คำแปล “ปาฐกถา” ของ นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ถูกหยิบยกเป็นประเด็นทางการเมือง ได้ถูกแปลไว้หลายต้นฉบับอย่างบิดเบือน และเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายจักรภพได้เปิดแถลงข่าว พร้อมกับเปิดเอกสารที่แปลเองตามเจตนาของผู้พูด เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างกับฉบับที่มีผู้พยายามให้ร้าย
ความดังนี้...
ท่านแขกผู้มีเกียรติและมิตรสหายทั้งหลาย ผมตั้งใจจะกล่าวในรายละเอียดถึงเหตุการณ์ที่ผมเพิ่งประสบมา เพื่อที่ท่านทั้งหลายจะได้เข้าใจถึงสถานะของผม ผมเพิ่งออกมาจากเรือนจำของคุณเปรม ซึ่งไม่ใช่เรือนจำทั่วๆ ไป แต่เป็นเรือนจำของคุณเปรม เป็นวิธีการสื่อสารโดยตรงกับสาธารณชนว่า เขาเป็นบุคคลที่ถูกแตะต้องไม่ได้ คุณเปรมเป็นใคร คุณเปรมเป็นตัวแทนของใคร คุณเปรมเป็นตัวแทนของคนคนนั้นจริงหรือ นี่เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เราจะพูดคุยกันในคืนนี้ เพราะมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตของประชาธิปไตยของไทย ดังที่ท่านทั้งหลายทราบดีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ท่านทั้งหลายต่างก็มีข้อมูลและความรู้ที่ดีมากเกี่ยวกับประเทศไทย และสถานการณ์ที่สลับซับซ้อนและชวนปวดหัวอย่างไม่จำเป็นของการเมืองไทย โจนาธาน (ผู้ดำเนินรายการ) ได้ตั้งหัวข้อในการสนทนาให้ผมที่กว้างมาก เรื่อง ประชาธิปไตยและระบบอุปถัมภ์ของไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาในเรื่องกระบวนการพัฒนาสู่ประชาธิปไตยของไทย ผมจะพยายามนำเสนอหัวข้อนี้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงสถานการณ์ของประเทศไทย ในขณะนี้คงไม่มีหัวข้ออื่นใดที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยในปัจจุบันนี้ มากไปกว่าหัวข้อที่เราจะพูดคุยกันในวันนี้อีกแล้ว
ผมมีความเห็นว่าวิกฤติทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เกิดจากการปะทะกันโดยตรงของวิถีทางประชาธิปไตย และระบบอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นการปะทะกันอย่างรุนแรง และจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญของประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายต่างต้องเดิมพันสูงมาก สองฝ่ายนี้ผมหมายถึง วิถีทางประชาธิปไตย และ ระบบอุปถัมภ์ และถ้าท่านนำผลของการลงประชามติเมื่อ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา วิเคราะห์อย่างจริงจัง ท่านจะเห็นความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างคนไทยจำนวนร้อยละ 56 และร้อยละ 41 ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีครั้งใดที่คนจำนวนมากขนาดนั้นจะลุกขึ้นมาประกาศว่าเราไม่ต้องการระบบอุปถัมภ์อีกต่อไป สิ่งที่คนเหล่านี้ต้องการคือประชาธิปไตย ไม่ใช่ใครสักคนที่จะมาตบหลัง ตบไหล่ แล้วบอกว่าฉันจะทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้นเล็กน้อย แต่เธอควรจะต้องสำนึกบุญคุณของฉันเป็นอย่างยิ่ง
บัดนี้ได้เวลาแล้วที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงความเข้าใจในเรื่องสิทธิโดยธรรมชาติของประชาชนคนไทยว่า เราไม่แตกต่างกับประชาชนคนชาติอื่นๆ ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ผมเชื่อว่าท่านทั้งหลายจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ภายในชั่วชีวิตของท่าน การเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ที่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ เวลานี้
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยของเราได้เริ่มต้นขึ้นด้วยระบบอุปถัมภ์ ท่านทั้งหลายในที่นี้เกือบทุกท่าน คงได้เคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทยและประวัติศาสตร์ของเราโดยย่อ เพราะเราตัดสินใจที่นับประวัติศาสตร์ของเราย้อนหลังไป 700 ปี และข้ามประวัติศาสตร์อีก 300 ปีก่อนหน้านั้น เพราะมันไปเกี่ยวพันกับปัญหาความยุ่งยากในภาคใต้ นั่นคือเหตุผลที่เราเลือกที่จะนับจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ไปที่ 700 ปีก่อน ในยุคสมัยของสุโขทัย เรามีสุโขทัยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรที่ต่อมาได้กลายมาเป็นประเทศไทยในปัจจุบัน
ในช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนานของยุคสมัยสุโขทัย เราได้รับการเรียนรู้ และทำให้เชื่อว่ากษัตริย์พระองค์หนึ่งสมัยสุโขทัย คือ กษัตริย์พระองค์นั้นมีพระนามว่า รามคำแหง ซึ่งถ้าจะเรียกให้ถูกต้อง ต้องเรียกว่าพ่อขุนรามคำแหง คติที่ว่ากษัตริย์คือองค์สมมติเทพยังไม่เป็นที่รู้จักในสมัยสุโขทัย
ดังนั้น ในยุคสมัยสุโขทัยเราจะเคารพและนับถือกษัตริย์เพราะความที่ทรงเป็นเสมือนบิดาผู้ยิ่งใหญ่ ที่มีความเมตตากรุณาต่อประชาชน และเป็นผู้ที่หยิบยื่นสิ่งที่ประชาชนต้องการในเวลาที่ประชาชนต้องการ ตัวอย่างที่สำคัญยิ่งประการหนึ่งคือ การที่ท่านพ่อขุนรามคำแหงได้จัดให้มีการติดตั้งระฆังไว้ที่หน้าวัง ประชาชนคนใดที่มีปัญหาสามารถมาตีระฆัง แล้วท่านพ่อขุนรามฯ ก็จะเสด็จฯ ออกมา หรือข้าราชบริพารก็จะออกมาแก้ปัญหาให้ นี่คือบทเรียนบทแรกที่เด็กนักเรียนของไทยได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบอบการปกครองของไทยว่า เราต้องการพึ่งพาใครสักคน ถ้าเรามีปัญหา ให้ไปหาใครสักคนที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้
ดังนั้น ก่อนที่เราจะรู้ตัวด้วยซ้ำไป เราได้เข้าไปสู่ระบบอุปถัมภ์ เพราะเราถามหาการพึ่งพาอาศัย ก่อนที่เราจะพิจารณาถึงความสามารถของตนเองในการแก้ไขปัญหา แนวคิดพื้นฐานนี้เองที่ทำให้คนไทยเราแตกต่างจากคนชาติอื่นๆ ทั่วโลก และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรา ในยุคสมัยสุโขทัย เรามีพระมหากษัตริย์ที่ปฏิบัติพระองค์เป็นที่พึ่งพิงของประชาชนเช่นนั้น ดังนั้น ประชาชนจึงมีหน้าที่ในการถวายความจงรักภักดี ประชาชนศรัทธาในระบอบซึ่งปกครองพวกเขา เพราะนั่นคือระบอบการปกครองที่ใช้ได้ผลในยุคสมัยนั้น และไม่มีระบอบอื่นใดที่จะมาแข่งขันหรือแทนที่ หรือถ้าจะกล่าวอีกอย่างหนึ่ง ในเวลานั้นไม่มีแนวความคิด หรือวิธีการที่เหมาะสมกว่าในการปกครองราชอาณาจักรของไทย ดังนั้น วิธีการปกครองประเทศเช่นนั้นจึงเป็นระบอบที่ดีที่สุดในเวลานั้น
หลังจากนั้นก็ถึงยุคสมัยของอยุธยา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเป็นเวลานานกว่า 400 ปี คติเรื่องกษัตริย์เป็นสมมติเทพได้รับการเผยแพร่เข้ามาในสมัยอยุธยาผ่านทางอารยธรรมขอม คติที่ว่าถือว่ากษัตริย์เป็นสมมติเทพ กษัตริย์ทรงเป็นตัวแทนของบรรดาเทพเจ้าของศาสนาฮินดูและเทพเจ้าอื่นๆ ได้รับการยอมรับในประเทศไทยในสมัยนี้ ดังนั้นระบบของการอุปถัมภ์ที่ให้ความช่วยเหลือ หรือเป็นที่พึ่งพิงของประชาชน ได้รับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบของการให้ความคุ้มครอง ถ้าท่านจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน ท่านจะได้รับความคุ้มครอง และเพื่อที่จะย้ำให้เห็นอย่างเด่นชัดถึงการให้ความคุ้มครองนี้ ถ้าท่านมีพฤติการณ์ในทางอื่น ท่านจะต้องถูกลงโทษ ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าในสมัยอยุธยามีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง บางคนอาจจะคิดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบถอยหลัง บางคนอาจจะคิดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบพัฒนาขึ้น
ไม่ว่าท่านจะคิดอย่างไรก็ตาม ระบบนี้เป็นการผสมผสานกันของการมีความเมตตากรุณาเยี่ยงบิดาผู้ยิ่งใหญ่ เช่น พ่อขุน และระบบของการมีผู้นำที่ยิ่งใหญ่ เราอาจจะกล่าวได้ว่า พระมหากษัตริย์ในสมัยอยุธยาทรงมีพระราชอำนาจสูงมาก และทัศนคติของการใช้พระราชอำนาจเพิ่งเป็นที่ยอมรับแพร่หลายในสมัยนั้นด้วย และถ้าผู้ที่มีอำนาจมีความเมตตากรุณาด้วย ท่านก็จะได้รับประโยชน์จากอำนาจนั้นเช่นกัน อาจกล่าวได้ว่า สมัยอยุธยาได้สอนคนไทยให้เรียนรู้ที่จะอยู่กับอำนาจ เรียนรู้ว่าจะอยู่กับอำนาจได้อย่างไร จะเอาตัวรอดจากอำนาจได้อย่างไร และทำอย่างไรจึงจะไม่ถูกอำนาจนั้นทำร้าย แต่ยิ่งไปกว่านั้น สมัยอยุธยายังก่อให้เกิดรูปแบบของความสัมพันธ์แบบใหม่ คือ ความสัมพันธ์ของนายกับทาส ความสัมพันธ์ระหว่างขุนนางกับไพร่ หรือสามัญชน และนั่นคือสมัยอยุธยา
หลังจากนั้นเราก็มาถึงยุครัตนโกสินทร์ โดยผมขอข้ามระยะเวลา 12 ปีของสมัยธนบุรี ในยุคสมัยของกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเราอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์จักรี ผู้ทรงก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ขึ้น ยุคสมัยนี้คือสิ่งที่เป็นการผสมผสานระหว่างสมัยอยุธยาและทักษะสมัยใหม่ ที่เราอยากจะเรียกว่า “การบริหารจัดการความรู้” เราอาจกล่าวได้ว่า ความรุ่งเรืองของการปกครองโดยพระบิดาผู้ยิ่งใหญ่ ผสานกับพระราชอำนาจในสมัยอยุธยา และสถานะของพระราชวงศ์ที่เป็นดังสมมติเทพ ได้รับการผสมผสานในยุครัตนโกสินทร์ กับระบบของการ “บริหารจัดการความรู้” ในยุครัตนโกสินทร์คือยุคที่ความรู้คืออำนาจ ดังที่คนจำนวนไม่น้อยเชื่อเช่นนั้น
และนั่นคือเหตุผลที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงดำรัสเป็นภาษาอังกฤษในราชสำนัก และทรงได้นำการศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ ตลอดจนการประดิษฐ์ มาสู่ประเทศไทย และทรงโปรดให้มีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่เป็นเรื่องใหม่ที่คนไทยในยุคนั้นไม่เคยรู้จักมาก่อน ด้วยเหตุนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงมีที่มาของพระราชอำนาจอีกประการหนึ่ง ประชาชนไม่ได้คิดแค่เพียงว่าพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ หรือพระบิดาของชาติผู้ทรงเมตตากรุณาเท่านั้น แต่ประชาชนมองว่าพระองค์ทรงเป็นบิดาแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอีกด้วย และเรายังคำนึงถึงพระองค์ท่านเช่นนั้นแม้จนในทุกวันนี้
เราอาจกล่าวได้ว่า ระบอบการปกครองของไทยในสมัยนั้นได้เป็นไปในทิศทางที่ว่า บรรดาผู้นำและผู้ปกครองได้ดำเนินการอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนเชื่อว่าผู้นำและผู้ปกครองสามารถเป็นที่พึ่งพิงของประชาชนได้ วิธีการที่แสดงถึงการเป็นหลักเป็นที่พึ่งพิงของประชาชนในแต่ละยุคสมัย ก็แตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงของเวลาดังที่ผมได้เรียนท่านมาแล้ว
บัดนี้เราอยู่ในยุคของพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 เรามีระบบที่ผสมผสานของแนวคิดทุกอย่าง และจากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ยาวนานถึงมากกว่า 60 ปีแล้ว พระองค์ทรงได้รับการยกย่องเป็นตำนาน (Myth) สถานภาพของพระองค์ในประเทศไทยจึงได้รับการเผยแพร่ คนส่วนใหญ่อาจไม่รู้ว่าเรื่องราวต่างๆ ที่เผยแพร่กันไปเกี่ยวกับพระองค์ท่านนั้น เรื่องใดเป็นเรื่องจริง เรื่องใดเป็นความเชื่อ ทั้งนี้เพราะพระองค์ทรงครองราชย์มานานมาก จนพระองค์ทรงเป็นทุกอย่างที่ได้มีการกล่าวถึง พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งขนบธรรมเนียมประเพณี ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักวิทยาศาสตร์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักมาก และทรงได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้ปกป้องระบอบประชาธิปไตยของไทย ในแนวคิดใหม่
ดังนั้น เรากำลังเผชิญเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ที่เป็นตัวแปรอยู่ในสังคม แล้วเราต้องจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ เหล่านี้ใหม่ เราได้พลาดโอกาสที่สำคัญในอดีต เช่น เมื่อ ท่านปรีดี พนมยงค์ ผู้นำพลเรือนได้ทำการอภิวัตน์ในปี พ.ศ.2475 และเปลี่ยนการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยเหตุการณ์อภิวัตน์นั้นเกิดขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือในหลวงรัชกาลที่ 7 ในภายหลังท่านปรีดีได้กล่าวว่า ท่านได้เห็นอำนาจเมื่อท่านอายุ 32 แต่เมื่อท่านอายุใกล้ 50 ท่านก็สูญเสียอำนาจโดยสิ้นเชิง และต้องลี้ภัยไปอยู่ปักกิ่งถึง 10 ปี และใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายที่ฝรั่งเศส ท่านไม่ได้กลับคืนสู่ประเทศไทยอีกเลย เว้นแต่เถ้ากระดูกของท่านเท่านั้น ท่านได้เคยกล่าวไว้ว่า เมื่อข้าพเจ้ามีอำนาจ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับอำนาจ เมื่อข้าพเจ้าอายุมากขึ้น และเรียนรู้ว่าควรทำอย่างไร ข้าพเจ้าก็ไร้ซึ่งอำนาจ แนวคิดของการมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานานเป็นเสมือนเครื่องเตือนให้เราตระหนักว่า เราอาจต้องการผู้นำที่จะมาดำเนินการจัดลำดับความสำคัญต่างๆ ให้เรา
ท่านเห็นหรือไม่ครับ ทุกสิ่งที่ผมได้เล่าให้ท่านฟังตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ นำไปสู่ความยึดมั่นของคนไทยว่า การที่เรามีพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีความเมตตากรุณาเช่นนี้แล้ว เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีประชาธิปไตย เราถูกชักนำให้เชื่อว่า รูปแบบของรัฐบาลที่ดีที่สุดคือประชาธิปไตยภายใต้การชี้นำหรือภายใต้พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แนวคิดที่พัฒนามาในลักษณะนี้ ทำให้เกิดเหตุการณ์ในปัจจุบันขึ้น ซึ่งผมมองว่าเป็นการปะทะกันระหว่างวิถีทางประชาธิปไตยของไทยและระบบอุปถัมภ์ หรืออาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า คนไทยถูกทำให้รู้สึกคุ้นเคยกับระบบอุปถัมภ์ เราเริ่มประดิษฐ์คำอย่างเช่น “ไม่เป็นไร”
ซึ่งอาจหมายความเช่นนั้น เพราะไม่มีวิธีการอื่นที่จะกล่าวแล้ว เราคิดค้นระบบของการยิ้มตลอดเวลาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เพราะการยิ้มเป็นทางออกของปัญหาอย่างหนึ่ง อาจเป็นเพราะเราไม่มีวิธีการที่ดีกว่านี้ในเวลานั้น และเรายังมีความเชื่อที่ว่า ค่าของคนคือคนของใคร ซึ่งเป็นการวัดคุณค่าของคนบนพื้นฐานของฐานะหรือสังกัดของคน ซึ่งความคิดและถ้อยคำที่ใช้ในลักษณะนี้มาจากความรู้สึกที่ว่าการอุปถัมภ์เป็นสิ่งที่ยอมรับได้
ผมเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1992 และในเวลานั้นผมไม่เคยเข้าใจว่าทำไมคนต้องโกรธเมื่อมีคนพยายามช่วยเหลือพวกเขา เพื่อนของผมบางคนตอบโต้ผมด้วยความโกรธ รวมทั้งคนอื่นๆ ที่ผมเกี่ยวข้องด้วย เขาจะบอกว่าไม่ต้องมาทำเป็นดีกับฉัน ไม่ต้องมาช่วยฉัน ผมไม่เคยเข้าใจพวกเขา เพราะการได้รับความช่วยเหลือหรือการอุปถัมภ์เป็นสิ่งที่ถูกต้องในความคิดของผมในเวลานั้น การได้รับการยกยอ หรือชื่นชม ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะชีวิตของเราต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่นอยู่แล้ว
ดังนั้นการได้รับการอุปถัมภ์จึงไม่ใช่การไม่มีอารยธรรม แต่เวลานี้เรื่องต่างๆ เหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก และทำให้เกิดความขัดแย้งในปัจจุบัน เพราะเวลานี้มีคนจำนวนมากที่ก้าวออกมาและประกาศว่า เราไม่ต้องการความสุขลมๆ แล้งๆ แบบนั้นอีกแล้ว คนกว่าร้อยละ 41 ได้กล่าวปฏิเสธต่อร่างรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยเผด็จการ และกลุ่มผู้สนับสนุนเผด็จการ ซึ่งเป็นผลของการพยายามในส่วนของภาครัฐที่ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาล เพื่อที่จะโน้มน้าวให้ประเทศไทยทั้งประเทศกลายเป็นประเทศที่พูดคำว่า “ได้ครับ” เป็นอย่างเดียว ท่านยังคงจำได้เพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น มีคนส่วนหนึ่งเชื่อว่า มีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้นในกระบวนการรณรงค์ให้คนยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ หรือการนับคะแนนเสียง แต่เมื่อนับรวมกับวิธีการเทคนิคต่างๆ ที่บรรดา “พี่ใหญ่” ทั้งหลายใช้ พวกเขาได้เสียงสนับสนุนเพียงร้อยละ 56 ซึ่งแท็กติกนั้นรวมถึงการขึ้นป้ายขนาดใหญ่ทั่วทั้งกรุงเทพฯ และอาจจะมีนอกเขตกรุงเทพฯ ด้วย
แต่ผมไม่เห็นนะครับ ผมเห็นแต่ป้ายขนาดใหญ่ตลอดข้างทางดอนเมืองโทลล์เวย์จากสนามบินเก่าของเรา คือ ดอนเมือง ข้อความพวกนั้นก็เป็นไปในทำนองที่ว่า พวกเราคนไทยควรจะออกเสียงไปในทิศทางเดียวกัน เราเชื่อมั่นในสิ่งเดียวกัน เราต้องลงคะแนนเสียงเหมือนๆ กัน แต่สิ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือ ชื่อที่ลงท้ายข้อความต่างๆ ในป้ายขนาดใหญ่เหล่านั้น มีการระบุว่าเป็นกลุ่มคนใส่เสื้อเหลือง หรืออีกนัยหนึ่ง เมื่อนับคนใส่เสื้อเหลืองกลุ่มนั้นรวมกับเทคนิควิธีการต่างๆ แล้ว ก็ยังได้คะแนนเสียงแค่ร้อยละ 56 และนั่นคือปัญหาที่ใหญ่มาก ประเทศไทยของเราอยู่ในหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นสิ่งที่เรากำลังพูดถึงเรื่องราวระหว่างวิถีทางประชาธิปไตยและระบบอุปถัมภ์ก็คือ การที่ประชาชนมีอายุมากขึ้น ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ ตัวผมเองเติบโตขึ้นมาในระบบอุปถัมภ์ ผมเองก็ได้รับการชุบเลี้ยงอย่างดีเหมือนกัน
พ่อของผมรับราชการในกองทัพอากาศ และต่อมาก็มาเป็นกัปตันสายการบินพาณิชย์ให้กับการบินไทย ในตอนที่คุณพ่อของผมเริ่มต้นงานกับการบินไทย ท่านเป็นหนึ่งในนักบินคนไทยกลุ่มแรกของการบินไทย ดังนั้นท่านจึงมีรายได้มากพอสมควรที่จะเลี้ยงดูครอบครัวและผม ให้ไม่ต้องเผชิญกับความทุกข์ยากของชีวิตเหมือนอย่างที่คุณพ่อของผมเคยผ่านมา ดังนั้นผมจึงเติบโตมาในระบบอุปถัมภ์เช่นกัน แม้แต่เวลาอาหารผมก็ถือว่าเป็นสิทธิที่ผมต้องได้ ต้องมีอาหารเย็นมาเสิร์ฟบนโต๊ะเสมอ ผมไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกที่ว่าถ้ากินข้าวเย็นวันนี้แล้ว และพรุ่งนี้อาจจะไม่มีอะไรกิน แต่คุณพ่อของผมท่านเคยผ่านประสบการณ์เช่นนั้นแล้ว ผมเติบโตขึ้นมาในระบบเช่นนั้น เรียกว่า อยู่สุขสบายดี ผมเริ่มตั้งคำถามและข้อสังเกตระบบอุปถัมภ์ในภายหลัง เมื่อผมได้มาทำงานเป็นสื่อมวลชนเต็มตัว ทำงานให้กับสถานีโทรทัศน์ และผมเริ่มจะตรวจสอบประเทศไทยและสังคมอย่างจริงจังมากกว่าเดิม ผมพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติ ผมใช้เวลานานหลายปี และประสบการณ์ภายใต้การบริหารราชการของรัฐบาลทักษิณ ก่อนที่จะเข้าใจเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ ระบบอุปถัมภ์เป็นตัวปัญหา เพราะมันส่งเสริมให้มีความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียมระหว่างบุคคลทั่วๆ ไป และสิ่งนั้นเป็นการขัดแย้งกับหลักการของประชาธิปไตย เพราะมันส่งเสริมให้คนคิดที่จะพึ่งพิงบุคคลอื่นๆ ระบบอุปถัมภ์ก่อให้เกิดทาสอย่างไม่จบสิ้น ในขณะที่มีนายเพียงจำนวนน้อย ระบบอุปถัมภ์ ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถพัฒนาได้
ดังนั้น เมื่อได้รับการศึกษาอบรมมาเป็นเวลานาน ได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวเกือบทั่วโลกเป็นเวลานาน ไม่เคยได้รับการเลือกปฏิบัติโดยตรงจากวัฒนธรรมต่างประเทศเป็นเวลานานแสนนาน พวกเราจำนวนมาก จึงยังเหมือนเป็นเด็กอยู่ เมื่อท่านสังเกตการต่อสู้ทางการเมืองของไทย ท่านจะพบว่าเป็นเรื่องที่น่าสมเพชเป็นเหมือนเกมของเด็กๆ วิธีการที่เขาเล่นเกมการเมือง หรือเสี้ยมกันทางการเมืองในแบบนั้น เป็นเพราะในระบบอุปถัมภ์ท่านจะยังคงเป็นเหมือนเด็ก ท่านจะยังคงเป็นคนที่ต้องพึ่งพาอาศัยบุคคลอื่น
ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่ความน่าสมเพชนี้มีอยู่ทั่วไปในประเทศไทย ตัวอย่างล่าสุดที่ท่านเพิ่งพบก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอดีตพรรคไทยรักไทย ท่านทั้งหลายอาจได้อ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งมีปัญหากับชื่อของพรรคไทยรักไทยใหม่ ในขณะที่พรรคไทยรักไทยยังไม่ได้มีการจัดตั้งเป็นพรรคใหม่ ที่ใช้ชื่อว่า พรรคพลังประชาชน หรือ พปช. มีการพยายามใช้เทคนิคการเปลี่ยนหรือแก้ชื่อเพื่อที่ว่าประชาชนจะได้รู้ว่านี่คือพรรคไทยรักไทย ดังนั้นพรรคจึงเปลี่ยนชื่อ และชื่อของพรรคก็ได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง
หลังจากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้งก็พบว่าชื่อย่อของพรรคเป็นชื่อย่อของพรรคไทยรักไทย หรือ ทรท. คณะกรรมการเลือกตั้งก็เพิกถอนการให้ความเห็นชอบทันที โดยบอกพวกเขาว่า เขาไม่สามารถใช้ชื่อย่อว่าเป็น ทรท. ได้อีก ฝันร้ายของผมก็กลับคืนมา หรืออาจกล่าวได้ว่าเรื่องน่าสมเพชแบบนี้เป็นอีกตัวอย่างของการที่เราพยายามเอาชนะกันในศตวรรษที่ 21
สมัยคุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ผมได้มีโอกาสทำงานกับท่าน และก็ทำให้ผมชื่นชอบท่านเป็นการส่วนตัว คุณทักษิณเข้ามารับตำแหน่งและแก้ไขเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว คุณทักษิณได้ดึงอำนาจจากระบบอุปถัมภ์ จากอำนาจในรูปแบบที่เคยเป็นมา และได้เปลี่ยนให้กลายเป็นนโยบายสาธารณะที่สร้างประโยชน์ให้กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ ผมทำงานอยู่กับคุณทักษิณ
ผมถึงทราบว่าสิ่งที่คุณทักษิณทำไม่ใช่แค่นโยบายในเชิงปรัชญา คุณทักษิณเพียงแต่ต้องการทำหน้าที่ของท่านเท่านั้น คุณทักษิณต้องการให้คนชอบ ต้องการให้คนรัก ต้องการเป็นมหาเศรษฐีที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคม และนั่นคือวิธีการที่คุณทักษิณคิดในเรื่องต่างๆ แต่รูปแบบการทำงานแบบง่ายๆ ของเขากลับไปขัดแย้งโดยตรงกับระบบอุปถัมภ์ เพราะมันไปแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นระบบอุปถัมภ์ และเกิดขึ้นเร็วมาก แค่เพียงเวลา 5 ปีเท่านั้น ประชาชนในระดับรากหญ้าเริ่มที่จะรู้สึกว่าพวกเขามีสิทธิ ประชาชนในระดับรากหญ้ามีสิทธิที่จะรู้สึกว่าพวกเราต้องการสิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก ไม่ใช่แค่ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ชนชั้นรากหญ้าได้รับทางเลือกใหม่ และคุณทักษิณท้าทายคนทุกคน แต่บางคนก็พ่ายแพ้เพราะสิ่งที่เขาเป็น และสิ่งที่คุณทักษิณทำเมื่อคุณทักษิณชนะการเลือกตั้งครั้งที่ 2 โดยได้คะแนนเสียง 377 ที่นั่งในสภาผู้แทนฯ ซึ่งมี 500 ที่นั่ง การได้เสียงข้างมากเด็ดขาดในสภาเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย
ในโอกาสต่อไป ผมคงจะได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังฉาก และเป็นการเล่าอย่างไม่เป็นทางการสำหรับการสังเกตเหตุการณ์ต่างๆ ตามความคิดของผมเอง ซึ่งผมต้องขอโทษที่ไม่สามารถพูดในที่นี้ได้ มีเหตุการณ์ที่ชี้ว่ามีบรรยากาศของการข่มขู่คุกคามเกิดขึ้นในทันทีที่ทักษิณชนะเลือกตั้ง ได้ ส.ส. จำนวน 377 ที่นั่ง จากจำนวน 500 ที่นั่ง หรืออีกนัยหนึ่ง เกิดความรู้สึกของคนกลุ่มหนึ่งว่า ไม่ควรไว้วางใจในตัวทักษิณ เพราะทักษิณละเมิดกฎที่ว่าด้วยการต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่นๆ ทักษิณเริ่มต้นการเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้นำคนอื่นๆ
และนั่นเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายในระบบอุปถัมภ์ ทักษิณจะผิดหรือถูกคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ที่จะตัดสิน ท่านอาจจะลากตัวทักษิณมาขึ้นศาล หรืออาจจะให้เป็นศาลยุติธรรมของประเทศก็ได้ เรื่องนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญก็คือสิ่งที่มาพร้อมทักษิณ และทักษิณได้สร้างรอยไว้ในประเทศไทย เป็นสิ่งที่ประชาชนไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เขาแทบไม่เคยทำอะไรให้คนกรุงเทพเลย เพราะเขาคิดว่าคนกรุงเทพไม่ได้ต้องการเขาเท่าไรนัก ถ้าคุณถามคนกรุงเทพว่าทักษิณทำอะไรให้เขาบ้าง คนกรุงเทพอาจต้องใช้เวลาถึง 2 อาทิตย์ที่จะคิด และคำตอบอาจจะเป็นอะไรก็ได้
แต่ถ้าคุณไปถามคนชั้นรากหญ้า พวกเขาจะสามารถบอกคุณได้เป็น 10 เรื่อง ในสิ่งที่เขาคิดว่าระบบใหม่ของทักษิณได้หยิบยื่นให้กับเขา แล้วทักษิณให้การอุปถัมภ์คนชั้นรากหญ้าหรือไม่ ในการทำเช่นนั้นก็อาจถือได้ว่าทักษิณเองก็ให้การอุปถัมภ์แก่คนชั้นรากหญ้า แต่เขาไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น และผมจะบอกท่านว่า จากการสังเกตด้วยตัวผมเองว่าอะไรเป็นเหตุให้ทักษิณทำเช่นนั้น และมีนโยบายเช่นนั้น ท่านคงทราบว่าทักษิณได้วางแผนการไว้ว่า ในช่วง 2 ปีสุดท้ายของรัฐบาลสมัยที่ 2 ของเขา เขาจะใช้เวลาเพียง 1 ใน 3 ในประเทศไทย และอีก 2 ใน 3 จะใช้เวลากับการเดินทางไปทั่วโลก
จากการวางแผนของเขา เขาตั้งใจจะทำหน้าที่ของ “เซลส์แมน” ของประเทศในช่วง 2 ปีสุดท้าย แต่เขาก็ถูกปลดจากภารกิจนั้นเสียก่อน เขาถูกกระทำรัฐประหารในระหว่างที่รอจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ ในทันทีที่เกิดการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เราได้วางแผนการที่จะจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น แต่แล้วก็มีโทรศัพท์จากเมืองไทยมาถึง และหลังจากนั้นก็ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ตามความคิดเห็นของผมนั่นคือความผิดพลาด เราควรจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้น เราควรจะดำเนินการต่อไปเพื่อให้ คมช. รัฐบาลของสุรยุทธ์ และพวกที่เหลือทั้งหมดถือเป็นพวกที่กระทำผิดกฎหมาย เราควรทำเพื่อให้พวกเขาขาดความชอบธรรมเหมือนรัฐบาลของเฮง สัมริน เมื่อหลายปีก่อน เราควรจะทำเช่นนั้น แต่โทรศัพท์จากกรุงเทพฯ สายนั้นเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง แล้วเราจะสามารถทำอะไรได้ ผมเป็นแค่คนตัวเล็กๆ ในภารกิจการเดินทางอันยิ่งใหญ่ ในเวลานั้นผมเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีฐานะเทียบเท่ากับรองหัวหน้าผู้บริหารประจำทำเนียบขาวในระบบของสหรัฐ แต่ก็เป็นแค่ตำแหน่งเล็กๆ ที่ไม่สามารถผลักดันอะไรได้
