จิ๋ว"สับนโยบายต่างประเทศ นายกฯไม่ค่อยรู้เรื่อง สอนควรเล่นบทตีสองหน้าบ้าง ชี้จีนไม่สบายใจ"มาร์ค"ไปฮ่องกง เตือนระวังท่าทีต่อพม่า หวั่นถูกกล่าวหาแทรกแซงกิจการภายใน ติวพวกทำปฏิวัติ ห้ามทำครึ่งเดียว ไม่งั้นลงเหวตายไปหมด
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาต่อนักศึกษาหลักสูตร "การพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง" (พตส.) รุ่นที่ 1 ประจำปี 2552 จำนวน 85 คน หัวข้อ "พรรคการเมืองกับการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ" ที่ห้องสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมว่า โครงสร้างของประชาชนเป็นรูปสามเหลี่ยม ฐานคนจนเยอะ ข้างบนคนรวยจำนวนน้อย ไม่ว่าหันหน้าไปทางไหน มีแต่ความยากจน ทำไมคนเหล่านี้มีหัวใจให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะพ.ต.ท.ทักษิณให้ต่อคนยากจน แต่การให้ของพ.ต.ท.ทักษิณต่อคนยากจนมีอันตราย ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณรู้ว่ามีอันตราย เพราะการที่เอาเงินวันนี้ไปใช้ล่วงหน้าอันตราย ทำให้ขณะนี้เกิดความพยายามเปลี่ยนประชานิยม ไปสู่ระบบรัฐสวัสดิการ ที่ต้องใช้เงินมหาศาล อีกทั้งการปกครองบ้านเมืองยังไม่ค่อยมีคำว่าการปกครองคือความสำคัญผู้ปกครองกับผู้ใต้ปกครอง
"ผมอ่านสารนิพนธ์ของเหมา เจ๋อ ตุง (อดีตประธานาธิบดีจีน) ท่านบอกว่า ถ้าจะเอาชนะเผด็จการได้ ต้องใช้การเมืองนำการทหาร คือการเมืองนำจริงๆ และการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีหลัก 5 ข้อ คือ 1.อธิปไตยของปวงชน 2.เสรีภาพ 3.ความเสมอภาพ 4.นิติรัฐ 5.รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง วันนี้มีคนพูดเยอะประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย แต่ของเรายังไม่เพื่อประชาชนเสียที" พล.อ.ชวลิต กล่าว
อดีตนายกฯ กล่าวว่า วันนี้โลกเปลี่ยนไป แกนการพัฒนาจะมาอยู่ที่เอเชีย ซึ่งก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมไทยไม่ใกล้ชิดประเทศอื่น เหมือนเมื่อก่อน
"กับประเทศจีนนั้น ผมคุยกับจีนมา 5-6 ปี หรือล่าสุดที่นายกฯ จะไปเยือนจีนผมก็ไปก่อน โดยไปหารือว่าการประชุมผู้นำในประเทศไทยในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ขอให้นายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีประเทศจีน มาด้วยตนเอง ซึ่งเขาก็รับปาก แต่ปรากฏว่าอีก 2 วัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งไปประเทศจีนแทนที่จะไปปักกิ่งกลับไปที่ฮ่องกงแทน ทำให้เขาไม่สบายใจพอสมควร ซึ่งต้องยอมรับว่านายกฯ ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ต้องช่วยกัน หรืออย่างนโยบายกับพม่า ก็ขอให้ระวังเอาไว้ เพราะแม้สังคมภายนอกต้องการให้เรากดดันพม่า แต่หากเราทำหนังสือไป เราก็จะถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงกิจการภายในประเทศของเขา ดังนั้นนโยบายการต่างประเทศบางครั้งก็ต้องตีสองหน้า" พล.อ.ชวลิตกล่าว
จากนั้น นักศึกษาได้ซักถาม พล.อ.ชวลิต โดยนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ถามว่า ในวันเกิดเมื่อ 2 ปีก่อน พล.อ.ชวลิตเขียนหนังสือ "ขบวนการล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า" ขณะนี้ได้ติดตามสถานการณ์มาแค่ไหนและยังมีความรุนแรงหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า "ความจริงเป็นเรื่องจะเกิดขึ้นก็เลยเขียนเตือน แต่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ต้องระวัง"
นายคำนูณ ถามซักว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การเตือน แต่เวลานี้ได้ผ่านไป 2 ปีแล้วขบวนการนี้ได้พัฒนาไปขนาดไหนแล้ว เพราะพล.อ.ชวลิตเคยบอกว่าต้องช่วยกันปกป้องด้วย พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า "เรื่องนี้พี่น้องมีส่วนดีและไม่ดี อีกทั้งคนมีความรู้สึกว่า มีเชื้อดังกล่าวอยู่เราคงทำอะไรไม่ดีไม่ได้ ดังนั้นเราต้องใช้ความอดทนเข้าชี้แจง ผมว่ามีแนวทางเดียวคือสันติ ที่ทำให้บ้านเมืองอยู่รอดได้"
ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) นักศึกษาหลักสูตร พตส. ถามว่า ถึงเวลาที่กองทัพควรถอยกลับกรมกองหรือไม่ เพราะการตั้งรัฐบาลชุดนี้ ตั้งในค่ายทหาร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เคยปราบรัฐประหารมา 2 ครั้ง ช่วงนั้น พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร จปร.รุ่น 7 จะยึดอำนาจรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งเขาต้องการจะแก้ไขเหมือนอย่างที่ พล.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) อยากจะแก้ไขจริงๆ แต่เวลาทำแล้วไม่ได้แก้ ก็ทำให้เป็นปัญหา คนทำการปฏิวัติเขาห้ามว่าอย่าปฏิวัติครึ่งเดียวไม่เช่นนั้นอาจลงเหวไปตายหมด ส่วนมากคนที่ทำอายไม่กล้าทำต่อ หากประธาน คมช.เป็นนายกฯเองก็จบแล้ว แต่เวลาอยากจะเป็นต่อมาก็ไม่ได้เพราะจะยุ่งแล้ว ดังนั้นต้องช่วยการให้การศึกษาให้ดี
จากนั้น พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. ประธาน พตส. รุ่นที่ 1 ชี้แจงว่า ขอให้ไปดูรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับปี 2549 เพราะตามกฎหมายดังกล่าว ตนมีภาระหน้าที่เพียง 14 วัน ที่ต้องทำให้เรียบร้อยเพราะกฎหมายให้อำนาจไว้แค่นั้น
นอกจากนี้ พล.อ.สนธิกล่าวว่า "ผมขอติงเรื่องนโยบายการต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องกัมพูชาว่าที่ผ่านมา หากจะทำอะไรกับกัมพูชาเรามักจะใช้ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบ้านเมืองหรือกระทั่งเรื่องธุรกิจส่วนตัว จนเป็นข้อสังเกตว่า เราใช้ พล.อ.เตีย บันห์ เกินกว่าเหตุ และทำลายเขาหรือไม่ เราน่าจะถนอมเขาไว้บ้าง"
ทั้งนี้ มีผู้ถาม พล.อ.ชวลิตว่าพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า "ขออนุญาตไม่เป็น ผมไม่หวังเป็นอะไรอีกแล้ว แต่ยังหยุดทำหน้าที่เพื่อแผ่นดินไม่ได้"
ที่มา มติชน