เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 ก.พ. แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงข่าวโดยได้นัดกันแต่งกายชุดดำ อ้างว่าเพื่อไว้อาลัยต่อกระบวนการยุติธรรมไทยกรณีตัดสินคดียึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 1 ในแกนนำ กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดป่วนธนาคารกรุงเทพฯทั้ง 4 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า ยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มนปช. และขอตั้งข้อสังเกตการให้ข่าวของคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่ดูจะสอดคล้องกับเหตุการณ์ระเบิดทั้งหมด กลุ่มตนเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของรัฐบาลที่ต้องการดิสเครดิตกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อหาความชอบธรรมในการประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงเพื่อสกัดกั้นการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง นอกจากนี้ระเบิดที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นระเบิดเอ็ม 26 ซึ่งเป็นระเบิดที่ใช้เฉพาะกลุ่มทหารและตำรวจตระเวนชายแดน จึงน่าจะเป็นฝีมือของทหารและตำรวจมากกว่า
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมใหญ่ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 12 มี.ค. นั้น จะมีการจัดริ้วขบวนทั้งทางบกและทางน้ำ มีธงรบประจำภาคต่างๆทั่วทุกภาค ในส่วนของทางน้ำจะล่องเรือมาจากจ.อยุธยามาขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำท่าพระจันทร์
ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า เหตุระเบิดดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะไม่มีผลดีต่อพ.ต.ท.ทักษิณและเมื่อคำตัดสินออกมาแล้วก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ควรแสดงศักยภาพด้วยการต้องรีบจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว ถ้าทำไม่ได้ควรพิจารณาตัวเอง ลาออกไปเสียดีกว่า
ด้านพล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงกรณีมีการตั้งขอสังเกตุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งของกองทัพกับรัฐบาลและคนที่ปาระเบิดก็เป็นทหาร ว่า คงไม่ใช่ กองทัพเป็นหน่วยงานหนึ่งของรัฐบาล มีหน้าที่ปฎิบัติตามคำสั่งและนโยบายของรัฐ เป็นไปไม่ได้ที่กองทัพจะทำเช่นนั้น สังเกตุได้จากจุดเกิดเหตุที่ 2 ที่ ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนพระราม2 คนร้ายมีการถอดสลักระเบิด แต่ใช้เทปกาวพันสายไฟรัดกระเดื่ยงไว้ ทำให้ระเบิดไม่ทำงาน จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนร้ายไม่ได้มีความชำนาญหรือเชี่ยวชาญในการใช้ระเบิด เพราะถ้าเป็นฝีมือของทหารจะไม่ทำเช่นนั้น เพราะเขารู้ว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้วระเบิดจะไม่ทำงาน คนที่ออกมาพูดแบบนี้ต้องการที่จะสร้างกระแสให้เกิดความสับสนว่ากองทัพกับรัฐบาลมีความขัดแย้งกัน ซึ่งมันไม่ใช่