คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
จ่าบ้าน
ด้วยเหตุที่กองทัพยังเป็นความจำเป็นของประเทศ เนื่องจากประเทศต้องการความสงบสุขสันติให้บังเกิดกับพลเมืองของประเทศ ดังนั้น การรักษาความสงบสุขสันติให้ได้ ก็ต้อง ไม่ให้ใครเข้ามารุกรานรุกล้ำอธิปไตยจึงจำเป็นต้องมีกองทัพเอาไว้ป้องกันและ รักษาเขตแดน
โดยเฉพาะกรณีของประเทศที่มีเขตแดนใกล้ชิดติดกัน ซึ่งอาจมีเหตุเบาะแว้งกระทบกระทั่งกันได้ เว้นเสียแต่ว่า การกระทบกระทั่งบางประการไม่ได้เป็นภัย ต่อความมั่นคงและความสงบสุขสันติ หรือก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศทั้งสอง
เช่นกรณีกองทัพมดระหว่างชายแดนไทยกับมาเล เซีย ผิดกับกรณีปราสาทพระวิหาร
เมื่อก่อน โลกยังคุกรุ่นด้วยสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามแย่งดินแดน สงครามลัทธิ สงครามศาสนา หรือแม้แต่สงครามของชนเผ่า แต่ละประเทศจึงจำเป็นต้องมีกำลังทหารและอาวุธไว้ป้องกันตัวเอง
ตราบเมื่อโลกเข้าสู่ยุคแห่งผลประโยชน์ร่วมกัน การแย่งชิงผลประโยชน์ซึ่งกันและกันยุติได้ด้วยการเจรจา กำลังทหารของแต่ละประเทศจึงใช้น้อยลง แม้ แต่กำลังอาวุธก็เช่นเดียวกัน บางประเทศ เช่น สหรัฐ อเมริกากำลังทหารจะเพิ่มจำนวนขึ้นเมื่อมีสภาวะสง ครามเกิดขึ้น และจะลดลงเมื่อภาวะสงครามยุติ
เช่นเดียวกับประเทศไทย เมื่อความจำเป็นในการ ใช้กำลังทหารสู้รบลดลง กองทัพต้องหดตัวเล็กลง การใช้กำลังทหารไปในทางอื่น เช่น ไปพัฒนาประเทศ ไปให้ความช่วยเหลือประชาชนจึงต้องเพิ่มขึ้น อย่างน้อยเพื่อรักษากำลังทหารเอาไว้เผื่อว่ามีเหตุฉุกเฉินที่ ต้องการใช้กำลังทหาร ไม่ว่าจะเพื่อปราบปรามการจลาจลในเมือง หรือเพื่อป้องกันการบุกรุก หรือรุกรานจากประ เทศรอบบ้าน หรือส่งไปเป็น กำลังสำคัญขององค์การระหว่างประเทศ เพื่อปกป้องอธิปไตยของบางประเทศ ที่ถูกประเทศอื่นรุกราน
เพียงนายพลทหารคนหนึ่งลุกขึ้นมาบริภาษผู้บังคับบัญชาของตัวเอง ควรเป็นหน้าที่ของนายทหารพระธรรมนูญที่ต้องไปดำเนินการไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ทหารทั้งหลาย โดยเฉพาะบรรดาพลทหารที่ขณะนี้จำนวนไม่น้อยอาสาไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ
ไม่เห็นต้องกะเกณฑ์เพื่อนทหารด้วยกัน "ตบเท้า" ออกมาปกป้อง "นาย" ถึงขนาดนั้นเลย ครับผม
จ่าบ้าน
โดยเฉพาะกรณีของประเทศที่มีเขตแดนใกล้ชิดติดกัน ซึ่งอาจมีเหตุเบาะแว้งกระทบกระทั่งกันได้ เว้นเสียแต่ว่า การกระทบกระทั่งบางประการไม่ได้เป็นภัย ต่อความมั่นคงและความสงบสุขสันติ หรือก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศทั้งสอง
เช่นกรณีกองทัพมดระหว่างชายแดนไทยกับมาเล เซีย ผิดกับกรณีปราสาทพระวิหาร
เมื่อก่อน โลกยังคุกรุ่นด้วยสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามแย่งดินแดน สงครามลัทธิ สงครามศาสนา หรือแม้แต่สงครามของชนเผ่า แต่ละประเทศจึงจำเป็นต้องมีกำลังทหารและอาวุธไว้ป้องกันตัวเอง
ตราบเมื่อโลกเข้าสู่ยุคแห่งผลประโยชน์ร่วมกัน การแย่งชิงผลประโยชน์ซึ่งกันและกันยุติได้ด้วยการเจรจา กำลังทหารของแต่ละประเทศจึงใช้น้อยลง แม้ แต่กำลังอาวุธก็เช่นเดียวกัน บางประเทศ เช่น สหรัฐ อเมริกากำลังทหารจะเพิ่มจำนวนขึ้นเมื่อมีสภาวะสง ครามเกิดขึ้น และจะลดลงเมื่อภาวะสงครามยุติ
เช่นเดียวกับประเทศไทย เมื่อความจำเป็นในการ ใช้กำลังทหารสู้รบลดลง กองทัพต้องหดตัวเล็กลง การใช้กำลังทหารไปในทางอื่น เช่น ไปพัฒนาประเทศ ไปให้ความช่วยเหลือประชาชนจึงต้องเพิ่มขึ้น อย่างน้อยเพื่อรักษากำลังทหารเอาไว้เผื่อว่ามีเหตุฉุกเฉินที่ ต้องการใช้กำลังทหาร ไม่ว่าจะเพื่อปราบปรามการจลาจลในเมือง หรือเพื่อป้องกันการบุกรุก หรือรุกรานจากประ เทศรอบบ้าน หรือส่งไปเป็น กำลังสำคัญขององค์การระหว่างประเทศ เพื่อปกป้องอธิปไตยของบางประเทศ ที่ถูกประเทศอื่นรุกราน
เพียงนายพลทหารคนหนึ่งลุกขึ้นมาบริภาษผู้บังคับบัญชาของตัวเอง ควรเป็นหน้าที่ของนายทหารพระธรรมนูญที่ต้องไปดำเนินการไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ทหารทั้งหลาย โดยเฉพาะบรรดาพลทหารที่ขณะนี้จำนวนไม่น้อยอาสาไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ
ไม่เห็นต้องกะเกณฑ์เพื่อนทหารด้วยกัน "ตบเท้า" ออกมาปกป้อง "นาย" ถึงขนาดนั้นเลย ครับผม