร่วมการชุมนุม และในส่วนของ จ.เพชรบุรี ระบุเอาไว้ว่า นำโดย นายอติพล พลบุตร

สอดรับกับข่าวมีการขนคนขึ้นรถบัสมาจาก จ.เพชรบุรี ที่นักข่าวสถานีโทรทัศน์ NBT ติดตามทำข่าวตั้งแต่ขึ้นรถที่ลานโพธิ์ ในตัวจังหวัด จนกระทั่งมาส่งคนลงที่หน้าสภาทนายความ ถนนราชดำเนิน ก่อนรถบัส “พี่แอ๊วบริการ” จะไปจอดรออยู่บนท้องสนามหลวง

คนสุดท้าย อรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้ชื่อกลุ่ม “วังน้ำเค็ม” น้องชายของอลงกรณ์ อีกคน และเป็นคนปชป. อีกรายที่เปิดตัวขึ้นร่วมเวทีกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในตอนเช้าตรู่วันที่ 26 พฤษภาคม

แถมยังประกาศชัดถ้อยชัดคำว่า “ผมมาดูแลพี่น้องของผม”

ทั้งหมดนี้จึงเกิดเป็นคำถามว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ อ้างการขับเคลื่อนของลูกพรรคเป็นเรื่องส่วนตัว คิดว่าเพียงพอจะปฏิเสธความรับผิดชอบได้หรือไม่

เพราะทีกรรมการบริหารพรรคการเมืองในปีกรัฐบาลโดนใบแดง ยังยุให้ลากไปถึงการยุบพรรคกันเหยงๆ

พูดจาแบบนี้...เป็นการพูด “เอาแต่ได้” มากไปหน่อยหรือเปล่า...!!


ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker