บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2551

สมชัย ขู่ฟ้องวีระ กล่าวหาทำสำนวนรั่ว

สำนักงาน กกต. 16 ม.ค.- “สมชัย จึงประเสริฐ” ขู่ฟ้อง “วีระ สมความคิด” กล่าวหาปล่อยข่าวสำนวนทุจริตเชียงรายรั่ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารศรีจุลทรัพย์ วันนี้ (16 ม.ค.) นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวว่า ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยที่ตนดูแลอยู่ไปรวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับกรณีที่นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวหาว่า ตนทำสำนวนการทุจริตของ จ.เชียงราย รั่วไปถึงนายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าที่ ส.ส. สัดส่วนพรรคพลังปะชาชน รวมทั้งยังได้มีการนำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ไปประสานขอเอกสารจาก ป.ป.ช. หากได้มาก็จะดำเนินการฟ้องร้องนายวีระ ที่ทำให้ตนเกิดความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง

ทั้งนี้ นายสมชัย ยังได้นำเอกสารมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยในเอกสารระบุว่า ข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการพิจารณาวินิจฉัย และการเก็บรักษาสำนวน กอปรกับมีกลุ่มคนบางกลุ่มจงใจเสนอข่าวให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดว่าตนเองไม่คืนสำนวนให้ตำรวจสันติบาลที่ทำหน้าที่สอบสวนเรื่องนี้ และทำให้สำนวนรั่วไหลออกไป จึงขอชี้แจงว่าคณะกรรมการสืบสวนคือบุคคลที่ กกต.อาศัยอำนาจตามกฎหมายแต่งตั้งขึ้น เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใด หรือบุคคลใดก็ตามที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่ของ กกต. และมีหน้าที่รายงานผลการสืบสวนให้เลขาธิการ กกต.ทราบโดยตรง ดังนั้นสำนวนการสืบสวนสอบสวนจึงเป็นเอกสารของสำนักงาน กกต. เพื่อเก็บรักษาไว้ใช้ประโยชน์ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หรือคดีที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งเก็บรักษาความลับในสำนวนไว้อย่างเป็นระบบ

และเมื่อคณะกรรมการสืบสวนทำรายงานเพื่อสรุปข้อเท็จจริงหรือเหตุผลเสนอต่อ กกต. ในทางปฏิบัติสำนักงานจะจัดทำสำเนาและความเห็นส่งให้กับ กกต.แต่ละคน เพื่อวินิจฉัยและลงมติในที่ประชุม ดังนั้นรายงานการสืบสวนในส่วนที่สำเนาให้กับ กกต.จะไม่มีการเรียกคืน เพราะเป็นอำนาจโดยเด็ดขาดของ กกต.ในการถือครองสำนวน ประกอบกับเพื่อให้ กกต.เก็บสำนวนไว้ตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนจัดทำคำวินิจฉัยเป็นไปตามมติของ กกต.หรือไม่ ก่อนที่ กกต.แต่ละท่านจะลงนามในคำวินิจฉัยต่อไปได้ และเมื่อ กกต.วินิจฉัยเสร็จแล้วทางสำนักงานก็จัดเก็บสำนวนทุกสำนวน และลงสารบบไว้ หากหน่วยงานใดต้องการสำนวนไปดำเนินการต่อ เช่น การดำเนินคดี ก็ต้องทำเรื่องขอเบิกสำนวนไว้เป็นหลักฐาน เพื่อไม่ให้มีการแก้ไขหรือเปลี่ยนสำนวนในภายหลังได้

นอกจากนี้เอกสารดังกล่าวยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วยังไม่พบว่า สำนวนดังกล่าวหรือสำนวนอื่นถูกเปิดเผย แต่เป็นเพียงการกล่าวหา โดยปราศจากหลักฐาน หรือไม่อยู่บนมูลแห่งความจริงโดยสิ้นเชิง และไม่ทราบว่าผู้กล่าวหามีวัตถุประสงค์ใด อย่างไรก็ตาม กฎหมายก็กำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์ที่จะทราบเหตุแห่งการร้องคัดค้าน ดังนั้นการที่ผู้ถูกกล่าวหารับทราบ ก็เป็นเรื่องปกติที่ชอบด้วยกฎหมาย

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนไม่ทราบ และไม่ได้เป็นมติของ กกต. เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของนายสมชัย ต้องไปถามเอง แต่หากเรื่องดังกล่าวเป็นมติของ กกต.ก็ต้องสั่งทางสำนักงานไปดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-01-16 19:57:19

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker