ตำรวจยืนตรึงพื้นที่อีก1สัปดาห์
พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า หลังจากศาลพิพากษาคดีแล้วเหตุการณ์ก็เรียบร้อยดี กลุ่มแดงสยามที่ชุมนุมอยู่สนามหลวงสลายตัวไปแล้ว ตำรวจตั้งด่านตามปกติ และตำรวจที่อยู่รอบศาลฎีกายังคงกำลังไว้เหมือนเดิมอีกสัก 1 สัปดาห์ รอดูจนเหตุการณ์คลี่คลายตำรวจจะได้ไปจับช่วยจับโจรผู้ร้ายให้มากกว่าเดิม
"คำพิพากษาของศาลชัดเจน น่าจะทำให้คนกลุ่มที่รักความยุติธรรมเข้าใจ มั่นใจว่าสถานการณ์ต่อไปไม่น่าจะรุนแรง ขณะนี้ยังมีความจำเป็นต้องวางกำลังตำรวจไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะมีมือที่สามหรือพวกโรคจิตมาก่อกวนหรือไม่ ถ้าตัดโอกาสคนพวกนี้ เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเดินหน้าไปได้ ขอวิงวอนพี่น้องช่วยกันจับมือกันช่วยกันสร้างชาติอย่าทำร้ายประเทศชาติอีกเลย เห็นหลายคนพูดทางทีวีแล้วไม่สบายใจบางท่านพูดแล้วเหมือนไม่รักชาติ" ผบช.น.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการรับมือกับการระดมรถกระบะจำนวนมากเข้ากรุงเทพฯ พล.ต.ท.สัณฐานกล่าวว่า ได้เตรียมการไว้แล้วว่าถ้ามีการนำเข้ามาจริง สน.ต่างๆ ต้องทำอย่างไร ไม่ว่าจะมีรถเป็นแสนคันต้องแก้ไขให้กลับสู่สภาพปกติให้ได้ไม่ได้ประมาท รวมถึงการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มีนาคมนี้
ได้นำข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ซึ่งตรัสว่า ทำอะไรก็แล้วแต่ต้องคิดถึงภาพรวมของประเทศ ทุกภารกิจทุกงานมีปัญหาทั้งนั้น ต้องทำให้ปัญหาที่มีมากน้อยลงจนไม่มี ถ้าทุกคนคิดถึงในภาพรวมแล้วประเทศชาติก็จะมั่นคงและเจริญ" ผบช.น.กล่าว
"ชาวสันกำแพง"แต่งดำตาม"แม้ว"
วันเดียวกันที่ ที่ตลาดสด อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาสค่อนข้างเงียบเหงา กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ให้การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างพากันสวมเสื้อสีดำตามคำขอของ พ.ต.ท.ทักษิณ หลังศาลตัดสินยึดทรัพย์กว่า 4.6 หมื่นล้านบาท โดยนางน้อย อุดมศรี ประธานกลุ่มแดงสันกำแพง กล่าวว่า ไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรดีกับคำตัดสิน แต่ดีกว่าตัดสินยึดทรัพย์สินทั้งหมด ยังเหลือไว้ให้ใช้บ้าง แม้ว่าตนจะรู้สึกเสียใจไปด้วยแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร นอกจากยืนยันคำเดิมว่าจะต้องสู้กันต่อไปไม่ยอมหยุดง่ายๆ
ขณะที่กลุ่มญาติพี่น้องในตระกูลชินวัตรที่ อ.สันกำแพง นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ นอกจากการร่วมสวมเสื้อสีดำ โดยร้านชินวัตรพาณิชย์ยังคงเปิดจำหน่ายผ้าไหมตามปกติ ซึ่งญาติระบุว่าทำใจกับเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ไม่ต้องการให้ข่าวหรือแสดงความเห็นใดๆ
นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกล่าวผ่านรายการวิทยุเชิญชวนสมาชิกให้เตรียมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ พร้อมทั้งกล่าวโจมตีการทำงานของผู้พิพากษาอย่างต่อเนื่อง
ใช้หลักสูตรนักรบทุ่งสัมฤทธิ์ฝึกการ์ด
นายสมโภชน์ ประสาทไทย หัวหน้าศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกเล่นงานกลั่นแกล้งมาโดยตลอด กลุ่มคนเสื้อแดงจะต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องหาความเป็นธรรมและเรียกร้องระบอบประชาธิปไตยให้กลับมาสู่สังคมไทยโดยเร็ว ซึ่งการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงจะเริ่มจากรากหญ้ากดดันทุกรูปแบบ จนกว่าจะได้รับชัยชนะและประชาชนได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา
ร.อ.สุพจน์ เมืองครุฑ ประธานการ์ด นปช.โคราชนักรบทุ่งสัมฤทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องออกมารวมกลุ่ม เพราะอาจจะเป็นเครื่องมือให้กลุ่มไม่หวังดีนำมาสร้างสถานการณ์ได้ ก่อนหน้านี้ได้นัดหมายรวมกลุ่มเคลื่อนมวลชนเข้าสู่กรุงเทพฯ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ แกนนำสายกรุงเทพฯแจ้งระงับด่วน เนื่องจากความไม่พร้อมบางประการ ตนซึ่งมีประสบการณ์เป็นครูฝึกอาสาสมัครทหารพรานค่ายปักธงชัย จะประสานงานไปยังแกนนำในแต่ละพื้นที่ เพื่อระดมชายฉกรรจ์ และอดีตอาสาสมัครทหารพราน มาเข้ารับการฝึกทบทวน ในการทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่ม นปช. โดยเป็นหลักสูตรนักรบทุ่งสัมฤทธิ์
"ขณะนี้สามารถระดมรถปิคอัพได้มากกว่า 500 คัน ในเขต 2 อำเภอ คือ อ.ปักธงชัย และ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ที่เป็นการนัดหมายเในวันที่ 12 มีนาคม โดยจะรวมพลกันที่ จ.นครราชสีมา ก่อนที่ริมถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว และ อ.ปากช่อง" ร.อ.สุพจน์กล่าว
นปช.ขอนแก่น-พะเยาเตรียมพร้อม
ที่สถานีวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงขอนแก่น ถนนประชาสโมสร แกนนำ นปช.ขอนแก่น อาทิ นายธนิก มาสีพิทักษ์ นายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และนางมุกดา พงษ์สมบัติ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย และดีเจคนเสื้อแดง ร่วมประชุมเตรียมเคลื่อนไหวใหญ่หลังศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายธนิกกล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่นและหลายจังหวัดของภาคอีสานจะยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ เพื่อต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย
พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงยังคงมีต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีท่าทีรุนแรงขณะนี้ได้สั่งการตามแผน กรกฎ 52 ให้กับตำรวจภูธรจังหวัดทั้ง 11 จังหวัดภาคอีสานตอนบน เตรียมกองร้อยชุดปราบจลาจลและควบคุมฝูงชนจังหวัดละ 2 กองร้อย รวม 22 กองร้อย ตามแผนสันติ 53 รวมไปถึงทีมเจรจาต่อรอง
นายศิริวัฒน์ จุปะมัดถา ผู้ประสานงานแดงพะเยา กล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงใน จ.พะเยา จะเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯไม่น้อยกว่า 1,000 คน ด้วยรถกระบะไม่น้อยกว่า 100 คัน กำหนดเดินทางตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องการต่อสู้เพื่อแพ้หรือชนะ แต่เป็นการวัดความอดทนและความอึดระหว่างคนเสื้อแดงกับรัฐบาล เพราะเชื่อแน่ว่าจะสามารถกดดันให้รัฐบาลจะต้องลาออกหรือยุบสภาในที่สุด เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตย ต้องการให้ความยุติธรรมกลับคืนสู่แผ่นดินไทย ไม่มีสองมาตรฐานเหมือนขณะนี้
