ดีกรีเผชิญหน้าลดโทนลงวูบวาบเลย
ภายหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เลื่อนการลงมติในการพิจารณาสำนวนคำร้องทุจริตเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ออกไป พร้อมทั้งได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นใหม่ ซึ่งมีนายสุวิทย์ ธีรพงษ์ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นประธาน
กลับไปเริ่มต้นนับหนึ่ง
โดยที่นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ยืนยัน เป็นไปตามที่นายยงยุทธร้องขอให้เปลี่ยนชุดสอบสวน เนื่องจากเห็นว่าทีมงานตำรวจสันติบาลไม่มีความเป็นกลาง
จึงต้องทำเพื่อความเป็นธรรม
ขณะที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต.สำทับเพิ่มเติมว่า กกต.จะลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อเริ่มต้นทบทวนการสอบพยานใหม่ทั้งหมด
อันเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้สู้กันอย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้จะเปิดโอกาสให้นายยงยุทธได้ดูวีซีดีของตำรวจสันติบาลตามที่ร้องขอ
และหากการสืบสวนของคณะอนุกรรมการดังกล่าวเสร็จไม่ทันวันที่ 15 มกราคมนี้ กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของนายยงยุทธไปก่อน และภายหลังหากมีข้อสรุปที่แน่ชัดว่า มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจริง จึงจะให้ใบเหลืองใบแดง
อย่างน้อยก็เป็นการเปิดช่องหายใจ
ระบายแรงกดดัน
เบื้องต้นก็แสดงให้เห็นว่า กกต.ไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรือจะเชือดใครตามใบสั่ง
ทุกอย่างเป็นไปตามสำนวน ไม่เข้าใครออกใคร
ไม่อย่างนั้น ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคพลังประชาชน คงไม่นำคณะเข้ามอบช่อดอกไม้ให้ 5 เสือ กกต. แสดงความขอบคุณที่มีการเปลี่ยนตัว พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ที่ถูกระบุว่ามีความใกล้ชิดกับแกนนำพันธมิตรม็อบไล่อดีตนายกฯทักษิณ ออกจากทีมสอบสวนคดีของนายยงยุทธ
กกต.ทำทุกอย่างเพื่อประคองความเป็นกลาง
ฉะนั้น ผลสุดท้ายกรณีของนายยงยุทธจะออกมามุมไหน น่าจะยอมรับได้ระดับหนึ่ง
ถึงตรงนี้ต้องยกให้ กกต.ทรงตัวได้ดี
แต่ในทางตรงกันข้ามกับพวกที่กำลังออกอาการเป๋ เหมือนจะพาลเกเร
ดูมุมไหนก็ไม่เข้าท่ากับคิวที่ 7 ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี พรรคพลังประชาชน ได้เกณฑ์ประชาชนผู้สนับสนุนนับพันคน บุกประท้วง กกต.แจกใบเหลือง
ประกาศปักหลักกินนอนอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี
แสดงเจตจำนงไม่ได้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยได้ทำกรงขังตัวเองบนรถบรรทุก 6 ล้อ พร้อมแสดงการปิดหูปิดตา โดยขอให้ประชาชนเป็นผู้ปลดปล่อยตนเองออกมา
เฮี้ยวเกินเหตุไปหรือเปล่า
ทั้งๆที่ว่าไปแล้ว แค่ได้ใบเหลืองยังมีสิทธิลงสนามแก้ตัว
โดยเฉพาะในภาคอีสานกับภาคเหนือ ถ้ามั่นใจในกระแส “พลังประชาชนฟีเวอร์” เลือกเมื่อไหร่ก็ได้กลับมาอยู่แล้ว
ไม่เห็นต้องออกอาการฮึดฮัด จุดกระแสหมั่นไส้
เผลอพลาดพลั้งไปติดบ่วงข้อหาครอบจักรวาล เข้าข่ายกล่าวหาใส่ร้าย ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในการลงคะแนน จากเหลืองจะพลิกเป็นใบแดง
เสียค่าโง่โดยไม่จำเป็น
และพูดถึงคิวเสียค่าโง่โดยไม่จำเป็น มันก็น่าเอะใจกับอาการล่าสุดที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อ้อนวอนให้ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ ลูกพรรคประชาธิปัตย์
ถอนฟ้องคดีเลือกตั้งล่วงหน้าโมฆะ
อ้างว่า เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจว่า พรรคประชาธิปัตย์
ไม่ได้มีจุดยืนให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ และไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่พรรคพลังประชาชนเป็นนอมินี
แต่มันน่าจะมีอะไรที่ลึกไปกว่านั้น
ที่แน่ๆเลยกับชัยชนะแบบเหนือการคาดหมายในสนาม กทม.ที่สวนทางกับเอกซิทโพล สะท้อนว่าคะแนนที่พลิกล็อกของพรรคประชาธิปัตย์ มาจากคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า
แล้วถ้าเกิดเป็นโมฆะ ต้องล้มกระดานกันใหม่
ใครล่ะที่จะเข้าเนื้อ.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
วิเคราะข่าวการเมือง