ผมอยากจะผลักดันให้มีการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น และถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะเกิดการขัดแย้ง การต่อสู้อย่างรุนแรงในประเทศไทย ดังนั้นถ้าเราจะพูดกันในแง่มุมของประวัติศาสตร์ ว่าแม้แต่นายกรัฐมนตรีที่เข้าสู่อำนาจด้วยพลังของประชาชน เพราะสิ่งที่เขาทำเพื่อปลดปล่อยประชาชนจากระบบอุปถัมภ์ แต่ในเวลาที่สำคัญที่สุดที่ต้องตัดสินใจภายใต้วิกฤติ เขากลับตัดสินใจจากมุมมองจากความคิดในระบบอุปถัมภ์ ดังนั้นระบบอุปถัมภ์ได้ฝังรากลึกมาก และเป็นการขัดแย้งทางอ้อมกับวิถีทางของประชาธิปไตย เราต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงปัญหานี้ เราต้องทำให้ระบบอุปถัมภ์กลายเป็นเรื่องของบุคคล โดยการระบุไปเลยว่าใครยังคงให้การอุปถัมภ์ประชาชน และผมก็เชื่อว่าบัดนี้คือเวลาที่เราต้องทำเช่นนั้น
ถ้าท่านเคยติดคุกแล้วสักครั้ง ทุกอย่างจะธรรมดามาก ท่านจะสามารถติดคุกได้อีกหลายครั้ง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายจริงๆ นะครับ มันธรรมดามาก ตอนนี้ผมกำลังรออีกคดีหนึ่งที่ถูกกล่าวหา ที่เรียกกันว่า “คดีดักฟัง” เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ในขณะที่ขึ้นเวทีประท้วงที่สนามหลวง ผมได้เปิดเผยเทปการสนทนาทางโทรศัพท์ของคน 3 คน 2 ใน 3 คนนั้นเป็นผู้พิพากษา คนหนึ่งอยู่ที่ศาลฎีกา และอีกคนอยู่ที่ศาลอุทธรณ์ คนหนึ่งนี้เป็นที่รู้กันทั่วไปว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าเป็นไปในเชิงรักร่วมเพศกับผู้มีอำนาจ และสิ่งที่พวกเขาพูดกันก็คือ จะหาทางบิดเบือนพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้เกิดผลเสียต่อรัฐบาลของทักษิณ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่คนกลุ่มนี้คิดว่าเข้าข้างรัฐบาลทักษิณได้อย่างไร
และสิ่งที่ตามมาก็เป็นอย่างที่พวกท่านทั้งหลายทราบกันอยู่แล้ว ถ้าท่านติดตามข่าวสารในประเทศไทย หรืออาจกล่าวได้ว่า (จากการเปิดเผยเทปในวันนั้น) พวกเขาถูกบังคับให้เผชิญความจริงว่า ระบบอุปถัมภ์ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญของประชาธิปไตยแบบไทยๆ ดำเนินการกันอย่างไรว่า
พวกเขาให้การดูแลกันและกัน และใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเพื่อที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ต่างๆ อย่างไร ว่าพวกเขาทำร้ายประชาชนด้วยการไม่ยอมรับมติเสียงข้างมากของประชาชนอย่างไร ว่าพวกเขาคิดว่าประชาธิปไตยต้องการการชี้นำอย่างไร กระนั้นก็ตาม เรื่องเทปดังกล่าวจะเป็นคดีที่ใหญ่มากจากนี้ไป ไม่ใช่เรื่องที่ตำรวจจะมาแจ้งข้อหากับผมและเพื่อนอีก 2-3 ราย ว่าลอบดักฟังโทรศัพท์ มันเป็นเทปที่มีการตั้งใจอัดเสียงไว้โดยบุคคลที่สาม ซึ่งอีกไม่นานเขาก็จะแสดงตัวออกมา ท่านนั้นเป็นปลัดของสำนักนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น คดีนี้ก็จะถูกดำเนินคดีในชั้นศาลต่อไป เจตนาของผมในเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่ว่าผมจะเห็นด้วยกับการดักฟังทางโทรศัพท์หรือไม่ แต่ผมต้องการนำคุณเปรม หรือ พล.อ.เปรม และผู้พิพากษาอีก 2 คนนั้นไปขึ้นศาลต่างหาก นั่นคือเจตนาของผม และเมื่อผมได้เผชิญหน้ากับคุณเปรมในศาล และจะได้ถามเขาว่าทำไมผู้นำที่ยิ่งใหญ่อย่างคุณเปรมถึงตัดสินใจลดระดับของประชาธิปไตยลงเช่นนี้ คุณเปรมเคยเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ เคยเป็น ฯพณฯ แต่บัดนี้เขาได้เปลี่ยนไปแล้ว จากบุคคลที่เคยเป็นผู้นำที่เราจะขาดเสียไม่ได้ในอดีต
บัดนี้ได้กลายเป็นผู้นำในเวลาที่ผิดพลาดในประวัติศาสตร์ คุณเปรมเป็นสัญลักษณ์ของหลายๆ อย่าง เราได้เรียนรู้จากคุณเปรมว่า เมื่อคนที่ดีแก่ตัวลงมากๆ และผมไม่ได้หมายถึงอายุ แต่เป็นสภาวะของความรู้สึกว่าตัวเองแก่ ในสภาวะของจิตใจที่จะไม่ผจญภัยอีกต่อไป แต่ถอยกลับคืนเข้าสู่อดีต กลับสู่วันคืนอันดีงามในอดีตที่คุณเปรมรู้สึกคุ้นเคย ซึ่งสภาวะเช่นนั้นไม่ได้เหมาะสมกับประเทศไทยอีกต่อไป
ดังนั้น ผมขอโทษที่ผมใช้เวลาไปค่อนข้างมาก แต่ผมแค่อยากจะบอกว่า เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้ค้นพบทั้งในคุกและนอกคุกว่า ประชาธิปไตยขัดแย้งกับระบบอุปถัมภ์อย่างสิ้นเชิง และการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ก็จะไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย สถานการณ์หลังการเลือกตั้งจะยิ่งแย่ลงไปอีก เพราะจะมีการใช้แท็กติกและการดำเนินการในเบื้องหลังต่างๆ อย่างมากมาย และจะมีการเปิดเผยเจตนาที่แท้จริงออกมา ในเมื่อคุณไม่สามารถอนุญาตให้มีประชาธิปไตยได้ในประเทศนี้ เมื่อท่านไปที่สนามหลวง ท่านจะได้ความรู้สึกเดียวกับที่ผมมีว่า ประชาชนคนไทยไม่ได้เป็นเด็กอีกต่อไปแล้ว พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ที่ถูกบังคับให้เป็นเด็ก และอยู่ภายใต้กรอบของขนบธรรมเนียม พวกเขาสับสนทั้งทางกายและทางความคิด และกำลังพยายามที่จะออกจากกรอบนั้น ผมไม่รู้ว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร แต่มันจะต้องมีผลลัพธ์ออกมา
ดังนั้น ผมขอจบการนำเสนอของผมเพียงแค่นี้ ผมหวังว่าความคิดเห็นของผมจะทำให้เกิดคำถาม และการวิพากษ์วิจารณ์ที่ติดตามมา ผมต้องการฟังความเห็นและคำถามของท่านทั้งหลายมาก ผมอยากรู้ว่าพวกท่านคิดอย่างไรกับประเทศไทย เพราะหลายๆ ท่านในที่นี้ก็ได้อยู่ในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน หลายๆ ท่านเป็นผู้ที่รักประเทศไทยอย่างแท้จริง และผมไม่อยากทำร้ายความรู้สึกเช่นนั้น ดังนั้นผมจึงอยากที่จะทราบว่าท่านคิดจริงๆ อย่างไร ณ เวลานี้
ขอบคุณครับ
บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)
ข่าวจากสื่อ
- เครือข่ายประชาธิปไตยแห่ผูกผ้าดำหน้าศาลรธน. จี้ทบทวนมติ
- นายกฯ เปิดงาน"เทศกาลเที่ยวเมืองไทยในปี 2555"
- "ศันสนีย์"โฆษกรัฐบาลคนใหม่เผยพร้อมประชาสัมพันธ์งาน รบ.เชิงรุก
- ชี้ทางออก"ปรองเดือด"สู่"ปรองดอง"
- เสื้อแดงแจ้งธาริตเอาผิดมาร์ค-สุเทพฐานสร้างความปั่นป่วน
- ห่วงบานปลาย คอป.ห้ามทัพ พท.-ศาลรธน.
- นปช.นัดชุมนุมขับไล่ศาล รธน. พร้อมล่ารายชื่อถอดถอนใน 2 สัปดาห์
- "พานทองแท้" สอนมวย "มาร์ค"-จี้ขอโทษประชาชน ฐานปล่อยส.ส.โชว์เถื่อนในสภา
- ใช้ปมแก้รธน. ยุบเพื่อไทย ดูดสส.ตั้งรบ.
- "สมศักดิ์ เจียมฯ" เสนอรบ.-สภา "ชน" ศาลรธน. จี้พท.-นปช.ทบทวนยุทธศาสตร์การเมืองทั้งหมด
- นิติราษฎร์" แถลงชี้-ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
- นิติราษฎร์แถลงชี้คำสั่งศาลรธน.ชะลอแก้รธน. 'ไร้อำนาจ'
- งามแต้ๆ เจ้า! "นายกฯ ปู" แต่งชุดพื้นเมือง-ผ้าซิ่นสีชมพูแอ่วเมืองพะเยา ปชช.แห่ต้อนรับเพียบ (ชมภาพชุด)
- กกต.เชียงใหม่เตรียมรับรองผลเลือกตั้งส.ส.ใน 7 วัน-"เกษม" ขอบคุณปชช.
- "จาตุรนต์"ปลุกกระแสต้าน"รัฐประหาร" ชี้ปม"ศาลรัฐธรรมนูญ"สั่งสภาฯระงับพิจารณาร่างรธน.
- “จาตุรนต์” ชี้ อำนาจประชาชนถูกปล้น- “ชนชั้นนำ” ไม่อยากปรองดอง - คาดเกิด “ยุบพรรค” อีกรอบ
- "ปู"ทำบุญเปิดหอฉันวัดเชียงบาน ชาวพะเยากว่า2,000คนต้อนรับแน่น
- อาจารย์เกษียร เสียดาย "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" คิดได้แค่นี้หรือ..!?!
- ขึ้นป้ายไล่"หมอวรงค์"ทำคนพิษณุโลกอับอาย
- โลกออนไลน์ เบื่อหน่ายพฤติกรรม ส.ส. ศึกชิงเก้าอี้ประธานสภา
- "เรืองไกร" ฉวย! ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินสอบ "ณัฎฐ์" ดูคลิปหวิวในสภา อ้างนำความเสื่อมเสียมาสู่สภาฯ
- แกนนำนปช...."อย่าเป็นวัวลืมตีน"
- ข่าว"เหตุเกิดในมาเลเซีย" ข่าว"เมด อิน ไทยแลนด์" ข่าวกระพือ"ไฟใต้"
- "ณัฐวุฒิ" สวน "กรณ์" ขวางปรองดอง-ไม่ทวงข้อเท็จจริง "10เมษา" ตั้งแต่ยุค "รบ.อภิสิทธิ์"(ชมคลิป)
- เสียงก้องจาก 2 กูรู "ตุลาการ" ไม่มีอคติ ไม่มีล็อบบี้ ไม่มีใบสั่ง
- "ทักษิณ"เข้าสักการะพระธาตุหลวง-เผยซึ้งใจได้ทำบุญ แกนนำแดง อดีต ส.ส. แห่รับพรึบ (ชมคลิป)
- "จตุพร" ท้าตั้ง คตส.ตรวจสอบการทำงาน "มาร์ค-ชวน" เหมือนกับที่ทำกับ "ทักษิณ" ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
- "หาดใหญ่"อ่วมซ้ำ ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์กลางเมืองวอดเรียบ!
- "ทักษิณ"ทำบุญสีบชะตาที่ลาว ลั่นไม่นานเกินรอกลับไทย ขบวนแดงแห่ร่วมคึก
- “แม้ว” ทำบุญในลาวแฟนคลับเสื้อแดงแห่รับเพียบ
บทความจากสื่อ
- ประชาธิปัตย์...เปลี่ยนเถอะ !โดย ฐากูร บุนปาน
- กฤษฎีกาชี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งชะลอลงมติร่าง รธน.วาระ 3 ไม่เคยเกิดขึ้นในโลก บอกไร้ช่องทางต่อสู้
- เกม"แก้ รธน.291" สภาชน"ศาลรัฐธรรมนูญ" เกมค่ายกล′ยุบพรรค′?
- ปัญหา"มาตรา68" สกัด"ร่างแก้ไขรธน. แหลมคมจาก"นิติราษฎร์"
- งามหน้าสภาไทย ! เมื่อท่านประธานฯ ถูกจี้คาบัลลังก์
- แกะกล่อง "หัวใจสองสี" ขัตติยา สวัสดิผล
- "ทักษิณ-เพื่อไทย"ปรับแผน เปลี่ยน"รูปมวย"...รู้จัก"รอ" ย้ำภาพ"ฝ่ายมีเปรียบ"
- ฐากูร บุนปาน : เจรจา-ผิดตรงไหน?
- พระราชทานเครื่องราชฯ 'มหาปรมาภรณ์' แก่นายกฯ
- ซ่อนหลัง"หน้ากาก"
- ดร.โกร่ง คนเดินตรอก : การบริหารจัดการมหเศรษฐกิจ
- ยอดคลิกทะลุ! รวมข่าวที่มีคนอ่านมากที่สุดใน "มติชนออนไลน์" ประจำวันที่ 6เม.ย.2555
- วิเคราะห์ปัญหา-ค้นคว้าทางออกของเหตุความรุนแรงภาคใต้กับ "ชัยวัฒน์-รอมฎอน"
- ปฏิบัติการ "ป๋า" ภาค 2 สู้ "นารีพิฆาต" กับปากคำ "บิ๊กบัง" เรื่อง "ป๋า" และการเมืองแสนซับซ้อน ในมุม "ประยุทธ์"
- กลุ่มสตรีมองปมร้อน'โฟร์ซีซั่นส์'
- ดูกันชัดๆ บทบาทฝ่ายค้าน เล่นของ ว. 5 ปักทิ่ม ยิ่งลักษณ์ เอาให้ตาย!!
- ต่อสู้ 2 แนวทาง เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ กรณี โฟร์ซีซั่นส์
- นิวัฒน์ธำรง-ลงธรรมาสน์ ธุดงค์ในทำเนียบ เผยแพร่ลัทธิเพื่อไทย กางสูตรรัฐบาล + พล.อ.เปรม = การเมืองนิ่ง
- ยกร่าง′รัฐธรรมนูญ′ และความห่วงใย ล็อกสเปก′สภาร่างฯ′
- "กุนซือ" คิด "ปคอป." พูด ข้อมูล-คีย์เวิร์ด "เยียวยา"
วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2551
ถอดความ...ปาฐกถาเจ้าปัญหา
ข่าวส่งเสริมคนดี
-
►
2012
(2216)
- ► กุมภาพันธ์ (291)
-
►
2011
(6486)
- ► กุมภาพันธ์ (466)
-
►
2010
(5119)
- ► กุมภาพันธ์ (541)
-
►
2009
(5406)
- ► กุมภาพันธ์ (290)
-
▼
2008
(3573)
-
▼
พฤษภาคม
(462)
- พันธมิตรไม่หวั่นจับ 5 แกนนำ เชื่อมีรุ่นใหม่สานต่อ
- งัดพรบ.จราจรจัดการชุมนุม ไม่เคลื่อนย้าย-ใช้กำลังตร...
- จุดเปลี่ยนที่พลิกกันได้
- ตำรวจเสริมกำลังดูแลความปลอดภัยบ้านพักนายกฯ
- นายกฯ ให้ผู้ชุมนุมหาที่รวมตัวใหม่ที่ไม่ใช่สะพานมัฆ...
- พปช.ยืนยันปล่อยให้ญัตติแก้ รธน.ตก รอประชามติ
- แกนนำ พปช.หารือ ไม่มีการประเมินสถานการณ์ชุมนุม
- ตำรวจเพิ่มกำลังคุมเข้มการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ
- ส.ว.แห่ถอนชื่อ จนส่งผลให้ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญตกไป
- ศาลฎีกามีมติไม่แต่งตั้งผู้ไต่สวนอิสระคดี สุเทพ ร้อ...
- เมื่อรถหยุดวิ่ง
- พันธมิตร จะเผด็จศึกใคร
- สมัคร ปฏิเสธให้ความเห็นกรณี จักรภพ
- ยุคเสื่อม ปชป.
- แฉลบเข้าเนื้อตัวเอง
- “ประทีป-หมอเหวง” จี้ปลด “สพรั่ง”
- ชัย ยืนยันไม่รีบบรรจุญัตติแก้ไข รธน.
- มท.1 ตั้ง ฉก.ปราบยาเสพติด มีอำนาจคลุมทั่วประเทศ
- ผบ.ทบ.ลงนามปรับย้ายนายทหารระดับผู้บังคับกองพัน 98 นาย
- ร.ต.อ.เฉลิม ระบุเป็นเรื่องดีหาก ดวง อยู่ ฉก.ปราบยา...
- ร.ต.อ.เฉลิม ปัดย้ายที่หารือ รมต.พปช.ไม่ใช่เพราะถูก...
- บรรหาร พร้อมทำความเข้าใจ ณัฐวุฒิ เกี่ยวกับกฎระเบีย...
- หมอเลี้ยบฝากทูตไทยแจงสถานการณ์การเมืองไทย
- กฎหมายกับการเมือง
- จวก “อภิสิทธิ์” ทัศนคติอันตราย
- กลุ่มพันธมิตรฯ แจกคู่มือเตรียมพร้อมหาก ตร.สลายการช...
- รมว.กลาโหม กำชับกองทัพช่วยประชาชนหากเกิดภัยพิบัติ
- กกต.ยกร่างกฎหมายประชามติเสร็จแล้ว
- คอลัมน์ : สามเหลี่ยมดินแดง
- ถอดความ...ปาฐกถาเจ้าปัญหา
- ม็อบมา เงินหด ‘รูปธรรม’ ความเสียหายของชาติ
- สื่อไร้มารยาท
- ปิดถนนชาวบ้านเดือดร้อน เสมา 1 แนะตร.จัดการพันธมิตร
- นพดล ระบุการชุมนุมยืดเยื้อกระทบการลงทุนในไทยระยะยาว
- สหรัฐยังสนใจลงทุนในไทยต่อ
- สวนดุสิตโพลชี้ประชาชนหวั่นเกิดจลาจล
- สมัคร ร้องเพลงไทยเดิม ไทยสามัคคี เตือนสติคนไทย
- ร.ต.อ.เฉลิม เผยนายกฯ เชิญ รมต.พปช.ทานอาหารค่ำ 30 พ...
- สดศรี เผย กกต.จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ...
- สมชาย ระบุมีเสียงสะท้อนอยากให้ ตร.จัดการพันธมิตรฯ ...
- ดึงเกมวัดใจแนวร่วม
- พันธมิตรแข็งกร้าว ระดมพล จากตจว.มาชุมนุม
- กลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันชุมนุมต่อไม่มีกำหนด
- มท.1 ฉลองครบ 61 ปี ประกาศเตรียมลงใต้หลังนายกไฟเขียว
- ทนายคดีหวยบนดินส่งคำร้องค้านถึงศาลฎีกาฯ แล้ว
- ครม.เห็นชอบขยายโครงการรถไฟฟ้า 2 สาย งบฯ กว่า 5 หมื...
- แจงหมดเปลือก ย้ำ...ความจงรักภักดี
- แก๊ง 3 อ.
- กลุ่มชุมนุมยืดเยื้อ ‘สพรั่ง'โผล่ ลั่นทหารเฉยไม่ได้
- ครม.ลุยประชามติแก้รธน. ไม่กล้าดันทุรังออกพ.ร.ก.
- ปชป.ยืนยันพรรคแปลเอกสารตามหลักสากล ไม่บิดเบือน
- ประธานสภาฯ ยืนยันต้องบรรจุญัตติแก้ไข รธน.
- มท.1 ปัดข่าวรัฐบาลงัด พ.ร.บ.ความมั่นคงมาปราบกลุ่มพ...
- ร.ต.อ.เฉลิม รอศาลตัดสิน สนธิ ละเมิดข้อกำหนดศาลหรือไม่
- ลูกชาย สมศักดิ์ แจงไปรัสเซียดูบอล ไม่เกี่ยวซื้อปุ๋ย
- มท.1 ประสานไอซีทีตั้งคณะทำงานตรวจเว็บไซต์ที่แพร่ข้...
- ปชป.ประเดิมโครงการแรกขายข้าวราคาถูก 1 หมื่นถุง
- ชูศักดิ์ ยืนยันไม่จำเป็นต้องถอนญัตติแก้ไข รธน.
- เลขาฯ กฤษฎีกาแนะควรปล่อยให้ กกต.ไปยกร่าง กม.ประชาม...
- การพัฒนามุมมอง
- เหตุฉุกเฉิน
- 'อนุพงษ์' รีบตีกันใคร?
- ฉะ “เติ้ง-สมศักดิ์” แทงข้างหลัง
- นายกฯชี้ชาติเสียหายหนักจากกลุ่มชุมนุม
- พันธมิตรฯ เตรียมขอมติผู้ร่วมชุมนุมเช้าวันนี้
- ศาลรับฟ้อง นพดล ปัทมะ ฟ้องหมิ่น เตมูจิน และพวก
- คตส.มีมติส่งสำนวน ทักษิณ เอื้อประโยชน์ให้ศาลยึดทรัพย์
- ส.ว.ยโสธร รับถูกกดดันหนักให้ถอนชื่อในญัตติแก้ รธน.
- สมพงษ์ เชื่อนายกฯ มีวิธีแก้ปัญหากลุ่มค้านแก้ รธน.
- พาคนไปตาย ภาค 2
- มท.1 ระบุพันธมิตรฯ ผิดเงื่อนไขเคลื่อนม็อบ ตร.คุมไม...
- นพดล ระบุนายกฯ เชื่อม็อบพันธมิตรฯ ไม่ยืดเยื้อ
- จักรภพ ยืนยันไม่ลาออก ขอลากิจ 7 วัน
- พี่ชายประภัตร โต้ รมว.เกษตรฯ ค้านต่างชาติทำนา
- นายกฯ ชี้พันธมิตรฯ ชุมนุมไม่มีเหตุผล
- บทสรุปสิบชั่วโมงบนถนนราชดำเนินเมื่อคืนที่ผ่านมา
- เหลือ 300-500 คน เมื่อตอนตีสี่
- รายงาน "บทสรุปสิบชั่วโมงบนถนนราชดำเนินเมื่อคืนที่ผ...
- ทางออกคือทำประชามติ
- เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรกับกลุ่ม...
- กลุ่มพันธมิตรฯ เตรียมเคลื่อนขบวนไปหน้ารัฐสภา เช้าว...
- ชาวนากับโอกาส
- จุดหักเห
- มองหลายมุม
- สานต่อโครงการผันน้ำช่วยเกษตรกร
- กลุ่มพันธมิตรประกาศชุมนุมยืดเยื้อถึง 10.00 น.พรุ่งนี้
- ปชป.ยกเรื่องคัดค้านแก้ รธน.เป็นภารกิจต่อสู้ครั้งสำคัญ
- ปชป.ติง มท.1 เป็นโฆษกอดีตนายกฯ ไม่แหมาะสม
- สมัคร ประกาศเดินหน้าโครงการผันแม่น้ำโขง
- พันธมิตรฯ โอ่ชุมนุมเกิน 3 หมื่น ตร. ลั่นห้ามยืดเยื้อ
- ซัด 18 อรหันต์สื่อจ้องโค่น ยันออกพ.ร.ก.ประชามติ
- ป้อง 'ทักษิณ' ขายชาติ นายกฯโทษสื่อมั่วข่าว
- “สมัคร”สับเละ ปชป.ทำตัวเยี่ยงคณะปฎิวัติ! ค้านแก้รธ...
- ดัชนีความสงบสุขไทยวูบ บัวแก้วกังขาการจัดอันดับ
- เลขาธิการยูเอ็นหารือนายกรัฐมนตรี วางแนวทางช่วยพม่า
- ประชา ประสพดี ยันไม่เคลื่อนประชาชนปะทะกลุ่มพันธมิตรฯ
- โปรดเกล้าฯ “เสรีพิศุทธ์” พ้นเก้าอี้ผบ.ตร.แล้ว พร้อ...
- นักธุรกิจ ดูไบ เวิลด์ เข้าพบ สมัคร สนใจลงทุนอสังหา...
- ทัศนคติของจักรภพ อันตรายอย่างยิ่ง อันตรายต่อระบบอุ...
- ยังระแวงยี่ห้อ 'ทักษิณ'
- ► กุมภาพันธ์ (617)
-
▼
พฤษภาคม
(462)
จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม
Powered by web hosting provider . |
มุมพักใจ
มีสติ ไม่เพ่ง ไม่เผลอ
คนไทยทุกคนน่าจะรู้อย่างยิ่ง
- บทสัมภาษณ์ 'ต้องห้าม' ทักษิณ ชินวัตร-จอม เพ็ชรประดับ รายการ'ตัวจริง ชัดเจน'
- นำเงินหวยมาส่งเสริมเด็กเรียน VS รีดเงินบาปจากเหล้า บุหรี ให้เนชั่นทำทีวี : ใครเลว ????
- ไว้อาลัย นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ : ผู้ปิดทองหลังพระโครงการ '30 บาทรักษาทุกโรค'
- บทความ: ตุลาการวิวัฒน์ กลายเป็น ตุลาการศาลเตี้ย
- ***ปฏิกิริยาจากสื่อนานาชาติต่อการยกฟ้อง..คดียุบพรรคพลังประชาชน****
- ว่าแต่เขา [19 ม.ค. 51 - 19:23]
- แถลงการณ์กลุ่ม 24 มิถุนาฯ คัดค้านกฏหมายเผด็จการทำลายสื่อเสรี
- 80 ข้อ ที่ผมไม่เคยรู้เกี่ยวกับในหลวง
- ผู้รับใช้เผด็จการ ไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้พิพากษา
- เรายังรอความเป็นธรรมจาก กกต.ชุดนี้ ได้อีกหรือ?
- เอพีตีข่าว‘ทักษิณ'เดินทางออกจากฮ่องกงกลับอังกฤษแล้ว!
- คุณสดศรีครับ ผมไม่สามารถไว้วางใจให้เป็น กกต. ได้แล้วครับ ลาออกไปเสียเถอะครับ
- ขอคารวะท่าน พล.อ.ปอ สี่เสา : ทำบุญก่อนท่านจะละสังขารจากไปเถอะครับ
- วีซีดีทีเด็ดอยู่ที่ไหน?
- นานาปฏิกิริยาจากสังคม หลังเห็นเอกสารลับ " สัมพันธ์ บังธิ-สองแม่ลูก 'สัตยธรรม' "
- สุจริตเที่ยงธรรมยังมีอยู่หรือไม่
- ยุบพรรค พปช. กลยุทธ์ที่หน่อมแหน้ม เพราะเขาก็ยกพรรคไปอยู่พรรคใหม่ วิญญาณเก่าในร่างใหม่
- อย่าโกงประชาชน
- Thailand's Thaksin Supporters Accuse Opponents Employing 'Dirty Tricks'
- ใบแดงที่ไม่เป็นธรรม ไม่ใช่โกงทักษิณ แต่เป็นการโกงชาวบ้าน มันจึงเป็นฉนวนไปสู่จลาจล
- ประจานทั่วโลก!‘รัฐประหารเงียบ'สกัด‘พปช.'
- กกต.ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง !
- กทม.เมืองเทวดาแพ้ศัตรู คือความสูญสิ้น ดังนั้นต้องไม่แพ้พระอินทร์ สั่งมา (ต้องอ่านให้ได้ครับ)
- เปิดวิสัยทัศน์แก้วิกฤติเศรษฐกิจไทย สไตล์ 'ทักษิณ ชินวัตร'
- 'มิ่งขวัญ' เสนอนโยบายพรรคในรายการตัวจริง ชัดเจน
พลังประชาชนอ่านยัง
- ทักษิณ กับ เทพชัย หย่อง กรณีขายหุ้น และ ผลประโยชน์ทับซ้อน
- นักรบไซเบอร์ (Cyber Warrior) อินเตอร์เน็ต รัฐประหาร และประเทศไทย
- ปล้น
- เหรียญเปรมเหมาะสมหรือไม่
- อนุดับเพลิง คตส.ชี้ อภิรักษ์ ไม่ผิดทุจริตรถ-เรือดับเพลิง
- …พลังประชาชน ฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย !...
- คตน.สรุปไร้หลักฐานฟัน'ทักษิณ' สั่งฆ่าตัดตอนปี46
- “กฎหมายไม่ใช่ตัวยุติธรรม แต่เป็นเครื่องมือให้เกิดความยุติธรรม”
- และแล้วทีไอทีวี ก็เรียบร้อยโรงเรียนโจร ไปตามระเบียบคมช. !!!
- รัฐรีดสนุกมือสนับสนุน 'ทีวีสาธารณะ' [16 ม.ค. 51 - 04:24]
- สองขั้นอัปยศ : การทำรัฐประหารเป็นความดีความชอบ เข้าขั้นเสียสติแล้ว
- ITV ย้อนรอยเหตุการณ์นับแต่ก่อตั้ง จนถูกสั่งปิดเมื่อคืน
- เทพชัย-เนชั่นผงาด 5อรหันต์ทีวีสาธารณะ [15 ม.ค. 51 - 12:38]
- เงื่อนไขหน้าด้านๆของขันที
- ผู้รับใช้เผด็จการ ไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้พิพากษา
- เรายังรอความเป็นธรรมจาก กกต.ชุดนี้ ได้อีกหรือ?
- เอพีตีข่าว‘ทักษิณ'เดินทางออกจากฮ่องกงกลับอังกฤษแล้ว!
- เปิดใจประธานเรือใบ1, 2, 3
- 'ประดาบ'คุยกับตัวเอง
- สำนึกแห่งไทย สำนึกแห่งความจงรักภักดี สำนึกที่มีต่อพระมหากษัตริย์ของคนไทย
- พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ 'ก้อนกรวดในรองพระบาท'
- ชีวิต(บัดซบ)ของ...อี๊ด
- เพราะฉะนั้น จึงรักกันเช่นฉะนี้
- รวมงานเขียนบาดใจคนคด ของ รอยคมประดาบ (ชอบก็ต้องอ่าน ไม่ชอบก็ยิ่งต้องอ่าน)
- สมุดปกม่วง
Links
- Hi Thaksin (Th)
- ชมรมคนคิดถึงทักษิณ
- กลุ่มพลเมืองภิวัฒน์
- Welovethaksin (Th)
- Hello Hello KonThaiUK!
- Thinking in Ink (Th/Eng)
- Thaksin Come Back (Th)
- Truethaksin.com (Th/Eng)
- Siam Freedom Fight (Th/Eng)
- Thaksin.wordpress.com (Th/Eng)
- Thai Press Log บล็อกบันทึกสื่อชั่ว
- ดาวเมือง บล็อคข่าวขับไล่เผด็จการ
- Thai E-News ข่าวสารที่คุณไม่อาจหาอ่านได้จากสื่อ
- นิพพาน ปฏิบัติใหม่ๆ อยากไปนิพพาน