บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2551

เปรม ลืม บักใส ตอบสื่อหน้าตาเฉย ไม่เกี่ยวปล้นประชาธิปไตย19ก.ย.

จับตา พล.อ.เปรม เดินสายอีกแล้ว ล่าสุด เพิ่งยอมเอื้อนเอ่ยคุยกับสื่อ ปัดไม่ได้ยุ่งเกี่ยวปล้นประชาธิปไตย 19 ก.ย. สื่อคิดไปเอง สงสัยลืม “บัก สุริยะใส” เคยหย่ามใจให้สัมภาษณ์หลังยึดอำนาจเสร็จใหม่ๆ นั่งบัญชาการเองที่บ้านสี่เสาฯ

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วง 1-2 สัมปาดาห์ที่ผ่านมานี้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษอาวุโส เริ่มปรากฎกายออกงานครั้งขึ้น หลังจากหายเงียบไประยะหนึ่ง ดดยล่าสุด พล.อ.เปรม ได้ออกมายืนยันกับนักข่าวว่า ไม่ได้หายไปไหน และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติรัฐประหารที่ผ่านมา สื่อคิดกันไปเอง

โดยพล.อ.เปรม ให้สัมภาษณ์ ภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ “สานใจไทยสู่ใจใต้” รุ่นที่ 8 ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดี ถึงกรณีที่รัฐบาลกำลังผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่ขอตอบ เพราะมีความรู้ในเรื่องนี้น้อยมาก ส่วนที่ผ่านมาหลายคนเป็นห่วง ว่า พล.อ.เปรม หายไปไหน พล.อ.เปรม กล่าวว่า ไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ทุกวัน แต่อยู่เงียบๆ ตามปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ที่การเมืองเปลี่ยนขั้ว และอาจเกิดผลกระทบต่อตัวเอง เพราะถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร พล.อ.เปรม กล่าวว่า “พวกคุณคิดกันไปเอง ผมไม่ได้ไปทำอะไร” เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติรัฐประหารใช่หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวน่าจะรู้ดีว่า ตนไม่เกี่ยวข้อง ทุกคนต้องรู้อย่างนั้น ว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้อง

“ผมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง หรือเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับการเมือง” พล.อ.เปรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ว่าคนจะเข้าใจผิด และถูกเช็คบิลภายหลัง พล.อ.เปรม ได้แต่ยิ้ม ไม่ตอบคำถาม จากนั้นก็ไม่ยอมตอบคำถามอื่น ๆ ของผู้สื่อข่าวอีก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม คำกล่าวไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการยึดอำนาจเมื่อ 19 ก.ย. 49 ที่ผ่านมานั้น ขัดแย้งกับการให้สัมภาษณ์ของ นายสุริยะใส กตะศิลา หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีส่วนรวมต่อการก่อการครั้งนั้น ในนิตยสาร IMAGE ฉบับเดือนธันวาคม 2549 โดยตอนหนึ่งผู้สัมภาษณ์ตั้งคำถามต่อนายสุริยะใสว่า มองบทบาทของพลเอกเปรมอย่างไรบ้าง นายสุริยะใส ตอบว่า

“พลเอกเปรม เป็นสัญลักษณ์ของระบอบอำมาตยาธิปไตย จริงๆ ระบอบนี้ไม่ได้หายไปจากสังคมไทย แม้จะมีรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ก็ตาม ถ้าเราดูบทบาทของพลเอกเปรม ก็จะเห็นชัด เพียงแต่พื้นที่ของระบอบนี้คับแคบลงในระดับหนึ่ง เพราะการเติบโตของพื้นที่ภาคประชาชนที่มากขึ้น ซึ่งเป็นการท้าทายระบอบนี้โดยตรง ขณะเดียวกันระบอบอำมาตยาธิปไตย ก็ถูกท้าทายจากทุนใหม่ ซึ่งเป็นพลังที่พาคุณทักษิณขึ้นสู่อำนาจ”

“เราอาจจะพูดว่าระบอบศักดินายืมพลังจากประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณหรือทุนใหม่ก็เป็นไปได้ แต่ผมคิดว่าพลเอกเปรม ไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของการคงอยู่ของระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบ ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีพลเอกเปรมแล้วระบอบประชาธิปไตยจะเต็มใบ แต่เป็นสัญลักษณ์ของฝ่ายอำนาจนิยมหรือระบอบอำมาตยาธิปไตยที่ยังมีพื้นที่ที่แน่นนอนในสังคมการเมืองไทย”

“วันนี้ ก็เห็นโดยพฤตินัยได้อย่างชัดเจนว่า พลเอกเปรม ใช้อำนาจนั้นผ่าน คปค. ท่านนั่งบัญชาการอยู่ที่บ้านสี่เสาฯ และไม่มีใครคิดว่าท่านจะกล้าทำ หรือไม่มีใครคิดตอนที่นั่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ว่า การรัฐประหารครั้งนี้องคมนตรี จะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเปิดเผยขนาดนี้ “

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker