มีประโยคหนึ่งพูดไว้ว่า.. ถึงเราไม่ยุ่งกับ “การเมือง”..“การเมือง”นั่นแหละจะต้องมายุ่งกับเราอยู่ดี เพราะเราไม่ใช่มนุษย์ในยุค“โลกล้านปี” อย่างในอดีต..ที่อยู่กันแบบต่างคนต่างอยู่ “หมดสิ้นอายุขัย”ก็ตายจากกันไป ในเมื่อเราได้เกิดขึ้นมา ในโลกของปัจจุบัน..ดังนั้น“ความเป็นอยู่”ก็จะต้องแปลกเปลี่ยนไปเช่นกัน..ด้วยการมี “ผู้ปกครอง” มาสร้าง“ระบบ”ความเป็นอยู่ให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันและออกกฎหมายเป็นกฎ/กติกา/ระเบียบให้ จาก “การบ้าน” ที่อยู่กันแบบครอบครัวเล็กๆ..ก็ต้องโดดขึ้นไปเป็น
“การเมือง”เพื่อการรวมเป็นชาติที่ใหญ่ขึ้น “ผู้ปกครอง” หรือที่เราคัดสรรมาจาก “การเมือง” ก็จะมีทั้ง “ดี”และ “เลว”แตกต่างกันไป.. และจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเสนอหน้ามา..ด้วยคำว่า “รับใช้ประชาชน”!! ตรงนี้แหละ..ที่เราๆท่านๆจะมีโอกาสได้ “กาบัตร” เพื่อเลือกสรรหาคนหรือ พรรคการเมืองที่คิด
ว่าดีที่สุด สำหรับเรา..มาดูแลเรา.. เพื่อเป็น“ตัวแทน-ปากเสียง” แทนเรียกว่าระบบ “ประชาธิปไตย”!! ไม่นับ “ผู้ปกครอง”ที่มาจาก ปลายปืนของทหารที่ปฎิวัติยึด“อำนาจรัฐ”มาบริหารเสียเองอย่างที่เราได้ประสพและพบเห็นมาตลอดชีวิต!! ดังนั้นเสียงของ“ประชาชน” คือ“เสียงสวรรค์”สำหรับนักการเมืองที่แท้จริง!!
ไม่ว่า รัฐบาลของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะ“ยุบสภา”ก่อน หรือ จะอยู่จน“ครบเทอม”ในที่สุดก็จะต้องถึงปลายทางของมัน.. นั่นคือ ได้เวลาที่จะต้อง“หย่อนบัตร”เลือกตั้งกันใหม่..ควานหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เพื่อนำส่งเข้า “สู่สภา”อันทรงเกียรติ!! และเชื่อว่า หากมีการ “เลือกตั้งใหม่”ในครั้งหน้า เราคงได้เห็น ประชาชน
หลั่งไหลออกมาเพื่อ “คัดเลือก-ค้นหา” ผู้แทนของเขาอย่างถล่มทลาย!! เพราะ“ประชาชน” ทุกภาคส่วนของประเทศ ได้ รับรู้ ซึมซับ ว่า “สิทธิ”ของเขานั้น มันมี “คุณค่ามหาศาล”เพียงใด กับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ใครจะเลือกใครผมไม่รู้..แค่ “สังหรณ์ใจ”ว่า ประชาชนต้องออกจากบ้านเข้า“คูหาเลือกตั้ง”มากเป็นประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน..ผมเชื่ออย่างนั้น!!