บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2551

เกาะกระแสปรับย้าย"รองผบ.ตร.-ผบช." "เพรียวพันธ์-ชลอ"แบเบอร์กลับสำนักสีกากี จับตา"นรต.26"เครือข่าย"ทักษิณ"ผงาด



"จะย้ายอีกมากในวันที่ 2 เมษายนนี้ จะย้ายอีกกระบิใหญ่ การโยกย้ายข้าราชการของรัฐบาลทำด้วยเหตุผลที่เหมาะสมและตอบคำถามได้" นี่คือเนื้อหาบางตอนที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอบกระทู้ ในสภาผู้แทนราษฎร

ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ฝ่ายค้าน ถามกรณีที่มีคำสั่งให้นายตำรวจ สังกัด กองบัญชาการตำรวจสันติบาล 2 นาย ที่ทำคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จังหวัดเชียงราย ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้าจังหวัดยะลา (ศปก.ตร.สน.) เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา

พลันที่เนื้อหาการตอบกระทู้ของนายสมัคร แพร่สะพัดออกไป ได้สร้างความหวาดผวาให้ข้าราชการระดับ "บิ๊ก" ในกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ที่แจ้งเกิดในยุครัฐบาลใต้ร่มเงา ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เป็นอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะใน "สำนักปทุมวัน" บรรดาเหล่าสีกากีต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการแต่งตั้งโยกย้ายว่าคงเกิดขึ้นช่วงต้นเดือนเมษายนอย่างแน่นอน

เพราะสอดรับกับที่คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. ไฟเขียวอนุมัติให้เปิดตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ฝ่ายบริหาร และผู้ช่วย ผบ.ตร.ฝ่ายบริหาร เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา

จึงเป็นไปได้สูงยิ่งที่ นายสมัคร จะใช้โอกาสนี้ตั้ง รอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร. คนใหม่ แล้วปรับย้ายตำแหน่งนายพลตำรวจระดับต่างๆ ไปพร้อมๆ กัน

ดังนั้นการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ชาวยุทธจักรสีกากี ต่างจับตามองเป็นพิเศษว่า จะเกิดขบวนการย้ายล้างบางนายตำรวจที่ผงาดในยุครัฐบาลใต้ร่ม คมช.ที่คุมกองบัญชาการ (บช.) หลักหรือไม่ ?

อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่มีการส่งสัญญาณให้จัดโผโยกย้ายจาก นายสมัคร ถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ก็ตาม

แต่ปรากฏการณ์การวิ่งเต้นเข้าหาขั้วอำนาจทางการเมือง เพื่อป้องกันตำแหน่งหรือต้องการตำแหน่งใน บช.หลักของ "ผู้บัญชาการ" บางคนได้เกิดขึ้นแล้วใน "สำนักปทุมวัน"





ดังนั้นเมื่อโฟกัสถึงการแต่งตั้งโยกย้ายที่จะมีขึ้นช่วงต้นเดือนเมษายน

จึงมีการคาดหมายกันว่า ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.ฝ่ายบริหาร ที่เปิดใหม่ คงจะตกเป็นของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชาย คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกเผด็จการทหารทำรัฐประหารโค่นรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เด้งไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ตำแหน่ง "ผู้ช่วย ผบ.ตร.ฝ่ายบริหาร" คงตกเป็นของ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 26 (นรต.26) เพื่อนร่วมรุ่น พ.ต.ท.ทักษิณ ที่โดนชะตากรรมเดียวกับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ถูกเด้งไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ซึ่งทั้งสองได้ทำหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เพื่อขอกลับเข้ารับราชการตำรวจเรียบร้อยแล้ว

ส่วนตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.หรือ ผู้ช่วย ผบ.ตร.คนอื่นๆ คงไม่มีการเปลี่ยนแปลง

แต่ตำแหน่งที่ชาวสีกากีจับตาและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือตำแหน่ง "ผบช."

เพราะเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนงานต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม รวมทั้งสร้างผลงานให้กับรัฐบาลได้ด้วย

ดังนั้นเมื่อโฟกัสถึง ตำแหน่ง "ผบช." หลัก

ก็มีกระแสข่าวสะพัดสนั่นสำนักปทุมวันว่าตำแหน่งที่จะปรับเปลี่ยนคือตำแหน่ง "ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง" (ผบช.ก.) ที่ พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ คนใกล้ชิด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ครองอยู่ อาจจะถูกขยับไปตำแหน่ง "ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร."

แล้วโยก "พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง" ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) นรต.30 มานั่งแทน

ขณะเดียวกันมีข่าวสะพัดว่า พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.อดีตลูกหม้อนครบาล ซึ่งขยับติดยศ พล.ต.ท.ในการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2550 อาจจะมานั่งแทน

อย่างไรก็ตาม สำหรับ "อัศวิน" มีข่าวบางกระแสระบุว่ามีโอกาสสูงที่จะครองเก้าอี้ "เจ้าพ่อนครบาล" ไปในการปรับย้ายตามฤดูกาล





ส่วนตำแหน่ง "ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล" (ผบช.ส.) ที่ พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ คนใกล้ชิด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ครองอยู่ อาจจะถูกย้ายไปเป็น "ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร." แล้วโยก พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จเรตำรวจ (สบ 8) นรต. 31 ซึ่งใกล้ชิดกับ พล.ต.อ.พัชรวาท มานั่งแทน

ในส่วนระดับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 (บช.ภ.1-9) โอกาสที่ ผบช.จะถูกปรับย้ายที่น่าจับตาเป็นพิเศษ อาทิ พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) ที่ค่อนข้างจะแนบแน่นกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บางคน

พล.ต.ท.เจตนากร นภีตะภัฎ ผบช.ภ.2 คู่เขย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ย้ายจาก ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.ไปเป็น ผบช.ภ.9 แล้วย้ายมานั่งพื้นที่ทอง ตำแหน่ง ผบช.ภ.2

ตามด้วย พล.ต.ท.บุญชอบ คงน้อย ผบช.ภ.4 นรต.24 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และมีสัมพันธ์แนบแน่นกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต ผบ.ตร. และอดีตที่ปรึกษา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต่อด้วย พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ ชูกิจคุณ ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ท.ปัญญา เทียนศาสตร์ ผบช.ภ.9 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์

ตามด้วย พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) อดีตโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมัย พล.ต.อ.ประชา เป็น ผบ.ตร. ซึ่งย้ายจากผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและสอบสวน ไปเป็น ผบช.สตม. เมื่อมีการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2550 โดยไปแทน พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ นรต.25 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.พัชรวาท ที่ถูก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ สั่งให้มาช่วยราชการที่สำนักงาน ผบ.ตร. ก่อนย้ายลงไปเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ทำหน้าที่ด้านอำนวยการและยุทธศาสตร์ ที่มีการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2550 เช่นกัน

ส่วนระดับ ผู้บังคับการ ที่อาจจะถูกปรับเปลี่ยน อาทิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ผู้บังคับการตำรวจจราจร ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เป็นอาทิ

ขณะเดียวกันนายตำรวจที่น่าจับตามอง คือนายตำรวจที่ถูกกระทำยุครัฐประหารอาจกลับมาผงาดอีกครั้ง

ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อน พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้ง พล.ต.ท.วุฒิ วิทิตานนท์ อดีต ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล อดีต ผบช.สตม. พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ อดีต ผบช.ภ. 7 พล.ต.ท.ถาวร จันทร์ยิ้ม อดีต ผบช.ส. พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว อดีต ผบช.ภ.4 ที่ถูกย้ายมานั่งในตำแหน่งผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา (ผบช.ศ.) และ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ รอง ผบช.ภ.6 ถูกโยกไปเก็บกรุเป็น รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. เป็นต้น

รวมทั้ง พล.ต.วินัย ทองสอง อดีตผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม มีศักดิ์เป็นน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกย้ายไปเป็น ผู้บังคับการสถาบันส่งเสริมงานสอบสวน

หรือผู้ที่แข็งขืนไม่สนองตอบ "ผู้มีอำนาจ" จนถูกย้ายเก็บกรุ อาทิ พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) พล.ต.ท.บุญเรือง และ พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง อดีต ผบช.ส. อาจรับ "โบนัส" คืนความชอบธรรมในตำแหน่งสำคัญๆ

นี่คือกระแสความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นใน "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ"

ณ ห้วงเวลาที่ใกล้จะมีปรับเปลี่ยนจากขั้วอำนาจที่อยู่ใต้ร่มเงา คมช. ไปสู่ขั้วอำนาจที่อยู่ใต้ร่มเงารัฐบาลที่มี พรรคพลังประชาชน เป็นแกนนำ

ดังนั้นหากวาจาที่ "สมัคร สุนทรเวช" ลั่นไว้ในสภาผู้แทนราษฎรว่าจะย้ายอีกมากในวันที่ 2 เมษายนนี้เป็นจริง ฝุ่นคงตลบสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกคำรบหนึ่ง !!


ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker