ประเทศไทยวันนี้กำลังจะพ้นคำสาป ของแม่มด
หรือหมอผีใจบาปในเวลาไม่ช้านี้
1 ปีเศษที่คนไทยต้องมีชีวิตอยู่บนเรือที่ปราศจาก
หางเสือ ปราศจากกัปตันที่ขับเรือเป็น และปราศจาก
เสบียงอาหารที่จะยังชีพในทะเลลึกซึ่งเต็มไปด้วยมรสุม
ความผิดถูกของประเทศนี้ มีคำตอบชัดเจนว่า...
มาจากอะไร??
จนบัดนี้ เหตุผลที่คณะปฏิรูปฯ ซึ่งมี พล.อ.สนธิ
บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าทั้ง 4 ข้อ ก็ยังไม่มีความ
ชัดเจนในทางอรรถคดีแม้แต่ข้อเดียว
ยังคงเป็นเพียงข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย เพียงเพื่อจะ
ปฏิวัติยึดอำนาจ เท่านั้น!!
รัฐบาลและ คมช. ที่มีอำนาจเด็ดขาด เป็นรัฐบาล
เผด็จการที่มีทั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ตั้งขึ้นเองกับมือ
คอยเป็น “โรงงานผลิตกฎหมาย” ทุกมาตราที่ต้องการให้
มีองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเองแต่มีอำนาจล้นฟ้าอย่าง
คตส. และองค์กรอื่นที่จะทำให้แผนสร้าง “บันได 4 ขั้น”
ของคนทำปฏิวัติเพื่อทำลายล้างอีกฝ่ายให้สูญพันธุ์
คมช. เป็นคณะบุคคลที่สามารถตั้งสภาร่าง
รัฐธรรมนูญขึ้นมาเองได้ ตั้งคณะกรรมการร่าง
กฎหมายเลือกตั้ง-กฎหมายพรรคการเมืองเองได้
นี่คือความได้เปรียบมากมายมหาศาลต่อคนที่เป็น
ศัตรูอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มนักการเมือง
จากพรรคไทยรักไทยเดิม!!
แล้วทำไม?? ศัตรูถาวรของพวกเขาจึงกลับมา
มีอำนาจอีก ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอีก??
เพราะประชาชนไม่เห็นด้วยกับ คมช. และ
คณะปฏิวัติ 19 กันยา ใช่หรือไม่??
มาฟัง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พูดแล้วช่วยกัน
คิดว่า พระฤๅษีแห่งเขายายเที่ยงพูดเพื่อเอาตัวรอด
ไปวันๆ อย่างนี้อีกทำไมให้เปลืองตัวมากขึ้น??
พล.อ.สุรยุทธ์ บอกว่า....
กรณีที่มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาล
เกียร์ว่าง การที่เป็นรัฐบาลก็ไม่ได้แปลว่าจะทำอะไรได้
ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเสนอกฎหมายเข้า
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็ทำได้ลำบาก
หรือเรื่องที่ให้จัดการกับ “อำนาจเก่า” ก็เป็น
เรื่องที่ยาก เพราะมีแต่ข้าราชการที่ไม่ว่าใครมาเป็น
รัฐบาลเขาต้องทำงานให้!!
ดังนั้น แต่ละเรื่องไม่ได้ทำได้ง่ายๆ แม้กระทั่ง
การสร้าง ความสมานฉันท์ ที่ได้ประกาศไว้ เพราะคนที่
มองว่าเป็นพวกเดียวกัน เช่น กลุ่มพันธมิตร ก็ไม่ได้มองว่า
เราเป็นพวกเดียวกัน ทำให้ทำงานลำบาก!!
“การสร้างความสมานฉันท์นั้น ถ้าใช้วิธีพูดคุยกัน
ได้ก็จะเป็นประโยชน์ และมันไม่มีทางอื่น ซึ่งในช่วงต้น
ที่เข้ามาทำหน้าที่ก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหาความ
ขัดแย้งแล้ว
ที่จะเป็นตัวกลางประสานกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ที่โทรศัพท์มาหา จากนั้นก็นำคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ไปบอกกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน แต่ต่างฝ่ายก็ต่างมี
ทิฐิต่อกัน ทำให้ยังมีปัญหา”
สรุปว่า...เป็นนายกรัฐมนตรีมาปีกว่า พล.อ.สุรยุทธ์
ก็ทำได้แค่เป็น “บุรุษไปรษณีย์” และมาถึงตอนนี้
กำลังจะเผ่นกลับไปเป็น “ฤๅษีอยู่บนเขายายเที่ยง”!!
คมช. โปรดอ่านข้อความนี้อีกครั้ง!!
