“ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้นำพรรคพลังประชาชนจึงไม่มีบารมีเพียงพอที่จะขับเคลื่อนพรรคให้อยู่ในความสามัคคีกลมเกลียว เพราะอีกฝ่ายก็พยายามที่จะทำอะไรเอาใจนายใหญ่ โดยไม่คำนึงถึงหลักการและเหตุผล”
จากบทสรุปข้างต้น กลับกลายเป็นคนนอกอย่าง “ป๋าเหนาะ” นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ซะอีก ที่มองสถานการณ์ความเป็นไปในพรรคพลังประชาชนได้แบบปรุโปร่ง
อ่านกันทะลุเลย
ที่แน่ๆมีข่าวว่า “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้นัดรัฐมนตรีทั้ง 22 คน ของพรรคพลังประชาชน ไปรับประทานอาหารร่วมกันที่บ้านริมคลองของ “สิงห์เหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ในวันที่ 30 พฤษภาคม นี้
แน่นอนวาระต้องมีแน่ๆ คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
แต่ที่ควรจะต้องพูดกันให้ลึกไปกว่านั้นก็คือ “เรื่องของการนำ” ไม่น่าจะใช่รูปแบบที่ “ป๋าเหนาะ” อ่านขาด ประเภทนายกฯประกาศให้ทำประชามติ แต่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนชิงไปยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญคาไว้ที่สภา
พรรคเดียวกันแต่ดันผิดคิว เล่นกันคนละคีย์
กลายเป็นว่า ไม่รู้ใครใหญ่จริง ระดับนายกฯสมัครยังคุมลูกแถวไม่ได้ ปล่อยให้ “พ่อมดเขมร” คุมเกมฮาร์ดคอร์ ตั้งหน้าตั้งตาโชว์ผลงานเอาใจนายใหญ่
เปิดใบเสร็จ ทวงบำเหน็จกันไม่เลิก
และผลจากการที่พรรคแกนนำเกิดอาการ “กลวงใน” ไม่รู้ใครคุมใครได้ ก็ไม่แปลกที่พรรคร่วมรัฐบาลจะออกอาการเฮี้ยวใส่
โดยเฉพาะพรรคชาติไทยของ “บิ๊กเติ้ง” นายบรรหาร ศิลปอาชา เปรี้ยวรายวันเลย
ล่าสุดเป็นเวรปฏิบัติหน้าที่ของนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย เปิดเกมกดดัน ทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกฯ
แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี
พร้อมทั้งแสดงความไม่เห็นด้วยกับการใช้เงิน 2,000 ล้านบาท ไปทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“เด็กเติ้ง” เปลี่ยนเวรกันขย่ม
แต่ที่ตั้งท่าเป็นฝ่ายข่ม แล้วดันพลาดเข้าเนื้อตัวเอง
แรงสั่นสะเทือนจากรายการ “น้องไม่สู้ พี่บู๊เอง” นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี พี่ชายนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย ออกมาใส่เกียร์ห้าลุยแลกหมัด “เสี่ยตือ” นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์
สาวไส้กันมันหยด
แฉกันไปแฉกันมา ปรากฏว่า ไม่ได้หยุดแค่เรื่องข้าวซาอุฯกับปมปุ๋ยยูเครน
กับคำถามลอยๆที่ “เสี่ยประสิทธิ์” จุดพลุขึ้นมา “ไปนั่งดูฟุตบอลที่รัสเซียสนุกมั้ย”
ล่าสุด “เสี่ยตือ” ออกมายอมรับเองว่า ได้เดินทางไปชมฟุตบอลคู่ชิงชนะเลิศถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ระหว่างสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับสโมสรเชลซี ที่ประเทศรัสเซียจริงๆ
“บัตรดังกล่าวได้มาจากการรู้จักเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อนายวานิช ซึ่งผมจำนามสกุลไม่ได้ ทำงานเป็นตัวแทนบริษัทไฮเนเก้นประจำประเทศไทย และเป็นผู้สนับสนุนหลักฟุตบอลยูฟ่าอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการได้มาอย่างเพื่อนสนิทเท่านั้น เรื่องนี้ผมอธิบายได้
ส่วนเรื่องราคาบัตรนั้นผมจำไม่ได้ เพราะเป็นบัตรที่ไม่มีการตีราคาหน้าตั๋ว เป็นบัตรในส่วนของผู้สนับสนุน ผมจึงไม่รู้ราคาบัตร”
เผลอๆจะเป็นเรื่องใหญ่
เพราะในประกาศ ป.ป.ช.มาตรา 103 กำหนดว่า การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ญาติ มีราคาหรือมูลค่าในการรับจากแต่ละบุคคลและแต่ละโอกาสไม่เกิน 3,000 บาท
ในขณะที่ตั๋วชมฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่สมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ประกาศไว้ในเว็บไซต์มี 3 ราคาคือ 80, 120 และ 200 ยูโร ตกยูโรละ 51.49 บาท
ราคาต่ำสุดคือ 4,000 กว่าบาท
“เสี่ยตือ” เตรียมตัวเคลียร์ให้ดี.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน