'3 คดี 3 ฝ่าย' บนพื้นฐาน 'ยุติธรรม'
แม้ชีพจรการเมืองไทยยามนี้จะมีจุดลุ้นระทึกอยู่ที่ “คดีทรัพย์ สิน 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ” ของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว โดยมีกลุ่ม นปช.-กลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเป้าจับตาด้วย แต่เมื่อมองข้ามช็อตไปก็จะพบว่ายังมีอีก 2 คดีสำคัญที่ก็เกี่ยวข้องกับการเมืองไทย นั่นคือ “คดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท” ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตอนนี้หัวหน้าพรรค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอยู่ และ “คดียึดสนามบิน” โดย กลุ่มพันธมิตรฯ-คนเสื้อเหลือง ซึ่งคดีของ 2 ฝ่ายหลังนี้ก็ไม่ธรรมดา
“3 คดี 3 ฝ่าย” ล้วนแต่มีนัยสำคัญในทางการเมือง
ถ้าเมืองไทยมีฝ่ายที่ 4 ที่ 5 ก็อาจกำลังลุ้นกินรวบ ??
“คดีทรัพย์สิน 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ” คดีที่อดีตนายกฯทักษิณเจอข้อกล่าวหานั้น สรุปหลักใหญ่ใจความในโค้งสุดท้ายนี้อีกครั้งคือ... มีการยื่นฟ้องให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ด้วยข้อกล่าวหาว่าได้มาโดยการกระทำที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคล และประโยชน์ส่วนรวม หรือผลประโยชน์ทับซ้อน
คดีนี้ทางฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาได้ต่อสู้คดีโดยมีประเด็นสำคัญ เช่น... ในคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งเกิดขึ้นหลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 และไต่สวนทรัพย์สินก้อนนี้ มีบุคคลซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับอดีตนายกฯทักษิณมาก่อน มีบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์และเป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมายในการปฏิบัติหน้าที่นี้ มีกระบวนการไต่สวนไม่เป็นกลาง ไม่ชอบธรรม มีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทรัพย์สินที่ถูกอายัดเข้ากระบวนการทางคดี ส่วนหนึ่งมีมาตั้งแต่อดีตนายกฯ ทักษิณยังไม่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และภายหลังได้โอนเป็นของคนในครอบครัวซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นชินคอร์ปแล้ว ตามกฎหมาย ป.ป.ช.
ที่สุดแล้วคดีนี้จะสรุปอย่างไร ? ก็อยู่ที่คำพิพากษา ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันที่ 26 ก.พ. 2553 ซึ่งย่อมต้องเป็นไปบนพื้นฐานกระบวนการ “ยุติธรรม”
อย่างไรก็ตาม ว่ากันทางโหราศาสตร์เกี่ยวกับดวงการเมืองไทยระยะนี้ อ.เก่งกาจ จงใจพระ ทายทักไว้ว่า... ดวงชะตาอดีตนายกฯ ทักษิณนั้น ช่วงนี้มีเกณฑ์บ่งชี้ในทาง “ทรัพย์สมบัติวิบัติ ทรัพย์สินมีอันเป็นไป”
และข้ามช็อตไปดู “คดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท” ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถ้ามีการทำผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง จะถูก “ยุบพรรค” และวันก่อนก็มีรายงานข่าวจากทาง กกต.ว่าวันที่ 23-24 ก.พ.นี้ คณะทำงานที่นายทะเบียนพรรคการเมืองตั้งขึ้นจะมีการประชุมพิจารณาระบบบัญชีพรรค และให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล
กับคดีนี้ ล่าสุด อ.เก่งกาจวิเคราะห์ดวงพรรคประชาธิปัตย์ แล้วบอกว่า... ในยุคอดีตหลังมีการยุบพรรคการเมืองทั้งหมด แล้วให้มีการจดทะเบียนพรรคใหม่ในปี 2525 พรรคประชาธิปัตย์ได้จดทะเบียนพรรคอีกครั้งเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2525 ตรงกับวันศุกร์ แรม 5 ค่ำ เดือน 7 ปีจอ จ.ศ. 1344 มีลัคนาอยู่ในราศีกันย์เหมือนตอนจดทะเบียนครั้งแรก และมีดาวอังคารเป็นมหาจักรกุมลัคน์ในราศีกันย์ร่วมกับดาวเสาร์ มีดาวศุกร์เป็นประในราศีเมษเหมือนเดิม ดาวศุกร์เป็นดาวบริวารอยู่ในภพการเงินไปสถิตอยู่ในภพมรณะของราศีกันย์
“มีความหมายว่าบริวารพรรคจะมรณะเกี่ยวกับเรื่องการเงิน รัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์จะมีรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่ง 3 คน เพราะเรื่องการเงิน ซึ่ง ช่วงนี้ดวงพรรคมีปัญหามาก เพราะถูกดาวเสาร์โคจรทับลัคน์ และถูกดาวมฤตยูจากภพอริมาเล็งอยู่ในราศีมีน แต่อาศัยที่ดวงพรรคมีดาวเสาร์ อังคาร กุมลัคน์อยู่ในราศีกันย์ จึงได้ดีจากสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง ดูตามดวงพรรค การยุบพรรคคงยังไม่เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้นี้ เพราะจะมีเหตุการณ์อื่นเข้ามาแทรกทำให้พรรคอยู่รอดต่อไปได้” ...อ.เก่งกาจพยากรณ์
พร้อมทั้งยังบอกด้วยว่า... “ก็สรุปได้ว่าสถานการณ์ระยะนี้ รัฐบาลที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจะยังสามารถฟันฝ่าวิกฤติทางการเมืองไปได้อีกระยะ จนกว่าจะล่วงเข้าปลายปี ถึงช่วงนั้นแหละจึงจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ที่เกี่ยวโยงกับพรรคประชาธิปัตย์”
หันไปดูที่ “คดียึดสนามบิน” โดยกลุ่มพันธมิตรฯ-กลุ่มคนเสื้อเหลือง ซึ่งมีข้อหาที่ร้ายแรงที่สุดคือ “ก่อการร้าย” คดีนี้ อ.เก่งกาจทายทักว่า... ดวงของพันธมิตรฯ-สีเหลือง ราศีธนู ถูกราหูกุม ช่วงนี้ดาวพฤหัสบดีเจ้าเรือนราศีธนูโคจรอยู่ในราศีกุมภ์ ร่วมกับดาวเนปจูน สีเหลืองจะถูกตามบี้เรื่องคดี มีการกดดันรัฐบาลให้เร่งคดีที่ค้างคา อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้พันธมิตรฯก็ยังมีดาวอาทิตย์คู่มิตร เป็นตัวช่วยอยู่
“พอหลัง 26 เม.ย. ดาวพฤหัสบดีย้ายเข้าราศีมีนเรือนเกษตรดาวเนปจูน และถูกดาวมฤตยูกุม มีดาวเสาร์เล็ง ไปจนถึงสิ้นปี 2553 สีเหลืองจะเริ่มมีปัญหารุมเร้าหนัก” ...อ.เก่งกาจระบุ และย้ำทิ้งท้ายถึงภาพรวมดวงการเมืองช่วงปลายปีนี้ว่า... “ต้องระวังการเผชิญหน้า ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ?”
ว่ากันในเรื่องของดวงนั้น...ใครจะเชื่อก็ได้-จะไม่เชื่อก็ได้
แต่เรื่อง “ความยุติธรรม” ต้องมี-ต้องเชื่อ...เพื่อสันติสุข
เพื่อ “ปิดยุคบ้านเมืองปั่นป่วน” จากอคติ...สุดโต่ง !!!.
แม้ชีพจรการเมืองไทยยามนี้จะมีจุดลุ้นระทึกอยู่ที่ “คดีทรัพย์ สิน 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ” ของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว โดยมีกลุ่ม นปช.-กลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเป้าจับตาด้วย แต่เมื่อมองข้ามช็อตไปก็จะพบว่ายังมีอีก 2 คดีสำคัญที่ก็เกี่ยวข้องกับการเมืองไทย นั่นคือ “คดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท” ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตอนนี้หัวหน้าพรรค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอยู่ และ “คดียึดสนามบิน” โดย กลุ่มพันธมิตรฯ-คนเสื้อเหลือง ซึ่งคดีของ 2 ฝ่ายหลังนี้ก็ไม่ธรรมดา
“3 คดี 3 ฝ่าย” ล้วนแต่มีนัยสำคัญในทางการเมือง
ถ้าเมืองไทยมีฝ่ายที่ 4 ที่ 5 ก็อาจกำลังลุ้นกินรวบ ??
“คดีทรัพย์สิน 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ” คดีที่อดีตนายกฯทักษิณเจอข้อกล่าวหานั้น สรุปหลักใหญ่ใจความในโค้งสุดท้ายนี้อีกครั้งคือ... มีการยื่นฟ้องให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ด้วยข้อกล่าวหาว่าได้มาโดยการกระทำที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคล และประโยชน์ส่วนรวม หรือผลประโยชน์ทับซ้อน
คดีนี้ทางฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาได้ต่อสู้คดีโดยมีประเด็นสำคัญ เช่น... ในคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งเกิดขึ้นหลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 และไต่สวนทรัพย์สินก้อนนี้ มีบุคคลซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับอดีตนายกฯทักษิณมาก่อน มีบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์และเป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมายในการปฏิบัติหน้าที่นี้ มีกระบวนการไต่สวนไม่เป็นกลาง ไม่ชอบธรรม มีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทรัพย์สินที่ถูกอายัดเข้ากระบวนการทางคดี ส่วนหนึ่งมีมาตั้งแต่อดีตนายกฯ ทักษิณยังไม่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และภายหลังได้โอนเป็นของคนในครอบครัวซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นชินคอร์ปแล้ว ตามกฎหมาย ป.ป.ช.
ที่สุดแล้วคดีนี้จะสรุปอย่างไร ? ก็อยู่ที่คำพิพากษา ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันที่ 26 ก.พ. 2553 ซึ่งย่อมต้องเป็นไปบนพื้นฐานกระบวนการ “ยุติธรรม”
อย่างไรก็ตาม ว่ากันทางโหราศาสตร์เกี่ยวกับดวงการเมืองไทยระยะนี้ อ.เก่งกาจ จงใจพระ ทายทักไว้ว่า... ดวงชะตาอดีตนายกฯ ทักษิณนั้น ช่วงนี้มีเกณฑ์บ่งชี้ในทาง “ทรัพย์สมบัติวิบัติ ทรัพย์สินมีอันเป็นไป”
และข้ามช็อตไปดู “คดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท” ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถ้ามีการทำผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง จะถูก “ยุบพรรค” และวันก่อนก็มีรายงานข่าวจากทาง กกต.ว่าวันที่ 23-24 ก.พ.นี้ คณะทำงานที่นายทะเบียนพรรคการเมืองตั้งขึ้นจะมีการประชุมพิจารณาระบบบัญชีพรรค และให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล
กับคดีนี้ ล่าสุด อ.เก่งกาจวิเคราะห์ดวงพรรคประชาธิปัตย์ แล้วบอกว่า... ในยุคอดีตหลังมีการยุบพรรคการเมืองทั้งหมด แล้วให้มีการจดทะเบียนพรรคใหม่ในปี 2525 พรรคประชาธิปัตย์ได้จดทะเบียนพรรคอีกครั้งเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2525 ตรงกับวันศุกร์ แรม 5 ค่ำ เดือน 7 ปีจอ จ.ศ. 1344 มีลัคนาอยู่ในราศีกันย์เหมือนตอนจดทะเบียนครั้งแรก และมีดาวอังคารเป็นมหาจักรกุมลัคน์ในราศีกันย์ร่วมกับดาวเสาร์ มีดาวศุกร์เป็นประในราศีเมษเหมือนเดิม ดาวศุกร์เป็นดาวบริวารอยู่ในภพการเงินไปสถิตอยู่ในภพมรณะของราศีกันย์
“มีความหมายว่าบริวารพรรคจะมรณะเกี่ยวกับเรื่องการเงิน รัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์จะมีรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่ง 3 คน เพราะเรื่องการเงิน ซึ่ง ช่วงนี้ดวงพรรคมีปัญหามาก เพราะถูกดาวเสาร์โคจรทับลัคน์ และถูกดาวมฤตยูจากภพอริมาเล็งอยู่ในราศีมีน แต่อาศัยที่ดวงพรรคมีดาวเสาร์ อังคาร กุมลัคน์อยู่ในราศีกันย์ จึงได้ดีจากสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง ดูตามดวงพรรค การยุบพรรคคงยังไม่เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้นี้ เพราะจะมีเหตุการณ์อื่นเข้ามาแทรกทำให้พรรคอยู่รอดต่อไปได้” ...อ.เก่งกาจพยากรณ์
พร้อมทั้งยังบอกด้วยว่า... “ก็สรุปได้ว่าสถานการณ์ระยะนี้ รัฐบาลที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจะยังสามารถฟันฝ่าวิกฤติทางการเมืองไปได้อีกระยะ จนกว่าจะล่วงเข้าปลายปี ถึงช่วงนั้นแหละจึงจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ที่เกี่ยวโยงกับพรรคประชาธิปัตย์”
หันไปดูที่ “คดียึดสนามบิน” โดยกลุ่มพันธมิตรฯ-กลุ่มคนเสื้อเหลือง ซึ่งมีข้อหาที่ร้ายแรงที่สุดคือ “ก่อการร้าย” คดีนี้ อ.เก่งกาจทายทักว่า... ดวงของพันธมิตรฯ-สีเหลือง ราศีธนู ถูกราหูกุม ช่วงนี้ดาวพฤหัสบดีเจ้าเรือนราศีธนูโคจรอยู่ในราศีกุมภ์ ร่วมกับดาวเนปจูน สีเหลืองจะถูกตามบี้เรื่องคดี มีการกดดันรัฐบาลให้เร่งคดีที่ค้างคา อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้พันธมิตรฯก็ยังมีดาวอาทิตย์คู่มิตร เป็นตัวช่วยอยู่
“พอหลัง 26 เม.ย. ดาวพฤหัสบดีย้ายเข้าราศีมีนเรือนเกษตรดาวเนปจูน และถูกดาวมฤตยูกุม มีดาวเสาร์เล็ง ไปจนถึงสิ้นปี 2553 สีเหลืองจะเริ่มมีปัญหารุมเร้าหนัก” ...อ.เก่งกาจระบุ และย้ำทิ้งท้ายถึงภาพรวมดวงการเมืองช่วงปลายปีนี้ว่า... “ต้องระวังการเผชิญหน้า ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ?”
ว่ากันในเรื่องของดวงนั้น...ใครจะเชื่อก็ได้-จะไม่เชื่อก็ได้
แต่เรื่อง “ความยุติธรรม” ต้องมี-ต้องเชื่อ...เพื่อสันติสุข
เพื่อ “ปิดยุคบ้านเมืองปั่นป่วน” จากอคติ...สุดโต่ง !!!.
