สมมุติประเทศไทยเป็น สนามเด็กเล่น เวลานี้คงเห็นว่าฝุ่นตลบอบอวลไปหมด มองไม่เห็นหน้าว่าใครเป็นใคร ได้ยินเสียงขู่ เดี๋ยวยุบสภา เดี๋ยวปฏิวัติเงียบ ก็อย่างที่ตั้งข้อสังเกตไปบ้างแล้ว ปัจจัยสำคัญในการชิงอำนาจทางการเมืองยกต่อไปก็คือ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 การโยกย้ายข้าราชการ ทหารตำรวจและกระสุนดินดำ
คาดว่าจะได้ดูหนังบู๊เรื่องยาว
ตั้งโจทย์ว่า การเมืองเวลานี้แยกเป็นสามเส้าสี่เส้า ประชาธิปัตย์ ฝ่ายค้าน เสื้อน้ำเงิน เสื้อแดง และเสื้อเหลือง บนความจริงที่ว่า รัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กำลังเจอศึกหลายด้าน สีแดงบวกสีน้ำเงิน มีทางเลือกพันธมิตรการเมืองเหลืออยู่สีเดียวคือสีเหลือง
เลยต้องเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ
ในมิติทางการเมืองเวลานี้ ทุกเรื่องทุกราวที่เป็นวิกฤติเป็นปัญหา นายกฯอภิสิทธิ์น่าจะตัดสินใจเลือกเดินทางเดียวกับพันธมิตรทางการเมือง ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็น ปลาน้ำเดียวกัน เป็นบุญเป็นคุณผูกพันที่ต้องทดแทน กรณีแก้รัฐธรรมนูญ กรณีนโยบายหวยบนดิน และกรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร. จึงย่อมจะมีความคิดเห็นที่สอดคล้องต้องกันมาโดยตลอด
ผมไม่รู้ว่าคดีความที่เกี่ยวพันกับพันธมิตร คืบหน้าไปแค่ไหนอย่างไร สำคัญก็คือ รัฐบาลเอาใจใส่เหมือนกับที่เอาใจใส่
คดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพลพรรคเสื้อแดงทุกลมหายใจเข้าออกหรือไม่
แต่ภาพที่เห็นเมื่อวันก่อนรู้สึกตกใจนิดๆ มีภาพ นายกฯ อภิสิทธิ์ คุณกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ คุณกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์ฯ คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ไปร่วมเปิดงานและแสดง ความยินดีกับทีวี 24 ชั่วโมงภาคภาษาอังกฤษของพันธมิตรกันอย่างโจ๋งครึ่ม นั่งคุยอย่างสนิทสนม เป็นกันเอง
อีกภาพหนึ่งคนเหล่านี้ อยู่ในฐานะผู้ต้องหาเช่นกัน ใน แง่มุมมองย่อมตอกย้ำความรู้สึกของคนที่ถูกรัฐบาลมองว่าเป็นศัตรู อยู่กันคนละขั้ว ให้อารมณ์เตลิดเปิดเปิง
หมดศรัทธา
เคยจำได้ว่าครั้งหนึ่งสมัยรัฐบาลทักษิณ วิกฤติการเมืองน้ำผึ้งหยดเดียว ก็เกิดจากรายการช่องทีวีทำนองนี้แหละ ปัจจุบัน ช่อง 9 ช่อง 11 มีช่องทีวีดาวเทียมเปิดสำรองไว้ช่อง 2 ช่อง จะใช้ประโยชน์กันอย่างไรไม่ค่อยมีใครสนใจตรวจสอบ
ยังมีข่าวอีกว่าช่อง 11 กำลังจะเปิดสำนักข่าวแห่งชาติ เป็น ทีวีออนอินเตอร์เน็ต มีทั้งช่องภาษาไทยและภาษาอังกฤษเหมือนกัน จะรองรับเกี่ยวโยงอะไรกันก็เป็นอีกเรื่อง
บนความยุติธรรมที่เสื่อมโทรม อะไรๆ ก็ดูอึมครึมไปหมด.
หมัดเหล็ก