โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
28 สิงหาคม 2552
สัญญาณอันตราย “แดงจลาจล” 30 สิงหาคม !!
เป็นหัวข้อสกู๊ป"ผ่าประเด็นร้อน"ของเวบผู้จัดการASTV กระบอกเสียงโจรผู้ก่อการร้ายพันธมิตร ต่อสถานการณ์การชุมนุมของเสื้อแดงล่าสุดที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคมนี้
กระบอกเสียงโจรก่อการร้ายชี้ธงไว้ว่า
เมื่อประเมินถึงความเป็นไปได้หลายอย่างมันก็ “เข้าเค้า” ทั้งบรรยากาศและข้อจำกัดด้านเวลาที่รุมเร้าเข้ามาก็อาจจูงใจให้คนพวกนี้คิดวางแผนก่อจลาจลขึ้นมาอีกรอบ ซ้ำรอยเหตุการณ์เมื่อช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมาก็เป็นได้
ไทยอีนิวส์ได้ย้อนไปดูสถานการณ์การชุมนุมของเสื้อแดงหลายครั้งที่ผ่านมา และพบว่าเวบกระบอกเสียงโจรก่อการร้ายนั้นมีความ"แม่นยำ"ในทางข่าวอย่างเหลือเชื่อ ราวกับนั่งเขียนอยู่ในวอร์รูมของเผด็จการผู้เข่นฆ่าประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย
แต่แล้วเราก็ต้องเปลี่ยนความนิยมเชื่อถือต่อเวบไซต์กระบอกเสียงผู้ก่อการร้าย เพราะเมื่อตรวจค้นกลับไปดูเหตุการณ์ทีละช็อตๆแล้วก็กลับพบว่า หลังมีเสียงเตือนอันตรายต่างๆ ก็ปรากฎวากลุ่มโจรก่อการร้ายนี่เองเป็นผู้จุดชนวนเลือดความรุนแรงในแต่ละเหตุการณ์ แล้วร่วมกันป้ายร้ายโยนความผิดใส่เสื้อแดง ดังจะเรียงให้ดูดังต่อไปนี้
1.เหตุการณ์โจรพันธมิตรยิงและฆ่าณรงค์ศักดิ์ กรอบไธสง,2 กันยายน 2551
ความเท็จ-กระบอกเสียงผู้ก่อการร้ายนำเสนอข่าวล่วงหน้าว่าพวก"แดงถ่อย"จะยกกำลังมาโจมตีพันธมิตรที่ชุมนุมยึดทำเนียบรัฐบาลในขณะนั้น
ความจริง-เสื้อแดงเดินขบวนจากสนามหลวงมุ่งหน้าทำเนียบฯเพื่อกดดันให้พันธมิตรยกเลิกยึดทำเนียบฯ ปรากฎว่าการ์ดของพันธมิตรออกไปตั้งรับที่บริเวณสะพานมัฆวาฬแล้วเปิดฉากยิงปืนใส่ และใช้อาวุธไม้กอล์ฟ เป็นต้น กลุ้มรุมทำร้ายพวกเสื้อแดงที่อยู่แนวหน้าและไร้อาวุธอย่างป่าเถื่อนและบาดเจ็บหลายราย มีเสียชีวิต 1 รายคือวีรชนณรงค์ศักดิ์ กรอบไธสง
ผลของเหตุการณ์-รัฐบาลนายสมัครประกาศพรก.ฉุกเฉิน แต่ทหารตำรวจเพิกเฉยไม่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ นักวิชาการเอ็นจีโอออกแถลงการณ์ให้ยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน เรียกร้องนายสมัครลาออกจากนายกฯรัฐมนตรี ประณามว่าเสื้อแดงก่อความรุนแรงต่อพันธมิตรที่ชุมนุมโดยสงบ นายอภิสิทธิ์หัวหน้าฝ่ายค้านขณะนั้นไปเยี่ยมให้กำลังใจพันธมิตร และคัดค้านพรก.ฉุกเฉิน...
2.ทนายพธม.+ไอ้ก๊องหัวหมู่ของลิ้ม+มือที่สามสงกรานต์เลือด,13 เมษายน 2552
ความเท็จ-กระบอกเสียงผู้ก่อการร้าย และสื่อกระแสหลักโหมกระพือว่าเสื้อแดงก่อการจลาจลเผาบ้านเผาเมือง เอารถแก๊สจะไปถล่มแฟลตดินแดง บุกเผามัสยิดย่านถนนเพชรบุรี จึงต้องปราบปรามอย่างเด็ดขาดตามพรก.ฉุกเฉิน
ความจริงข้อแรก-มีการพิสูจน์ภายหลังว่ารถแก๊สที่นำไปจอดที่แฟลตดินแดงนั้นต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวพันกับกลุ่มเนวินสร้างสถานการณ์ ส่วนการที่ชายคนหนึ่งแต่งกายสะพายกล้องแบบนักข่าวจิกผมผู้หญิงเสื้อแดงลากไปกับพื้น นายคนนี้เปิดเผยว่าเขาชื่อกวีไกร โชคพัฒนะเกษมสุข เป็นการ์ดพันธมิตรมีบทบาททั้งการยึดทำเนียบและยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และเคยก่อเหตุยิงใส่คนเสื้อแดงที่ไปชุมนุมกันที่สนามกีฬาแห่งชาติมาแล้ว และประกาศมีแผนจะบอมบ์สังหารทักษิณ และจะฆ่าพวกเสื้อแดงหากมีโอกาส
ความจริงข้อที่สอง- ภายหลังเหตุการณ์สงกรานต์เลือด แกนนำนปช.ได้นำภาพวีดิโอที่ระบุว่า เป็นภาพบันทึกเหตุการณ์การปะทะของกลุ่มชาวบ้านกับกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณปากซอย ถ.เพชรบุรี ซอย 5 และซอย 7 มา แถลงยืนยันว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เป็นเพราะมี นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความพันธมิตร(2รูปบน) และนายชนะ ผาสุกสกุล ผู้ประสานงานพันธมิตร(ภาพล่าง ซึ่งนายสนธิมักใช้เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันงานบู๊ต่างๆมาโดยตลอด ได้เข้ามาแทรกแซงสร้างสถานการณ์อยู่ด้วย ซึ่งภาพวีดิโอที่แสดงได้ปรากฎ เป็นภาพขณะที่กลุ่มชาวบ้านย่านดังกล่าวชุมนุมอยู่บนถนนเพชรบุรี หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์เป็นจำนวนมาก โดยมีนายนิติธร และนายชนะ ยืนพูดคุยกับกลุ่มประชาชนอย่างสนิทสนม
นายสมยศ กล่าวว่า จากการที่ นปช.ได้ รวบรวมภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดเจนว่า มีกระบวนการแทรกแซง ปล่อยข่าวสร้างสถานการณ์เพื่อเป็นเงื่อนไขให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงเข้าปราบ ปรามผู้ชุมนุม ดังที่ปรากฎภาพนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความของกลุ่มพันธมิตร และนายชนะ ผาสุกสกุล ผู้ประสานงานของกลุ่มพันธมิตร อยู่ในบริเวณดังกล่าว ก่อนที่จะมีการใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 13 เม.ย.
ผลของเหตุการณ์-มีการให้ร้ายป้ายสีเสื้อแดงก่อเหตุจลาจลเผาบ้านเผาเมืองจึงต้อมปราบปรามด้วยพรก.ฉุกเฉิน และทำให้ฝ่ายเสื้อแดงพ่ายแพ้ในสมรภูมิข่าวสารที่ฝ่ายรัฐบาลและอำมาตย์วางแผนอย่างแนบเนียน
3.เหตุการณ์วันเสื้อแดงชุมนุมถวายฎีกา-สมุนโจรปลอมเป็นเสื้อสีน้ำเงินก่อเหตุลอบกัดเสื้อแดง,17 สิงหาคม 2552
ความเท็จ-สนธิ ลิ้มและกระบอกเสียงผู้ก่อการร้ายเตือนว่า จะเกิดเหตุร้ายเผชิญหน้ากันระหว่างม็อบเสื้อแดงที่มาชุมนุมกันที่สนามหลวง กับม็อบเสื้อสีน้ำเงินที่มาสนับสนุนนายเนวิน ชิดชอบที่มาฟังคดีกล้ายางในวันที่ 17 ส.ค. เมื่อปะทะกันจะเป็นเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหาร
ความจริง-นาย Nick Nostitz ผู้สื่อข่าวต่างประเทศรายงานว่าไม่มีการปะทะหรือเผชิญหน้าใดๆของเสื้อแดงกับเสื้อน้ำเงิน แต่เมื่อเขาผ่านมาทางสำนักงานASTVที่ถนนพระอาทิตย์ ได้มีการ์ดพันธมิตรประมาณ 20-30 คน ตะโกนใส่แท็กซี่ รถตู้และรถบัสที่มีคนเสื้อแดงขับผ่าน การ์ดพันธมิตรบางคนยิงหนังสติ๊กใส่รถยนต์ และปาก้อนหิน ในตอนแรกพวกเขาต้องการNickไป โดยNickเล่าว่า "แต่หลังจากที่ยืนยันว่าผมจะอยู่และถ่ายภาพ เราก็เริ่มต้นเจรจา-ผมสามารถถ่ายภาพได้แต่ต้องไม่เห็นหน้าพวกเขา อย่างน้อยที่สุด ขณะที่ผมอยู่ตรงนั้น การ์ดปล่อยให้รถตุ๊กตุ๊กและจักรยานยนต์ที่บรรทุกคนเสื้อแดงผ่านไปได้ และยิงเพียงแค่รถยนต์และรถบัส หนึ่งในการ์ดบอกกับผมว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการทำร้ายร่างกายใคร เพียงแค่ต้องการทำให้กลัวเท่านั้น"
ไม่นานหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงโดยรถยนต์หนึ่งคันและมอเตอร์ไซค์อีกหลายคัน บรรดาการ์ดก็กลับเข้าไปในออฟฟิศเอเอสทีวีและเหตุการณ์ก็สงบลง
เป็นที่น่าสังเกตว่าการ์ดพันธมิตรไม่ได่ใส่เสื้อเหลือง แต่ใส่เสื้อสีน้ำเงินเหมือนกับว่าจะให้เป็นไปตามที่นายของพวกเขาต้องการ คือเหตุการณ์เสื้อแดงปะทะเสื้อน้ำเงิน นำไปสู่การก่อการัฐบประหาร
ผลของเหตุการณ์-เนื่องจากนายเนวินไม่ได้จัดตั้งเสื้อสีน้ำเงินเข้ามามากอย่างที่สนธิลิ้มคาด ทำให้ไม่สามารถขยายผลอะไรได้
4.เหตุการณ์ชุมนุมใหญ่ไล่รัฐบาล 30 สิงหาคม
ความเท็จ-กระบอกเสียงโจรก่อการร้ายได้ออกมาปั่นกระแสอีกครั้งว่า
สัญญาณอันตราย “แดงจลาจล” 30 สิงหาคม !!
พร้อมทั้งชี้นำไปด้วยว่า
เมื่อประเมินถึงความเป็นไปได้หลายอย่างมันก็ “เข้าเค้า” ทั้งบรรยากาศและข้อจำกัดด้านเวลาที่รุมเร้าเข้ามาก็อาจจูงใจให้คนพวกพวกนี้คิดวางแผนก่อจลาจลขึ้นมาอีกรอบ ซ้ำรอยเหตุการณ์เมื่อช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมาก็เป็นได้
ความจริงและผลของเหตุการณ์นี้ -จับตามองว่า พวกมันกำลังก่อการร้าย เป็นมือที่สามเสี้ยมสถานการร์แล้วลอยนวล โยนบาปโยนขี้อะไรให้เสื้อแดงอีก.....?