ก็ไม่ได้ส่อแววออกฤทธิ์ออกเดช เร่งเกมตามกระแสเร้าซะที่ไหน
จับอาการ จากคิวล่าสุดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งทั้งภาพและเสียงวีดิโอลิงค์เข้าร่วมงานเลี้ยงโต๊ะจีนลูกข่ายพรรคเพื่อไทยและแนวร่วมคนเสื้อแดง
ยืนยันยังนอนหลับสบายดี กินอาหารได้ 3 มื้อตามปกติ
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ จะไปเดินห้างช็อปปิ้ง ซื้อเสื้อผ้า ในเมืองดูไบ ฆ่าเวลาระหว่างรอลุ้นคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ที่เมืองไทย
"ทักษิณ" สะกดใจ ข่มอารมณ์สบายๆ
โดยบทโอ้โลม มั่นใจว่าผู้พิพากษาส่วนใหญ่เป็นคนดี รักในสถาบันยุติธรรม
แต่หากมีการผิดเพี้ยนก็เตรียมทางออกไว้แล้ว โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ หากไม่ได้รับความยุติธรรมก็จะฟ้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรืออินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ต ออฟ จัสติส (ไอซีโอเจ)
ดังตัวอย่างที่เคยมีกรณีของดะโต๊ะชาวมาเลเซีย ประชาชนธรรมดาที่ยื่นฟ้องรัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งไอซีโอเจตัดสินให้รัฐบาลมาเลเซียชดใช้เงิน 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แบไต๋ เผื่อหนทางต่อสู้ล่วงหน้า
แต่ทั้งหมดทั้งปวงจับอาการในจังหวะแบะท่า อดีตนายกฯทักษิณออกตัว เป็นคนพูดง่าย พูดกันดีๆก็จบ พร้อมเจรจาสงบศึกกับคนคุมเกมอำนาจประเทศไทย
บ่งบอกอารมณ์เหนื่อยล้าเต็มทีกับเกมการต่อสู้
มันก็เป็นอะไรที่เดาทางกันได้ ในกรณีสมมติหวยออกมา อดีตนายกฯทักษิณรับได้ กับคำพิพากษา พอใจกับสิ่งที่ได้กลับคืนมา ตัดสินใจ "เล่นบทหมอบ" กลับไปใช้ชีวิตสงบๆทำมาหากินกับธุรกิจตามบทถนัด ในอารมณ์ที่ระเหเร่ร่อนอยู่ต่างบ้านต่างเมืองจนเคยชิน
ไม่คิดดิ้นรนกลับมาหาเรื่องเจ็บตัวอีก
มันก็เป็นอะไรที่จบแบบ "หักมุม" มีรันเวย์นิ่มๆให้ลง
เอาเป็นว่า โดยยุทธศาสตร์ที่น่าจะต้องเตรียมหาทางออกเผื่อๆกันไว้ สำหรับลูกข่ายพรรคเพื่อไทย และแกนนำกองทัพคนเสื้อแดงที่มีฐานการเมืองทับซ้อนกันอยู่
โดยจังหวะ "นายใหญ่" ใส่เกียร์ถอย ลูกข่ายก็ขาดท่อเชื่อมประสาน
มีหวังต้องแยกกิจการ บ้านใครบ้านมัน
แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ ตามรูปการณ์ทางการเมืองก็อย่างที่ "ทักษิณ" ฟันธงชัดๆเลยว่า ปี 2553 ต้องเปลี่ยนรัฐบาลแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลเปลี่ยนขั้ว หรือรัฐบาลที่มาจากการยุบสภาเลือกตั้งกันใหม่
เปิดพื้นที่บี้กันในเกมสภาผู้แทนราษฎร
โดยวิสัยที่ตรงกันกับอารมณ์ของนักเลือกตั้ง ยื้อจังหวะกันพอดีกับคิวที่ "เทพเทือก" แบะท่า อยากให้รัฐบาลอยู่ต่ออีกสัก 1 ปี หรือปีกว่าๆ ยืนยันพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่แตก แต่อาจจะมีฉุนๆกันบ้าง
รัฐบาลประชาธิปัตย์ยังไม่พร้อมลงสนามเลือกตั้งใหม่
"ทักษิณ" รุก "เทพเทือก" ยื้อ ตัวแปรจึงอยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาล โดยอาการ "หมั่นไส้" ที่ฮึ่มฮั่มๆใส่กันวันละ 3 เวลาหลังอาหาร
แต่เอาเข้าจริงมันก็ติดเงื่อนไข ยากจะหาจังหวะดีๆแบบนี้ในทางการเมือง
โดยแต้มต้นทุน 30 กว่าเสียง พรรคภูมิใจไทยคุมกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ พรรคเพื่อแผ่นดินคุมกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงไอซีที พรรคชาติไทยพัฒนา 20 กว่าเสียง ยึดกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนามี 9 เสียง ได้คุมกระทรวงพลังงาน บวกโควตา รมช.คลัง พรรคกิจสังคม 5 เสียง ได้คุมกระทรวงทรัพยากรฯ
สิ่งมหัศจรรย์ที่ต้องลงบันทึกไว้ในเรื่องแปลกแต่จริง
ที่สำคัญเลย โดยนายกฯที่ชื่อ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" รับประกันได้เรื่อง "เส้นใหญ่" ภูมิคุ้มกันดีกว่าใครในประเทศไทยยามนี้
โดยราคาต่อรอง โอกาสยังเอื้อให้ยี่ห้อประชาธิปัตย์ลากยาวตามเกมถนัด
แต่โดยจังหวะที่ "อภิสิทธิ์" เอง ก็ต้อง "ระแวงหลัง" ให้ดีๆ
กับคิวที่โหร คมช.ออกมาบอกใบ้ ปล่อยอักษรย่อ "ป" มียศทหาร จะขี่ม้าขาวกระโดดมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แทรกคิวกลางวงวิกฤติ
ไล่ตามปริศนาอักษรใบ้ "ป" มียศทางทหาร เบื้องต้นก็เลยก็ต้องเล็งไปที่ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม "ป" ทั้งชื่อเล่น ชื่อจริง
ยิ่งยามนี้ ขั้วอำนาจสีน้ำเงินกำลังตกอยู่ในสภาพโดน "อภิสิทธิ์" บี้หนัก ไล่ทุบแทบโงหัวไม่ขึ้น
ตามสถานการณ์แล้ว "ป" พล.อ.ประวิตร ก็อยู่ในจังหวะ
แต่แว่วๆ "ป" คาบไปป์ ก็แอบลุ้นด้วยใจระทึกเหมือนกัน.
ทีมข่าวการเมือง
