บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

"ซีเอ็นเอ็น"เกาะข่าวตีแผ่ภูมิหลังทักษิณ คดียึดทรัพย์7.6หมื่นล้าน จ่อขึ้นแท่นเหมือนอดีตผู้นำรายอื่น

ที่มา มติชน


แดน รีเวอร์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้เขียนผ่านคอลัมน์ซีเอ็นเอ็นเวิลด์ ในเว็บไซต์ ซีเอ็นเอ็น โดย พาดหัวว่า “ทักษิณคือใคร” โดยให้ความเห็นว่า สำหรับคนเสื้อแดงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือ นายกรัฐมนตรีคนเดียวที่ให้คนยากจนในชนบทมีสิทธิมีเสียงและได้สิทธิประโยชน์อย่างแท้จริง แต่สำหรับคนเสื้อเหลืองแล้ว เขาเหมือนนายเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส อดีตผู้นำเผด็จการของฟิลิปปินส์ที่เต็มไปด้วยความโลภ ทำเพื่อตนเองและอันตราย


ทั้งนี้ แดน รีเวอร์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง ขณะที่นักวิจารณ์ชี้ว่า เขาใช้เงินซื้อเสียงสนับสนุนและยังข้องเกี่ยวกับการเมืองเพื่อตัวเองเท่านั้น

นอกจากนี้ ในเว็บไซต์ดังกล่าวยังให้ภูมิหลังของคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ว่า เกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นชินคอร์ป อย่างผิดกฎหมายให้ครอบครัวแล้วขายต่อให้เทมาเส็กของสิงคโปร์โดยไม่เสียภาษีรายได้ ศาลฎีกาจะตัดสินด้วยว่า รัฐบาลทักษิณดำเนินนโยบายที่เป็นประโยชน์แก่ธุรกิจของตนเองหรือไม่ ประกอบด้วยการให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่รัฐบาลพม่าแลกกับการซื้อดาวเทียมของชินคอร์ป การแก้กฎหมายภาษีที่เอื้อประโยชน์ชินคอร์ป และการแก้ไขกฎหมายดาวเทียมที่เอื้อประโยชน์ชินคอร์ป ด้านทนายจำเลยแก้ต่างว่า พ.ตท.ทักษิณ และอดีตภรรยาไม่เกี่ยวข้องกับหุ้นชินคอร์ป เพราะได้ขายให้แก่ลูก ๆ ซึ่งไปดำเนินการขายต่อเอง ทนายจำเลยระบุว่า การสอบสวนคดีนี้เป็นเรื่องทางการเมือง


ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานด้วยว่า สาเหตุที่ทางการไทยตามเอาเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ผู้นำคนอื่น ๆ ของไทยก็ถูกมองว่าทุจริตเป็นเพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของไทย ต้องการสร้างมาตรฐานว่าไม่มีใครสามารถอยู่เหนือกฎหมายได้ แต่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า คดีนี้ไม่ใช่แค่คดีการเมือง แต่เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ท้าทายกลุ่มการเมืองที่มีอำนาจมานาน

ซีเอ็นเอ็นรายงานด้วยว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกศาลประกาศยึดทรัพย์ เขาจะมีชะตากรรมเหมือนอดีตผู้นำไทยคนอื่น ๆ หลายคนที่เคยถูกยึดทรัพย์ นับตั้งแต่พ.ต.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และกลุ่มนักการเมืองในคณะรัฐบาล ซึ่งถูกยึดทรัพย์เป็นมูลค่า 1,600 ล้านบาท เมื่อปี 1991 จากการถูกรสช.ปฎิวัติยึดอำนาจ,จอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งถูกยึดทรัพย์จำนวน 434 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 1974,สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งถูกยึดทรัพย์ 604 ล้านดอลลาร์ ในปี 1964

ด้านสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ศาลฎีกาจะตัดสินว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้อำนาจมิชอบแสวงผลประโยชน์ให้แก่ตัวเองระหว่างดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โดยผู้พิพากษา 9 คน จะตัดสินว่าพฤติกรรมดังกล่าวมีหลักฐานหรือไม่ ซึ่งหากมี ศาลก็จะตัดสินยึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณเป็นจำนวนกว่า 76,000 ล้านบาท ขณะที่"แชนเนล นิวส์"ของฮ่องกง รายงานว่า คณะผู้พิพากษามีทางเลือกหลายทางที่จะตัดสินคดีนี้ คือ อาจยึดทรัพย์ทั้งหมด หรืออาจยึดทรัพย์เพียงบางส่วนของอดีตนายกฯไทยรายนี้

นอกจากนี้ บีบีซีรายงานด้วยว่า ทางการไทยยังได้วางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดบริเวณหน้าศาลฎีกา เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นจากกลุ่มม็อบเสื้อแดง

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker