บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

"มาร์ค"ใส่เสื้อเกราะ ใช้ฮ.อารักขาลงพื้นที่บุรีรัมย์ เสื้อแดงสิ้นฤทธิ์โดนน้ำเงินสกัดถอยไม่เป็นขบวน

ที่มา มติชนออนไลน์

"มาร์ค"ลงพื้นที่บุรีรัมย์ผ่านฉลุยไม่มีเสื้อแดงต้าน สวมเสิ้อเกราะใช้เฮลิคอปเตอร์บินคุ้มกัน ยาหอมให้งบฯลงบ้านเนวิน 6.5 พันล้าน ติดใจเตรียมไปอุบลราชธานี-ยโสธร 23 ก.ค. "เสื้อน้ำเงิน" ตั้งด่านสกัด "เสื้อแดง" ถอยร่นไม่เป็นขบวน

นายกฯยกคณะใหญ่ไปบุรีรัมย์


เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 กรกฎาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกอบด้วย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายธีระวงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ส.ส.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน และ น.ส.ณิรัฐกานต์ ศรีลาภ ส.ส.ยโสธร ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร (บน.6) ไปปฏิบัติภารกิจตรวจพื้นที่ภาคอีสานที่ จ.บุรีรัมย์


ไร้เงา"สุทัศน์"ใช้ ฮ.บินคุ้มกัน


เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์และคณะมาถึงท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เป็นที่น่าสังเกตว่า นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้มาร่วมคณะอย่างใด เมื่อมาถึงนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เจ้าของพื้นที่เดินมารับนายกฯพร้อมกับนายมงคล สุระสัจจะ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ อาทิ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า "มาดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ เพราะเป็นห่วงนายกฯ ไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้น"


บริเวณหน้าสนามบิน มีหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มพลังมวลชน และประชาชนกว่า 500 คน สวมเสื้อยืดสีขาวมีข้อความว่า "เรารักนายกฯ" มารอต้อนรับ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัย (รปภ.) อย่างเข้มงวด ทั้งตำรวจ ทหาร อพ.ปร. ยืนคุ้มกันตลอดเส้นทางที่คณะนายกฯผ่าน มีเฮลิคอปเตอร์บินติดตามขบวนนายกฯไปทุกจุด ระหว่างทางมีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมใส่เสื้อสีน้ำเงินตั้งด่านสกัดกลุ่มเสื้อแดงที่จะเคลื่อนมาชุมนุมขับไล่นายกฯ ตามถนนสายต่างๆ เช่น ที่สี่แยกบ้านกระสัง อ.เมือง เป็นต้น


นายกฯสวมเสื้อเกราะอ่อน


รายงานข่าวแจ้งว่า ทีม รปภ.ของนายกฯได้เพิ่มกำลังเป็นพิเศษ ติดอาวุธครบมือ อาทิ ปืนเอ็มพี 5 ปืนสั้นลูกกรด กระบอง ฯลฯ แบ่งการรักษาความปลอดภัยออกเป็น 3 ชั้น คือ ระยะประชิดตัว ระยะใกล้ และระยะไกล ด้านนายอภิสิทธิ์ได้สวมเสื้อเกราะอ่อนไว้ข้างใน ก่อนสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าทับชั้นที่ 2 และสวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีขาวมีข้อความว่า "ฉันรักประเทศไทย" ทับเป็นชั้นที่ 3 เพื่ออำพราง เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอดการเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ นายกฯนั่งรถยนต์กันกระสุน ยี่ห้อฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีดำ เลขทะเบียน ฌฌ 7771 กรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังนำรถโตโยต้า พลาโด มานำขบวน และรถโตโยตา ฟอร์จูนเนอร์ ของหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน มาปิดท้ายขบวนนายกฯ ด้วย


เสื้อแดงเจอน้ำเงินสกัดยอมถอย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้ากลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 200 คน พร้อมขบวนรถยนต์หลายสิบคัน นำโดยนายทองพูน สุขเมือง เคลื่อนจากสระน้ำทุ่งแหลม ต.ถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ มุ่งหน้าสู่ อ.ลำปลายมาศ จุดที่นายกฯจะลงพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเคลื่อนมาถึงเส้นทางสาย อ.นางรอง-อ.ชำนิ มุ่งหน้าสู่ อ.ลำปลายมาศ ปรากฏว่า ที่บริเวณเส้นทางช่วงบ้านหนองเทา ต.หนองโดน อ.ชำนิ มีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมเสื้อสีน้ำเงินประมาณ 500 คน ในนาม คนรักบุรีรัมย์Ž นำโดยผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.บุรีรัมย์ หลายคนนำรถบรรทุกหกล้อติดเครื่องขยายเสียงปราศรัย มาตั้งด่านสกัดการเคลื่อนขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงผ่านมาถึง กลุ่มคนเสื้อน้ำเงินซึ่งมีทั้งกระบองและไข่ไก่ นำรถหกล้อและรถสองแถวหลายคันปิดหัวปิดท้ายขบวนเสื้อแดง ไม่ยอมให้เสื้อแดงเคลื่อนขบวนออกจากบริเวณดังกล่าวได้ ทำให้กลุ่มเสื้อแดงติดแหงกอยู่ที่นั่นตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. เป็นต้นมา ส่งผลให้รถที่ใช้เส้นทางสาย อ.นางรอง-อ.ลำปลายมาศ ต้องเลี่ยงไปใช้ถนนในหมู่บ้านหนองเทาแทน


กลุ่มคนเสื้อน้ำเงินผลัดเปลี่ยนกันปราศรัยยืนยันไม่ยอมให้กลุ่มคนเสื้อแดงมาทำลายชื่อเสียง หรือก่อความวุ่นวายให้กับ จ.บุรีรัมย์ ในระหว่างที่นายกฯลงพื้นที่ ระหว่างนั้นแกนนำทั้งสองกลุ่มเปิดเจรจากัน กลุ่มคนเสื้อน้ำเงินยืนยันไม่ให้ไปไหนจนกว่านายกฯจะออกจาก จ.บุรีรัมย์ กลุ่มเสื้อแดงยอมย้ายกลับไปชุมนุมที่สระน้ำทุ่งแหลมตามเดิมโดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น


ชาวบ้านกรี๊ด-แห่ผูกผ้าขาวม้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในแต่ละจุดที่นายอภิสิทธิ์ปฏิบัติภารกิจ ประชาชนให้ความสนใจขอถ่ายรูป ส่งเสียงกรี๊ด ขอลายเซ็น และแห่ผูกผ้าขาวม้ารอบเอวให้ เริ่มจุดแรกที่บริเวณสถานีรถไฟบุรีรัมย์ นายอภิสิทธิ์กล่าวปราศรัยต่อหน้าประชาชนหลายพันคนว่า มีการจับตาดูว่านายกฯมาบุรีรัมย์ มาภาคอีสานเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ทั้งที่ความจริงเคยมาปราศรัยที่ จ.บุรีรัมย์ แล้วคนมาฟังมากแต่คะแนนเสียงไม่ค่อยได้ ที่ผ่านมาเคยบอกประชาชนในวันเข้ารับตำแหน่งว่าจะทำหน้าที่ให้คนไทยทุกคนไม่ว่าอยู่ที่ไหน เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน


ยาหอมงบฯลงบุรีรัมย์6.5พันล.


"ที่ผมตัดสินใจมาในช่วงนี้ เพราะต้องยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ค่อนข้างวุ่นวาย ผมไม่อยากให้เกิดปัญหาจากการเดินทางของผมไม่ว่าจะภาคไหน หลายปีที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่าการลงทุนไม่ค่อยเกิด แต่ 3 ปีหลังจากนี้รัฐบาลจะลงทุนพัฒนาประเทศไทยอย่างจริงจัง เฉพาะ จ.บุรีรัมย์ จะมีงบประมาณมาลง 6.5 พันล้านบาท จะมีแหล่งน้ำ ถนนไร้ฝุ่น สถานีอนามัย" นายอภิสิทธิ์กล่าว


เวลา 11.10 น. นายอภิสิทธิ์ปฏิบัติภารกิจในจุดที่ 2 ด้วยการตรวจเยี่ยมโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา และศูนย์การเรียนรู้ของนายมีชัย วีระไวทยะ จากนั้น ไปที่โรงเรียนธารทองพิทยาคม อ. ลำปลายมาศ เพื่อเปิดงานมหกรรมสุขภาพและมหกรรมของดีบุรีรัมย์ ชมสาธิตการเต้นแอโรบิคจากอาสาสมัครสาธารณสุขจาก 5 อำเภอ จำนวน 3,000 คน ที่นี่มีประชาชนมารอต้อนรับหลายหมื่นคนจนเต็มพื้นที่สนามกีฬา นายอภิสิทธิ์กล่าวปราศรัยท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยงว่า ขอขอบคุณที่ชาวบุรีรัมย์ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีไม่เฉพาะกับจังหวัด แต่หมายถึงประเทศ เพราะเชื่อว่าประชาชนในจังหวัดอื่นๆ ก็จะทำเช่นนี้


เปิบข้าวเหนียว-ส้มตำบ้าน"โสภณ"


จากนั้น นายอภิสิทธิ์ไปเปิดงานคมนาคมเคลื่อนที่ โดยนั่งรถอีแต๋นพร้อมกับโบกมือทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดโดยเฉพาะจากผู้หญิงและนักเรียน บางคนวิ่งตามมาขอสัมผัสมือ


เวลา 12.45 น. นายกฯและคณะไปโรงเรียนบ้านหนองบัว เปิดโครงการถนนไร้ฝุ่นสายแรกที่บ้านแสงพัน-บ้านหนองน้ำขุ่น ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ เสร็จแล้วแวะไปรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านพักของนายโสภณ เมนูที่เจ้าบ้านเตรียมไว้ อาทิ ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวหมู ผัดหมี่โคราช ส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง กุ้งเผา ลอดช่อง ฯลฯ


คุยชาวบ้านบอกมัดใจไว้ที่อีสาน


เวลา 14.40 น. นายอภิสิทธิ์นั่งรถอีแต๋นจากบ้านนายโสภณไปปฏิบัติภารกิจต่อในจุดที่ 5 ที่โครงการปลูกยางพาราและปลูกอ้อย อ.นาดอน ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อไปถึงนายกฯได้นั่งล้อมวงพูดคุยกับชาวบ้านที่พื้นดิน จากนั้น คว้าไมโครโฟนมากล่าวทักทายประชาชนด้วยสำเนียงอีสานเป็นครั้งแรกว่า ซำบายดีบ่Ž เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่น ก่อนจะสอบถามถึงความพอใจต่อการกำหนดราคาสินค้าเกษตร


ต่อมาไปยังสถานีอนามัยหนองครก ซึ่งพัฒนาเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.เมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ เป็นจุดที่ 6 ก่อนปิดท้ายตรวจโครงการอ่างเก็บน้ำลำตะโคงเป็นภารกิจสุดท้าย นายอภิสิทธิ์ยังพูดด้วยภาษาอีสานขอบคุณชาวบุรีรัมย์ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ประทับใจมาก แสดงให้เห็นถึงความสมัครสมานสามัคคี ไม่เฉพาะชาวบุรีรัมย์เท่านั้น แต่เป็นความสามัคคีของคนทั้งชาติ มาครั้งนี้จะเห็นได้ว่าชาวบ้านได้นำผ้าขาวม้ามารัดที่เอวของตนหลายสิบผืน แถมบอกด้วยว่าจะต้องมัดให้แน่นๆ เพื่อที่จะได้มัดใจของตนไว้ที่อีสาน และจะได้กลับมาที่นี่อีก เมื่อดูจากจำนวนผ้าก็คงบอกได้ว่าจะต้องกลับมาอีกกี่รอบ


เสื้อแดง4คนเล็ดลอดมาไล่


ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่างนายกฯเดินทางไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์เพื่อขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ ในเวลา 17.45 น. มีจุดหนึ่งที่ชาวบ้านสวมเสื้อแดง 3 คน นำเสื้อแดงมาทำเป็นธงแล้วโบกใส่คณะของนายกฯ มีเด็กถือตีนตบมาเขย่า ถือเป็นจุดเดียวที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงปรากฏตัว
ด้านนายโสภณ ซารัมย์ กล่าวหลังส่งนายกฯว่า รู้สึกสบายใจมาก เพราะเมื่อคืนวันที่ 10 กรกฎาคม ไม่ได้นอนเลยทั้งคืน เพราะออกไปดูว่าประชาชนตั้งด่านอยู่จริงหรือไม่ เนื่องจากข่าวดังจริงๆ มาตอนนี้ก็รู้สึกดีมากๆ


ติดใจเล็งไปอุบลฯ23ก.ค


นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเครื่อง ถึงกระแสข่าวในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ จะไปลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานีว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกำหนดการ ขึ้นอยู่กับความพร้อมแต่ละพื้นที่ที่จัดมา รวมถึงภาคเหนือและภาคใต้ด้วย


เมื่อถามว่า งานนี้ต้องขอบคุณนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ก็ขอบคุณทุกท่าน เพราะหลายคนเหนื่อยกับการเตรียมการครั้งนี้" เมื่อถามว่า ทำไมไม่เห็นนายเนวินมาต้อนรับบ้างเลย นายกฯกล่าวว่า คงไม่จำเป็น การมาวันนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับนายเนวิน แต่ได้โทรศัพท์พูดคุยกันก่อนหน้านี้


"วิฑูรย์"ขอให้แวะยโสธรด้วย


ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในวันที่ 23 กรกฎาคม นายกฯมีภารกิจที่ต้องไปปฏิบัติราชการใน จ อุบลราชธานีอยู่แล้ว จึงได้หารือกับนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน ซึ่งนายวิฑูรย์เสนอให้นายกฯไปลงพื้นที่ จ.ยโสธรด้วย คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา นายกฯยังพูดเล่นกับนายวิฑูรย์ว่าถ้าไป จ.ยโสธร จะมีคนมาต้อนรับมากเหมือนมาที่ จ.บุรีรัมย์หรือไม่

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker