ตั้งแต่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชั่วคราวมาปีกว่าๆ ผมชอบใจการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.สุรยุทธ์กับบรรดาผู้สื่อข่าวสายทำเนียบรัฐบาลที่บ้านพักเขายายเที่ยง ฟังแล้วทำให้รู้จักตัวตนของ พล.อ.สุรยุทธ์มากขึ้น
ผมเข้าใจว่าเนื้อแท้ของ พล.อ.สุรยุทธ์ ค่อนข้างที่จะรู้จักและเข้าใจการเมืองพอสมควร เพราะฉะนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจมาตั้งแต่ต้น หากมารับหน้าที่สำคัญดังกล่าวว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
อาการ ใส่เกียร์ว่างจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะการเข้ามาเป็นเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำรัฐบาล หนีไม่พ้นจากสภาวะกดดันทางการเมือง กลไกที่เป็นข้าราชการการเมืองและข้าราชการทั่วไป ไม่ธรรมดา
มีผลประโยชน์และข้อต่อรองอยู่ทุกขั้นตอน
“การที่เป็นรัฐบาลก็ไม่ได้แปลว่าจะทำอะไรได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเสนอกฎหมายเข้าสนช. ก็ทำได้ลำบาก หรือเรื่องที่ให้ จัดการกับอำนาจเก่า ก็เป็นเรื่องที่ยากเพราะมีแต่ข้าราชการ ที่ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลเขาก็ต้องทำงาน แม้แต่เรื่องของการสร้างความสมานฉันท์ที่ได้ประกาศเอาไว้ เพราะคนที่มองว่าเป็นพวกเดียวกันเช่น กลุ่มพันธมิตร ก็ไม่ได้มองว่าเราเป็นพวกเดียวกัน”
“ในช่วงที่เข้ามาทำหน้าที่ก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหาความ ขัดแย้งแล้วพยายามที่จะเป็นตัวกลางประสานกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่โทรศัพท์มาหา จากนั้นก็นำคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปบอกกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน แต่ต่างฝ่ายต่างก็มีทิฐิต่อกันทำให้มีปัญหา”
ผมว่าประโยคทองข้างบนนี้ ถ้าพิจารณาให้ดี อ่านซ้ำๆซักสองสามรอบ จะได้คำตอบของวิกฤติประเทศทั้งหมด จะได้คำตอบว่าทำไมผมถึงได้ย้ำแล้วย้ำอีกว่า อำนาจพิเศษ อำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ อำนาจจากปลายกระบอกปืนจะต้อง หยุดได้แล้ว
ไม่เช่นนั้นประเทศจะล่มจม
เพราะระหว่างขั้วอำนาจไม่ใช่แค่ลำพัง พลังประชาชนกับประชาธิปัตย์ หรือ กับกลุ่มพันธมิตร กับกองทัพ เหล่านี้น่าจะเป็นแค่หมากบนกระดานซะมากกว่า
แต่เป้าหมายของภารกิจที่แท้จริง อยู่ที่ระหว่างตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กับอำนาจพิเศษ ที่อยู่นอกเหนือของกติกาในระบอบประชาธิปไตย
จึงไม่มีกติกาใดที่จะหยุดยั้งปัญหาวิกฤติชาติที่เกิดขึ้นได้ นอกจากต้นตอของปัญหาจะยอมยุติหันหน้าเข้าหากัน ปรองดองและสมานฉันท์ดังพระราชดำรัสอย่างแท้จริง
เป็นหนทางเดียวที่จะยุติวิกฤติได้อย่างถาวร
คำพูดของ พล.อ.สุรยุทธ์ที่ตอบคำถามถึงความขัดแย้งระหว่างคุณสมัคร สุนทรเวช กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ว่า ก็รู้ๆกันอยู่ว่า พล.อ.เปรม เป็นคนที่ไม่ค่อยจะพูดจะจาอะไรมากมาย แต่ที่มีการนำ พล.อ.เปรม มาเชื่อมโยงกับเรื่องต่างๆ เป็นเรื่องที่ควรระมัดระวัง เพราะในฐานะเป็นประธานองคมนตรีไม่ควรจะถูกนำมาเชื่อมโยงกับเรื่องใดๆ เมื่อเป็นข่าวก็จะถูกนำไปเชื่อมโยงกับสถาบัน มีคำตอบอยู่ในตัวเองแล้ว.
“หมัดเหล็ก”
คอลัมน์ คาบลูกคาบดอก