นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ซึ่งได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า หากเข้ามาทำหน้าที่ประธานสภาฯ จะไม่เกิดเหตุการณ์เผด็จการรัฐสภาอย่างแน่นอน แม้จะมีเพื่อน มีพี่มีน้อง และหลอกไม่ได้ว่ามาจากพรรคพลังประชาชน แต่การทำหน้าที่ต้องคำนึงถึงจริยธรรม และสำนึกในความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะอยู่สถาบันใด ดังนั้น พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเอง ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงตรง ทั้งนี้ ยอมรับว่า ไม่มีจุดเด่นอะไรที่ ส.ส.จะต้องมาโหวตให้ แต่เห็นว่าเป็นภาระหน้าที่ที่ต้องทำงานมากกว่า จึงต้องการขอเวลา และจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
“ไม่มีเผด็จการรัฐสภา สิ่งเหล่านี้แค่คิดก็ไม่ถูกต้องแล้ว ไม่ได้ บรรยากาศการทำงานจะต้องอะลุ้มอล่วย จะไปคิดว่าไม่ฟังเสียงข้างน้อยไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะมีสภาฯ ไว้ทำไม การฟังเป็นสิ่งดี รัฐบาลจะสามารถนำข้อติติง ข้อวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหลายไปใช้ประโยชน์ของประเทศได้ แต่ความเห็นอะไรที่ซ้ำกัน ห รืออาจทำให้ที่ประชุมเสียเวลา ก็คงต้องมาคุยกัน” นายยงยุทธ กล่าว
นายยงยุทธ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นความฝันคือ ทำอย่างไรให้ทุกคนมีความสุข ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น มุ่งเน้นประโยชน์ของประเทศชาติ และไม่ต้องการให้ประชาชนเป็นเหยื่อของความขัดแย้ง ดังนั้น หากอะไรที่ลดความขัดแย้ง ทำให้เกิดความปรองดองได้ มุ่งเน้นประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก คือ หลักที่จะต้องทำ
ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่า จะเกิดกรณีเสียงข้างมากลากไปนั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตย จะบอกว่าเสียงข้างน้อยลากไป คงไม่เป็นระบอบประชาธิปไตย แต่สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ว่าสิ่งที่ทำไปนั้น เสียงข้างมากทำถูกต้องหรือไม่ ชอบธรรมหรือไม่ ถ้าเสียงข้างมากไม่ชอบธรรม ผู้ที่ตัดสินคือประชาชนที่ไปลงคะแนนให้ ดังนั้น ในสภาฯ ต้องใช้เสียงข้างมากตัดสิน แต่ต้องตัดสินโดยวิถีทางที่เป็นธรรม
สำหรับการที่จะเสนอทูลเกล้าฯ ถวาย รายชื่อนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ กล่วว่า ขณะนี้ยังไม่ขอวิจารณ์ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่ได้รับเลือกเป็นประธานสภาฯ และยิ่งถูกบอกว่าเป็นสายล่อฟ้า จึงขออย่าเพิ่งให้พูดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะเกรงจะถูกวิจารณ์ว่ายังไม่ได้รับตำแหน่ง ก็อวดดีเสียแล้ว.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-01-22 10:49:30