สองคม
ผลัดกันเขียน เวียนกันคิด - ผลัดกันเขียน เวียนกันคิด
หรือหมอผีใจบาปในเวลาไม่ช้านี้
1 ปีเศษที่คนไทยต้องมีชีวิตอยู่บนเรือที่ปราศจาก
หางเสือ ปราศจากกัปตันที่ขับเรือเป็น และปราศจาก
เสบียงอาหารที่จะยังชีพในทะเลลึกซึ่งเต็มไปด้วยมรสุม
ความผิดถูกของประเทศนี้ มีคำตอบชัดเจนว่า...
มาจากอะไร??
จนบัดนี้ เหตุผลที่คณะปฏิรูปฯ ซึ่งมี พล.อ.สนธิ
บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าทั้ง 4 ข้อ ก็ยังไม่มีความ
ชัดเจนในทางอรรถคดีแม้แต่ข้อเดียว
ยังคงเป็นเพียงข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย เพียงเพื่อจะ
ปฏิวัติยึดอำนาจ เท่านั้น!!
รัฐบาลและ คมช. ที่มีอำนาจเด็ดขาด เป็นรัฐบาล
เผด็จการที่มีทั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ตั้งขึ้นเองกับมือ
คอยเป็น “โรงงานผลิตกฎหมาย” ทุกมาตราที่ต้องการให้
มีองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเองแต่มีอำนาจล้นฟ้าอย่าง
คตส. และองค์กรอื่นที่จะทำให้แผนสร้าง “บันได 4 ขั้น”
ของคนทำปฏิวัติเพื่อทำลายล้างอีกฝ่ายให้สูญพันธุ์
คมช. เป็นคณะบุคคลที่สามารถตั้งสภาร่าง
รัฐธรรมนูญขึ้นมาเองได้ ตั้งคณะกรรมการร่าง
กฎหมายเลือกตั้ง-กฎหมายพรรคการเมืองเองได้
นี่คือความได้เปรียบมากมายมหาศาลต่อคนที่เป็น
ศัตรูอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มนักการเมือง
จากพรรคไทยรักไทยเดิม!!
แล้วทำไม?? ศัตรูถาวรของพวกเขาจึงกลับมา
มีอำนาจอีก ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอีก??
เพราะประชาชนไม่เห็นด้วยกับ คมช. และ
คณะปฏิวัติ 19 กันยา ใช่หรือไม่??
มาฟัง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พูดแล้วช่วยกัน
คิดว่า พระฤๅษีแห่งเขายายเที่ยงพูดเพื่อเอาตัวรอด
ไปวันๆ อย่างนี้อีกทำไมให้เปลืองตัวมากขึ้น??
พล.อ.สุรยุทธ์ บอกว่า....
กรณีที่มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาล
เกียร์ว่าง การที่เป็นรัฐบาลก็ไม่ได้แปลว่าจะทำอะไรได้
ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเสนอกฎหมายเข้า
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็ทำได้ลำบาก
หรือเรื่องที่ให้จัดการกับ “อำนาจเก่า” ก็เป็น
เรื่องที่ยาก เพราะมีแต่ข้าราชการที่ไม่ว่าใครมาเป็น
รัฐบาลเขาต้องทำงานให้!!
ดังนั้น แต่ละเรื่องไม่ได้ทำได้ง่ายๆ แม้กระทั่ง
การสร้าง ความสมานฉันท์ ที่ได้ประกาศไว้ เพราะคนที่
มองว่าเป็นพวกเดียวกัน เช่น กลุ่มพันธมิตร ก็ไม่ได้มองว่า
เราเป็นพวกเดียวกัน ทำให้ทำงานลำบาก!!
“การสร้างความสมานฉันท์นั้น ถ้าใช้วิธีพูดคุยกัน
ได้ก็จะเป็นประโยชน์ และมันไม่มีทางอื่น ซึ่งในช่วงต้น
ที่เข้ามาทำหน้าที่ก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหาความ
ขัดแย้งแล้ว
ที่จะเป็นตัวกลางประสานกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ที่โทรศัพท์มาหา จากนั้นก็นำคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ไปบอกกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน แต่ต่างฝ่ายก็ต่างมี
ทิฐิต่อกัน ทำให้ยังมีปัญหา”
สรุปว่า...เป็นนายกรัฐมนตรีมาปีกว่า พล.อ.สุรยุทธ์
ก็ทำได้แค่เป็น “บุรุษไปรษณีย์” และมาถึงตอนนี้
กำลังจะเผ่นกลับไปเป็น “ฤๅษีอยู่บนเขายายเที่ยง”!!
คมช. โปรดอ่านข้อความนี้อีกครั้ง!!
สองคม
ผลัดกันเขียน เวียนกันคิด - ผลัดกันเขียน เวียนกันคิด