สุดท้ายเป็นเพียงข่าวลือ...ได้ยินพูดต่อๆ กันมา!“สำราญ รอดเพชร” กับหน้าที่โฆษกพรรคการเมืองใหม่...ถึงการออกมาแพร่งพรายข้อมูลสำคัญอัน “เป็นความลับ” เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ “ทักษิณ ชินวัตร”น่าเสียดายกับคำพูดเพียงไม่กี่คำของคนๆ หนึ่ง...ซึ่งขาดความ “แหลมคม” ทางการเมือง...และอ่อนด้อยด้วย “ไหวพริบ” ปฏิภาณจากบุคคลระดับ “แกนนำ” ที่มวลชนคนเสื้อเหลืองให้การยอมรับ...มาวันนี้เขาเป็นเพียง “เสือสิ้นลาย”เพราะการ “กวัดแกว่งลมปาก”
โดยขาดเนื้อหาและสาระข้อเท็จจริงทำให้ “สำราญ” กลายเป็นคนหมดสิ้น...ในด้านความน่าเชื่อถือทั้งหมดทั้งมวลโดยเฉพาะตำแหน่งหน้าที่...ซึ่งจำเป็นต้อง “ยึดโยง” เกาะกลุ่มมวลชน.ในโอกาสต่อไปตัวท่านจะทำอย่างไร?หากพูดอะไรแล้ว...ไม่มีคนเชื่อ...ไม่มีคนฟัง เมื่อเป็นเช่นนั้น...มันจะแตกต่างอะไรกับการนั่งพูดนั่งฟังเพียงคนเดียว...ซึ่งภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า “คนไม่ปรกติ” แต่ยังไม่เข้าขั้นถึง “คนบ้า”เพราะนิยามของคนบ้า คือ ผู้ที่มีอาการทางจิตทำให้
ประสาทฟั่นเฟือน แต่สำหรับ “สำราญ” แล้วท่าน “ไม่ใช่”กิริยาและความรู้สึกของท่านยังสามารถ “รับรู้” เพียงอาจมี “อาการหลุด” บ้างเป็นบางครั้งบางคราว อย่างเช่น...อยู่ดีๆ ก็หยิบ เอาตะหลิวกับกระทะมาตีเป้งๆ ให้เสียงดัง เพื่อทำให้คนสนใจ...ทั้งที่ไม่รู้เหตุผลว่า...ทำไปทำไม?แบบนี้ไม่เรียกว่า “บ้า” แต่เรียกว่า “ติ๊งต๊อง” “สำราญ” ควรทำตัวให้อยู่กับร่องกับรอย...และอย่าไปยึดติดว่า “หน้าที่โฆษก” ต้องออกมา “ตีกระทะ” ให้คนเงี่ยหูฟังเพียงอย่างเดียวหากจะเล่น
งานฝ่ายตรงข้าม...ต้องรู้จักตอบโต้อย่าง “มีกึ๋น”สมองกับปาก...ต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแต่มิใช่ต้นแบบเช่น “เทพไท เสนพงศ์” สุดยอดโฆษกแห่งยุคนี้...ซึ่งสามารถใช้ปากกับสมอง “คล้องจอง” ประสานกันอย่างน่าเชื่อคิดเร็ว...พูดเร็ว...ตอบโต้เร็ว...ถึงขนาดบางที “ต่อมน้ำลาย” ยังผลิตไม่ทัน ยิ่งฟังมันพูด..กูยิ่งบ้า!