ชัยชนะ-ดาตอร์ปิโดชูสัญลักษณ์ชัยชนะ หลังจากศาลยกฟ้องกรณีASTVดำเนินคดีบุกรุกก่อความวุ่นวาย แต่ยังถูกขังคุกคดีหมิ่นพระบรมเดาชานุภาพมา1ปีเต็ม โดยศาลห้ามประกันตัวสู้คดี และพิจารณาคดีเป็นการลับ
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
29 กรกฎาคม 2552
เราจะไม่ทอดทิ้งกันเชิญเยี่ยมดาตอร์ปิโดที่คลองเปรมเช้า30ก.ค.นี้ เจ้าตัวขอบริจาคหนังสือวารใหม่ๆเผื่อแผ่นักโทษหญิง แต่ต้องไม่ใช่หนังสือแนวการเมือง
สมัชชาสังคมก้าวหน้า (social move) แจ้งข่าวถึงมิตรสหายผู้รักประชาธิปไตย ขอเรียนเชิญท่านไปเยี่ยมเยียมคุณดา ตอปิโด ที่ฑัณฑสถานหญิง เรือนจำกลางคลองเปรมในวันที่ 30 ก.ค 52 เวลา 9.30 น.โดยแนวคิดคือ "เราไม่ทอดทิ้งกัน"
ท่านสามารถนำของฝาก อาหารแห้ง ของใช้ ดอกไม้ ฯลฯ ติดต่อสอบถามที่คุณอ้นวิทยุแท็กซี่ ontontnong@hotmail.com
เราไม่ทอดทิ้งกัน
-- ทางเดินของชีวิต --
ทางเดินสำหรับชีวิตมีอยู่เพียงสองทางเท่านั้น
นั่นคือต่อสู้เพื่อสัจจธรรมด้วยความกล้าหาญ
หรือยอมแพ้และตายอย่างทาส
เกียรติยศอันรุ่งโรจน์มีไว้สำหรับผู้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพ
และแก่ทาสนั้นหรือ สิ่งที่เขาพึงได้รับก็คือ หลุมศพของคนขลาด!
*กวีโดย มูสา จาลิล แปลโดยจิตร ภูมิศักดิ์อ้างใน "ถึงร้อยดาวพราวพรายกระจายแสง", สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน, หน้า 233-4
นับเป็นเวลา 1 ปีเต็มที่คุณดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือดา ตอร์ปิโด ได้ถูกจับกุมในคดีหมิ่นพระบรมราชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ช่วงเวลาที่ผ่านมาแม้จะมีการขอยื่นประกันตัวเธอหลายต่อหลายครั้ง แต่ศาลก็พิจารณายกคำร้องโดยตลอด ทั้งๆที่ ผู้ต้องหาอื่นในคดีเดียวกลับสามารถขอประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีได้
ขณะที่คุณดาต้องยืนหยัดต่อสู้เพียงลำพังในเรือนจำ เราได้ยินข่าวสารของเธออยู่บ้างจากผู้ที่ไปเยี่ยมเยียนเธอเป็นระยะ เราได้ติดตามอ่านข่าวของคุณดาด้วยความรู้สึกนับถือในหัวใจและจิตวิญญาณแห่งความเป็นเสรีชนของเธอ ไม่ง่ายเลยที่ใครสักคนต้องถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำ จะยังสามารถรักษาความเข้มแข็งและจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเอาไว้ได้ ภายใต้แรงกดดันจากสภาพแวดล้อมเหมือนที่เธอกำลังเผชิญ
ในวันนัดสืบพยานโจทย์คดีของเธอครั้งแรก ในวันที่ 23 มิ.ย. 2552 ศาลได้มีคำสั่งให้พิจารณาคดีดังกล่าวเป็น "การลับ" โดยคำสั่งดังกล่าวได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 177 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งได้สร้างข้อกังขาต่อสาธารณะชนทั่วไปถึงกระบวนการยุติธรรมของไทยในการพิจารณาคดีนี้
ดังที่องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ได้ส่งแถลงการณ์ถึงผู้สื่อข่าวต่อมาในวันที่ 26 มิ.ย. 2552 ความตอนหนึ่งในแถลงการณ์ระบุว่า "ภายใต้หลักกฎหมายสากล การพิจารณาคดีที่เปิดเผยต่อสาธารณะเป็นหลักสำคัญในการปกป้องสิทธิของปัจเจกบุคคลจากการพิจารณาคดีและกระบวนการเกี่ยวกับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม...เมื่อศาลปิดประตูห้องพิจารณา นั่นคือสัญญาณเสี่ยงต่อความอยุติธรรม"
แม้สัญญาณจากศาลที่จะดำเนินการพิจารณาคดีแบบปิดลับ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าคุณดาจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพียงพอในฐานะพลเมืองไทยคนหนึ่ง แต่ดูเหมือนเจตจำนงในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของคุณดา หาได้หวาดหวั่นต่ออำนาจอยุติธรรมเลย เธอยังคงยืนยันศักดิ์ศรีของความเป็นคนอย่างเต็มเปี่ยม
ดังคำแถลงที่คุณดาเขียนขึ้นในวันที่ 24 มิ.ย. 2552 คุณดาได้เผยแพร่คำแถลงถึง "สื่อมวลชนและพี่น้องผู้รักความเป็นธรรม" ต่อกรณีการพิจารณาคดีแบบปิดลับของศาล โดยบางส่วนของคำแถลงคุณดาได้เขียนว่า
"ข้าพเจ้าขอประณามว่าการพิจารณาคดีโดยลับนั้นเป็นการทำลายหลักการยุติธรรมของกฎหมายโดยสิ้นเชิง วันนี้เมื่อ 77 ปีก่อน มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชมาสู่ระบอบประชาธิปไตย ผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองยืนยันในหลักการที่จะให้ราษฎรได้รับความยุติธรรมมาก ขึ้นกว่าจากเดิมที่เคยถูกกดขี่จากผู้ปกครองโดยตามอำเภอใจ แม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่เคยมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว แต่ข้าพเจ้าขอสรรเสริญเจตนารมณ์อันยิ่งใหญ่ดังกล่าว แม้ว่าในวันนี้ข้าพเจ้าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่ก็เชื่อมั่นว่าเจตนารมณ์ ของคณะราษฎรผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 จะต้องได้รับชัยชนะในที่สุด”
22 กรกฎาคม 2552 เป็นวันครบรอบ 1 ปีเต็มที่คุณดา ถูกจับกุมและคุมขังอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมตามสิทธิทางกฎหมาย เราจึงขอเชิญพี่น้องเสรีชนผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลาย ไปร่วมให้กำลังใจแก่คุณดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือดา ตอร์ปิโด นักสู้ประชาธิปไตยผู้ทรนงของพวกเรา ที่หน้าเรือนจำกรุงเทพใต้ (บางขวาง) ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2552 เวลา 09.30 น.
ทั้งนี้ขอให้ผู้ร่วมไปให้กำลังใจคุณ นำดอกไม้และป้ายผ้าให้กำลังใจคุณดามาพร้อมเพรียงกัน เราจะส่งแรงกำลังใจไปสู่คุณดาในยังอีกฟากของกำแพงซี่กรงขังของเรือนจำว่า "เราจะไม่ทอดทิ้งกัน"
ท้ายนี้ สมัชชาสังคมก้าวหน้าขอนำบทกวี "นอกกฎหมาย" ของคุณไม้หนึ่ง ก.กุนที เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคุณดา รวมไปถึงเสรีชนผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลาย และขอไว้อาลัยต่อกระบวนการยุติธรรมของไทย
เสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จงเจริญ!
คุกไม่อาจกักขังกวี
๏ คุกไม่อาจกักขังกวี และจะไม่ขอความปรานีศาล
ตุลาการเมื่อรับใช้เผด็จการ ถึงเวลาสร้างศาลประชาชน
๏ คุณให้ท้ายกลุ่มลัทธิคลั่งอำนาจ สิทธิ์เสรีประชาชาติถูกชิงปล้น
เสาะแสวงทุกวิธีให้จำนน ไม่ยอมรับ 1 เสียงของพลเมือง
๏ รุมปลูกฝังตรรกะวิปริต ชุดความคิดมอมเมาให้คนเชื่อง
ติดคุณธรรมความดีที่เปล่าเปลือง เพราะเบื้องหลังอำพรางอาชญากรรม
๏ คุณฆ่ากลุ่มความคิดที่ก้าวหน้า คนชั้นล่างที่ต้นทุนสังคมต่ำ
อ่อนจริตมารยาทแต่งชี้นำ จองจำเขาในความจน อด เจ็บ ตาย
๏ คุกไม่อาจกักขังกวี และล้านล้านเสรีชนทั้งหลาย
จะกู่ก้องก่นประณามคุณเรื่อยไป กว่ากฎหมายจะรับใช้มหาชน.
บทกวีโดย ไม้หนึ่ง ก.กุนที
“ดา ตอร์ปิโด” ขอบริจาค “วารสารและหนังสือ” เข้าห้องสมุดแรกรับ “ทัณฑสถานหญิงกรุงเทพฯ” Wed,
ประชาไท รายงานว่า ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล กล่าวผ่านทนายขอบริจาคหนังสือเข้าห้องสมุดทัณฑสถานหญิงกรุงเทพฯ (คลองเปรม) โดยระบุว่าสิ่งที่ต้องการตอนนี้คืออยากได้อ่านวารสารใหม่ๆ บ้าง เพราะวารสารที่มีอยู่ในห้องสมุดของส่วนแรกรับทัณฑสถานหญิง ซึ่งเป็นคนละส่วนกับห้องสมุดสำหรับนักโทษที่ถูกตัดสินคดีเด็ดขาดแล้วนั้นมีหนังสือให้อ่านจำนวนน้อย และส่วนใหญ่เป็นหนังสือเก่า โดยเฉพาะวารสารซึ่งส่วนใหญ่เป็นวารสารที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ พ.ศ. 2548
ดารณีระบุว่า หนังสือที่บริจาคจะต้องไม่มีเนื้อหาทางการเมือง ผู้ที่สนใจจะบริจาคจึงสามารถบริจาคหนังสืออื่นๆ เช่น นิยาย หนังสือธรรมะ ประวัติศาสตร์ สำหรับวารสารที่ห้องสมุดส่วนแรกรับอนุญาตให้ผู้ต้องขังอ่าน ได้แก่ แพรว สกุลไทย สุดสัปดาห์ คู่สร้างคู่สม อสท. ค.ฅน ชีวจิต และสารคดี
ผู้ที่สนใจจะบริจาคหนังสือ สามารถบริจาคไปที่ ผู้ปกครองส่วนแรกรับทัณฑสถานหญิงกลาง (คลองเปรม) โดยถือเป็นการบริจาคให้กับผู้ต้องขังหญิงในส่วนแรกรับซึ่งสามารถมาใช้บริการห้องสมุดส่วนแรกรับได้วันละ 2 ชั่วโมง