บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

จุดเปลี่ยนที่พลิกกันได้


“ผมได้ตัดสินใจถอดตนเองออกจากเกมอำนาจ เพื่อรักษาเรือใหญ่ ผมจึงตัดสินใจลาออกจากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดนี้ โดยจะยื่นใบลาออกในวันนี้ เพื่อให้มีผลในสัปดาห์หน้า”

บทสรุปสุดท้ายของนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกฯ แถลงเปิดหมวกลา

โดยเหตุผลที่เคลียร์กันตรงๆเลยว่า จำเป็นต้อง “สละเบี้ยเพื่อรักษาขุน” เพราะทุกอย่างไหลไปตกหนักอยู่ที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะขบวนการโค่นล้มรัฐบาล มีเสียงร่ำลือการยึดอำนาจรัฐประหาร

จำเป็นต้องรักษาขุนให้รอด และประคองเรือให้ลอยลำต่อไป

“จักรภพ” ปลดล็อกตัวเอง ถอดไปได้ชนวนหนึ่ง


และเท่าที่ประเมินความเคลื่อนไหว โดยความอึดอัดของทหารที่ส่งสัญญาณถึงรัฐบาล เขาขอกันแค่ปมเดียว “จักรภพ” ต้องลาออก

เพื่อเทิดทูนและรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันตามที่ได้ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา

นอกนั้นกองทัพไม่ยุ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือม็อบยึดถนนราชดำเนิน ปล่อยให้เป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง

เมื่อ “จักรภพ” ถอย ตัดปมหมิ่นสถาบันออกไป ก็ผ่อนเงื่อนไข “ทหารฮึ่ม” ไม่มีกลใดจะดึงรถถังออกจากกรมกอง

ยั่วยังไงก็ไม่ขึ้น

และก็เหมือนนัดกันไว้ ล่าสุดสมาชิกวุฒิสภา 7 คน ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี นายบวรศักดิ์ คณาเสน ส.ว.อำนาจเจริญ นายรักษ์พงษ์ ณ อุบล ส.ว.หนองบัวลำภู นายมงคล ศรีคำแหง ส.ว.จันทบุรี และนายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร ประกาศถอนรายชื่อจากญัตติเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ได้ลงชื่อก่อนหน้า

ซึ่งผลจากการถอนชื่อของ 7 ส.ว. ทำให้เสียงที่สนับสนุนญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เหลือแค่ 124 เสียง ไม่ครบ 1 ใน 5 ทำให้ญัตติตกไป

เกมรื้อรัฐธรรมนูญชะลอชั่วคราว

และเหนืออื่นใด กับภาพข่าวที่ปรากฏบนหน้าหนึ่งหนังสือ พิมพ์แทบทุกฉบับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยกมือไหว้ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ยิ้มยกมือรับไหว้

ทักทายพูดคุยอย่างเป็นกันเองนานเกือบ 5 นาที

เป็นครั้งแรกหลังโดนปฏิวัติรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยา- ยน 2549 ก่อนเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2551

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในงานสวดพระอภิธรรมศพนางบุญเรือน เผ่าจินดา มารดาของ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก

ตัวเอกของท้องเรื่องเจอกันซึ่งๆหน้า

ศาลา 5 วัดโสมนัสวิหาร กลายเป็นที่รวมศูนย์อำนาจชั่วคราว ไล่ตั้งแต่ “ป๋าเปรม”-พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี-อดีตนายกฯ ทักษิณ-“บิ๊กป๊อก”

แม้จะเพียงห้วงนาทีสั้นๆ

แต่โดยนัยกินความลึก

อย่างน้อยสังคมเห็นภาพนี้แล้วก็ลดบรรยากาศอึดอัดลงไปเยอะ

และก็เป็นนายแพทย์ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และประธานมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ที่ออกมาเรียกร้องให้อดีตนายกฯทักษิณ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการตั้งรัฐบาลชุดปัจจุบัน

ถอดชนวนความรุนแรง

ด้วยการปรับรูปลักษณ์ของรัฐบาล และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคณะรัฐมนตรี เพื่อลดการจุดชนวนทางสังคม โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤติ

หาก พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถถอดชนวนได้ ก็จะเป็นรัฐบุรุษ

จุดเปลี่ยนมันพลิกกันได้.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน


ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker