บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

มาร์คต้องพิสูจน์ คลิปเสียงฉาว

ที่มา บางกอกทูเดย์

คลิปนี้ท่านได้ แต่ใดมาจอมขมังเวทมนตรา จัดให้ทำชอบสิ่งใดนา วานบอกเราขัดใจท่านไซร้ ท่านให้รางวัลถึงวันนี้เรื่องของคลิปฉาวเสียง นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้เป็นแค่เพียงทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ไปทั่วบ้านทั่วเมือง และแม้กระทั่งต่างประเทศ โดยเฉพาะคนไทยในต่างแดนเท่านั้นแต่ยังเป็นข้อถกเถียงบนพื้นฐานของการต้องรู้ความจริงด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นและเกิดขึ้นได้อย่างไรแน่นอนว่า วันนี้ทั้งนายกฯ อภิสิทธิ์ และบรรดาผู้เกี่ยวข้องบรรดาผู้มีหน้าที่ในรัฐบาลชุดนี้ รวมไปถึงกระทั่งบรรดาเจ้าพนักงานตำรวจ เจ้าพนักงานกระทรวงไอซีที ซึ่งต้องตรวจสอบ สอบสวนตามหน้าที่หรือแม้แต่กระทั่งหมอชันสูตรศพ อย่าง พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม ก็ยังต้องออกมาร่วมแจมชันสูตรเสียงพร้อมกับยืนยันว่าตัดต่อชัวร์ 100%พบพิรุธมากถึง 62 จุดแน่นอนว่า บางกอกทูเดย์เองก็เชื่อมั่นในคำยืนยันของนายกฯ อภิสิทธิ์ตลอดจนบรรดาคนอื่นๆ ที่ออกมาร่วมด้วยช่วยกันยืนยันทั้งหลายว่า นายกฯ อภิสิทธิ์ ไม่ได้พูดแบบที่ปรากฏในคลิปเสียงอย่างแน่นอนปัญหามีอยู่แค่เพียงว่า บังเอิญเสียงนั้นเป็นเสียงของนายกฯ อภิสิทธิ์ จริงๆ ซึ่งนายกฯ อภิสิทธิ์ ก็ยอมรับว่าเป็นเสียงของตนเองจริงๆ แต่คำพูดทั้งหมดนั้นไม่ใช่เป็นการตัดต่อร้อยเรียงใหม่ เพื่อให้ได้ตามวัตถุประสงค์ของผู้กระทำซึ่งในกลุ่มผู้ที่มีความรู้ในเรื่องวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ผู้ที่อยู่ในแวดวง Sound Engineer หรือผู้ที่หลงใหลในโลกไซเบอร์ปัจจุบันอาจจะเข้าใจและยอมรับได้ถึงเรื่องการตัดต่อเปลี่ยนแปลงคำพูด

ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อถือ เช่นเดียวกับที่บางกอกทูเดย์เชื่อถือว่า แม้เป็นเสียงของนายกฯ อภิสิทธิ์ แต่นายกฯ อภิสิทธิ์ไม่ได้พูดตามคลิปฉาวเป๊ะๆ อย่างนั้นแน่นี่คือความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในกลุ่มของผู้ที่เข้าใจเทคโนโลยีในเรื่องเสียงแต่คนไทยทั้งประเทศรวมทั้งแม้แต่คนไทยในต่างแดนไม่ได้เป็น Sound Engineer หรือไม่ได้เข้าใจในเรื่องเทคนิคเหล่านี้ไปทั้งหมดทำให้ในวันนี้ยังคงมีการเมาธ์กันไม่เลิก ยังคงมีการพูดกันไม่จบแถมทำให้สังคมแตกแยกทางความคิดกันมากขึ้น สุดแท้แต่ว่าจะนิยมฝ่ายไหนซึ่งนี่คือปัญหาของประเทศและเมื่อในเวลานี้ นายกฯ อภิสิทธิ์ ดูแลบริหารประเทศรับผิดชอบในเรื่องชื่อเสียงของประเทศ ตลอดจนภาพลักษณ์ของประเทศในการเป็นประเทศในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะปล่อยให้เกิดความสงสัยใดๆ ไม่ได้เลยว่า นายกฯอภิสิทธิ์ เป็นพวกที่นิยมความรุนแรงเพราะในความเป็นจริง รู้ และเชื่อกันอยู่ว่า ไม่ได้นิยมความรุนแรงดังนั้น วันนี้จำเป็นที่จะต้องบอกว่า นายกฯ อภิสิทธิ์ ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องยืนยัน พิสูจน์ และสร้างความกระจ่างให้กับประชาชนคนไทยทุกคนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อเขียวหรือแม้แต่กระทั่งเสื้อน้ำเงิน เสื้อขาว อะไรก็ตามแต่ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีความรู้เป็นอย่างดีในเรื่อง Sound Engineerหรือตามี ยายมา เด็กจุก เด็กเปียทุกคนจะต้องกระจ่างว่า เห็นหรือไม่ เสียงนายกฯ อภิสิทธิ์โดนตัดต่อจริงๆการพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ สำคัญเสียยิ่งกว่าการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง เสียด้วยซ้ำเพราะการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็เพียงแค่การใช้อำนาจตามกฎหมายที่มีสยบไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวแต่ไม่ได้หมายความว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะต้องเห็นด้วยหรือจะต้องยอมรับกับการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงดังกล่าวในขณะที่เรื่องของคลิปฉาวกับคำพูดที่นิยมหรือฝักใฝ่ความรุนแรงนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่จะใช้แค่อำนาจกฎหมายมากดดันให้ยุตินั้นไม่เพียงพอจุดสำคัญ คือ จะต้องให้ประชาชนคนไทยทุกคนเป็นพวกพ้องและยอมรับโดยสนิทใจว่าเป็นการตัดต่อเสียงตราบใดก็ตามที่ไม่มีการพิสูจน์ให้เห็นชัด ให้กระจ่างกับ

คนทุกระดับทุกกลุ่ม เรื่องนี้ยากที่จะหยุดการเมาธ์หรือการเข้าใจผิดได้แน่ดังนั้น ขณะนี้นายกฯ อภิสิทธิ์ จะต้องเร่งดำเนินการพิสูจน์ซึ่งสิ่งที่สามารถทำได้ไม่ยากก็คือ ลงมือทำให้เห็นกันชัดๆทั่วประเทศไปเลยด้วยการเอาเสียงจริง ประโยคจริง ที่นายกฯ อภิสิทธิ์และบรรดาคนใกล้ชิดที่ระบุอยู่แล้วว่า เป็นการเอามาจากต้นฉบับเสียงการออกอากาศรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2552หรือที่บอกว่ามีที่มา 3 ที่ คือ รายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯช่วงวันที่ 19 เม.ย. ช่วงวันที่ 26 เม.ย. และเว็บไซต์นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการตัดต่อคลิปเสียงที่ไปพูดในรายการต่างๆฉะนั้น ย่อมจะต้องมีต้นฉบับตัวจริงอยู่แล้วจึงควรนำมาประกบกันคำต่อคำ ประโยคต่อประโยคให้ประชาชนได้เห็นกันอย่างชัดแจ้งแดงแจ๋ไปเลยว่าคำพูดจริงคืออะไร...คำพูดที่ถูกตัดต่อคืออะไรยกตัวอย่าง เช่น กรณีเอาเสียงนายกฯ อภิสิทธิ์ มาตัดต่อเป็นประโยคว่า ผมจะได้ชำระสะสางในเรื่องเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ผู้ชุมนุมจะต้องได้รับบทเรียนก็เอามาให้เปรียบเทียบให้เห็นกันเลยว่าประโยคที่ว่า “ผมจะได้ชำระสะสางในเรื่องเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น” จริงแล้วอาจจะเป็นการพูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯว่าจะเข้ามาดูแลปัญหาขยะล้น กทม. บ้านเมืองไม่เรียบร้อยรุงรังจำเป็นที่จะต้องกำจัดขยะเรียกว่า ดึงออกมาเลยว่าประโยคนี้ความหมายที่แท้จริงหรือเรื่องที่พูดถึงเป็นแบบนี้ เพื่อที่คนจะได้เข้าใจกันชัดๆหรือประโยคที่ว่า “ผู้ชุมนุมจะต้องได้รับบทเรียน” ซึ่งจริงๆแล้วประโยคที่แท้จริงอาจจะไม่ได้หมายถึงกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเลยก็ได้ อาจจะหมายถึงการชุมนุมของกลุ่มสมัชชาคุณธรรมกลุ่มประชาชนที่มาบำเพ็ญประโยชน์ส่วนเรื่องบทเรียนที่จะได้รับ ก็อาจจะเป็นบทเรียนในเรื่องการทำดีแล้วต้องได้รับผลดีหรือแม้แต่กระทั่งว่า บทเรียนที่ว่าเป็นบทเรียน ก.ไก่ ก.กาอะไรก็ตามที่นายกฯ อภิสิทธิ์ พูดในวันนั้นประชาชนจะได้ชัดเจน อ๋อ! ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เองที่แท้นายกฯ อภิสิทธิ์ พูดในเรื่องนี้ ในประเด็นนี้นี่เองหากมีการพิสูจน์กันจะจะ เจ๋งๆ ให้ได้เห็นเลยอย่างที่ว่าประโยคไหนถูกดึงมาจากตรงไหน แน่นอนว่ากรณีนี้จะชัดเจนและกระจ่างชัดที่สุด

เพราะในทางเทคนิคปัจจุบันสามารถทำได้ และทำได้ตรงทั้งไลน์หรือเส้นเสียงของเสียงคนพูด คือ นายกฯ อภิสิทธิ์และไลน์ของแบ็กกราวด์เสียงรอบข้างที่เกิดขึ้นในขณะนั้นแม้บางเสียงที่เป็นแบ็กกราวด์อาจจะไม่ใช่เสียงที่หูของมนุษย์ปกติจะได้ยิน แต่เครื่องแยกเสียงที่ทันสมัยในปัจจุบันสามารถที่จะเร่งเสียงขึ้นมาให้หูของมนุษย์รับฟังได้ถ้าประโยคตรงกัน ถ้าแบ็กกราวด์เสียงตรงกัน จะเป็นข้อพิสูจน์ชัดเจนอย่างที่สุดเลยว่า นี่เป็นการตัดต่อเอาประโยคของนายกฯ อภิสิทธิ์ มาใช้จริงๆจะหมดข้อถกเถียง จะไร้สิ้นซึ่งข้อครหาใดๆ ทั้งปวงเรื่องจะได้จบพร้อมกับความสง่างามของนายกฯ อภิสิทธิ์ เองเพราะตลอดมานายกฯ อภิสิทธิ์ แม้จะยอมรับว่าเป็นเสียงของตนเองจริง แต่มีการตัดต่อ เพราะช่วงระดับเสียงไม่เท่ากัน และไม่เคยพูดในลักษณะเช่นนั้นรวมทั้งยืนยันว่า นโยบายแก้ไขปัญหาการชุมนุมอยู่บนพื้นฐานหลักกฎหมายในการเคารพสิทธิเสรีภาพอย่างชัดเจนไม่เคยต้องการเห็นการใช้ความรุนแรงหรือการทำร้ายกัน“ผมพร้อมให้พิสูจน์เรื่องนี้ คนที่ทำมีเจตนาทำร้ายบ้านเมืองชัดเจน ต้องการยั่วยุให้บ้านเมืองเกิดความรุนแรง หรือจะเป็นการช่วยเหลือคดีบุคคลที่ผมฟ้องร้องอยู่ก็ดีก็อยากเตือนอีกครั้งว่ามันผิดกฎหมาย จึงอยากเตือนหลายคนที่ไม่เจตนาแต่ส่งคลิปนี้ต่อไปให้คนอื่น อาจจะมีความผิดทางกฎหมายด้วย” นั่นคือคำกล่าวของนายกฯอภิสิทธิ์ ซึ่งสมาร์ทอยู่แล้วฉะนั้น จึงน่าที่จะต้องเร่งพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ให้ชัดเจนกระจ่าง และเป็นที่ยอมรับขืนปล่อยให้คลุมเครือแบบนี้ จะมากจะน้อยถ้ายังมีคนไม่เชื่อก็จะกระทบกับภาพลักษณ์ของนายกฯ อภิสิทธิ์ อยู่นั่นเองเวลานี้จึงไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากพิสูจน์ความจริงให้ประจักษ์ว่าคลิปฉาวที่แสบสันต์นี้...เท็จหรือจริง???รวมทั้งอย่าลืมที่จะไตร่ตรองทบทวนด้วยว่า ที่สังคมมองกัน2 ด้านว่า เป็นฝีมือใคร ระหว่าง “ฝ่ายตรงข้าม” กับ“คนใกล้ตัว” นั้นนายกฯ อภิสิทธิ์ ก็ควรต้องกระจ่างด้วยเช่นกัน ■

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker