แม้ต้องปิดต้นฉบับล่วงหน้า แต่เชื่อว่าวันที่ 26 ก.พ. จะผ่านไปโดยไม่มีอะไรรุนแรง
ถึงรัฐบาลชุดนี้จะใช้สื่อทุกชนิดในมือ จุดไฟในนาคร ต่อเนื่องนานนับเดือน ดูได้จากพฤติกรรม การสร้างข่าว มีการ ประกาศ 10 วันอันตราย 10-26 ก.พ. ว่า ม็อบเสื้อแดงจะป่วนเมืองแน่
พอเสื้อแดงรู้แกว ไม่เดินเข้าแผน คิลลิ่งโซน เหมือนเมษายนเลือด ประกาศไม่เคลื่อนไหววันตัดสินคดียึดทรัพย์ แถมเลื่อนไปชุมนุมใหญ่มีนาคม (วันที่ 14)
นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาล ที่สื่อตั้งชื่อใหม่ ว่า โฆษก ปา (นา) ธาน ก็ออกมาพลิ้วใหม่ ประกาศ 4 วันอันตราย (25-28 ก.พ.) อีก นี่ถ้าเสื้อแดงเลื่อนไปเรื่อย วันอันตรายก็คงเปลี่ยนไปเรื่อยนั่นล่ะ
โฆษกนาธาน เชื่อว่า ผ่าน 4 วันอันตรายนี้ไป เสื้อแดงจะ ฝ่อไปเอง จริงหรือไม่ ก็ต้องดูกันต่อ
ขณะที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.คุมสื่อ บอกจะใช้วิทยุ ทีวี ของรัฐ ทุกเครือข่ายกว่า 4,000 คลื่น (อย่าลืมไทยพีบีเอสด้วยนะ) เอา นักวิชาการ นักกฎหมาย ผู้นำความคิด และบุคคลที่เป็นกลาง
มาแสดงความคิดเห็นถึงคำพิพากษาของศาล เพื่อให้ประชาชนยอมรับ ตั้งแต่ 26-28 ก.พ.นี้
อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว
จะเป็นอะไรไปได้อีก นอกจาก เอามาไล่บดขยี้ทักษิณกับเสื้อแดงต่อไป เหมือนที่นำวิทยุกรมประชาฯ กับช่องหอยม่วง (เน่า) มายัดเยียดจัดรายการ โฆษณาชวนเชื่อ
ทำให้เสื้อแดงกับทักษิณ เป็นคนเลวชนิดหาดีไม่ได้ ยึดเวทีจ้อข้างเดียว ตอกย้ำความเกลียดชัง ทุก ๆ วัน
นี่แหละ ทั้งหมดที่สื่อรัฐในเครือข่าย ทำมา
หรือจู่ ๆ จะคิดดีขึ้นมา หันมาทำรายการสร้างสรรค์ ให้คนไทย รักกัน เมตตาต่อกัน
แยกแยะ ดี-เลว ผิด-ถูก ด้วยเหตุ ด้วยผล ไม่ใช่ด้วยอารมณ์ ความรู้สึก หรือ สีเสื้อ อย่างที่ผ่านมา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ขออนุโมทนายกมือสาธุท่วมหัว เลย
ไหน ๆ พรุ่งนี้ ก็เป็น วันมาฆบูชา วันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม โอวาทปาติโมกข์ ให้มนุษย์ละความชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม และ ทำจิตใจให้ผ่องใส
ถ้า นายกรัฐมนตรี รมต.คุมสื่อ โฆษกรัฐบาล ในฐานะผู้นำสังคม ที่จะต้องเสียสละ ทำตัวเป็นแบบอย่างมากกว่าคนอื่น จะหันมาหาธรรมะข้อ
เมตตา (อยากให้เขามีความสุข) กรุณา (อยากช่วยให้เขาพ้นทุกข์) มุทิตา (ยินดีเมื่อเห็นเขาได้ดี) อุเบกขา (พิจารณาสิ่งรอบตัว ด้วยใจนิ่ง ด้วยเหตุ และผล ด้วยความเป็นธรรม) ให้มาก ๆ
ไม่เอาแต่จ้องล้มล้างศัตรูทุกลมหายใจ บ้านเมืองจะดีกว่านี้แน่
ความชิงชังที่คุกคามคนไทยอยู่ ไม่สามารถดับได้ด้วยการล้างแค้น หรือ จ้องทำลายล้างให้ตายไปข้างได้หรอก มีแต่ต้องดับด้วย คำสอนของพระพุทธองค์ นี่แหละ
ศาสนาพุทธนั้น คือ โอสถวิเศษ ที่จะรักษาแผลใจให้คนไทยทั้งปวง อยู่ที่จะจริงใจทำหรือเปล่า เท่านั้น.
ดาวประกายพรึก
ถึงรัฐบาลชุดนี้จะใช้สื่อทุกชนิดในมือ จุดไฟในนาคร ต่อเนื่องนานนับเดือน ดูได้จากพฤติกรรม การสร้างข่าว มีการ ประกาศ 10 วันอันตราย 10-26 ก.พ. ว่า ม็อบเสื้อแดงจะป่วนเมืองแน่
พอเสื้อแดงรู้แกว ไม่เดินเข้าแผน คิลลิ่งโซน เหมือนเมษายนเลือด ประกาศไม่เคลื่อนไหววันตัดสินคดียึดทรัพย์ แถมเลื่อนไปชุมนุมใหญ่มีนาคม (วันที่ 14)
นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาล ที่สื่อตั้งชื่อใหม่ ว่า โฆษก ปา (นา) ธาน ก็ออกมาพลิ้วใหม่ ประกาศ 4 วันอันตราย (25-28 ก.พ.) อีก นี่ถ้าเสื้อแดงเลื่อนไปเรื่อย วันอันตรายก็คงเปลี่ยนไปเรื่อยนั่นล่ะ
โฆษกนาธาน เชื่อว่า ผ่าน 4 วันอันตรายนี้ไป เสื้อแดงจะ ฝ่อไปเอง จริงหรือไม่ ก็ต้องดูกันต่อ
ขณะที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.คุมสื่อ บอกจะใช้วิทยุ ทีวี ของรัฐ ทุกเครือข่ายกว่า 4,000 คลื่น (อย่าลืมไทยพีบีเอสด้วยนะ) เอา นักวิชาการ นักกฎหมาย ผู้นำความคิด และบุคคลที่เป็นกลาง
มาแสดงความคิดเห็นถึงคำพิพากษาของศาล เพื่อให้ประชาชนยอมรับ ตั้งแต่ 26-28 ก.พ.นี้
อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว
จะเป็นอะไรไปได้อีก นอกจาก เอามาไล่บดขยี้ทักษิณกับเสื้อแดงต่อไป เหมือนที่นำวิทยุกรมประชาฯ กับช่องหอยม่วง (เน่า) มายัดเยียดจัดรายการ โฆษณาชวนเชื่อ
ทำให้เสื้อแดงกับทักษิณ เป็นคนเลวชนิดหาดีไม่ได้ ยึดเวทีจ้อข้างเดียว ตอกย้ำความเกลียดชัง ทุก ๆ วัน
นี่แหละ ทั้งหมดที่สื่อรัฐในเครือข่าย ทำมา
หรือจู่ ๆ จะคิดดีขึ้นมา หันมาทำรายการสร้างสรรค์ ให้คนไทย รักกัน เมตตาต่อกัน
แยกแยะ ดี-เลว ผิด-ถูก ด้วยเหตุ ด้วยผล ไม่ใช่ด้วยอารมณ์ ความรู้สึก หรือ สีเสื้อ อย่างที่ผ่านมา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ขออนุโมทนายกมือสาธุท่วมหัว เลย
ไหน ๆ พรุ่งนี้ ก็เป็น วันมาฆบูชา วันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม โอวาทปาติโมกข์ ให้มนุษย์ละความชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม และ ทำจิตใจให้ผ่องใส
ถ้า นายกรัฐมนตรี รมต.คุมสื่อ โฆษกรัฐบาล ในฐานะผู้นำสังคม ที่จะต้องเสียสละ ทำตัวเป็นแบบอย่างมากกว่าคนอื่น จะหันมาหาธรรมะข้อ
เมตตา (อยากให้เขามีความสุข) กรุณา (อยากช่วยให้เขาพ้นทุกข์) มุทิตา (ยินดีเมื่อเห็นเขาได้ดี) อุเบกขา (พิจารณาสิ่งรอบตัว ด้วยใจนิ่ง ด้วยเหตุ และผล ด้วยความเป็นธรรม) ให้มาก ๆ
ไม่เอาแต่จ้องล้มล้างศัตรูทุกลมหายใจ บ้านเมืองจะดีกว่านี้แน่
ความชิงชังที่คุกคามคนไทยอยู่ ไม่สามารถดับได้ด้วยการล้างแค้น หรือ จ้องทำลายล้างให้ตายไปข้างได้หรอก มีแต่ต้องดับด้วย คำสอนของพระพุทธองค์ นี่แหละ
ศาสนาพุทธนั้น คือ โอสถวิเศษ ที่จะรักษาแผลใจให้คนไทยทั้งปวง อยู่ที่จะจริงใจทำหรือเปล่า เท่านั้น.
ดาวประกายพรึก