บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2551

นักศึกษาตื่นแล้ว! ประกาศไม่สังฆกรรมกับพันธมิตร

สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) เป็นองค์กรนิสิตนักศึกษาองค์กรหนึ่ง ที่มีเครือข่ายและการเลือกตั้งมาจากสมาชิกทั่วประเทศโดยมีวาระ 1 ปีแล้วเลือกตั้งใหม่

สนนท.ก่อตั้งและเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและประชาชนมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2527 บทบาทสำคัญในเวลานั้นคือการ “เรียกร้องให้พลเอกเปรมลาออก เปิดทางให้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ” และมีส่วนร่วมในขบวนการต่อสู้กับเผด็จการมาเกือบทุกยุคทุกสมัย

ประวัติศาสตร์สนนท.ในอดีตช่วงการเคลื่อนไหวของหมู่พันธมาร สนนท.รุ่นนั้นเคยพลัดหลงจมปลักอยู่กับพันธมิตร
วันนี้เป็นที่น่ายินดีว่า สนนท.รุ่นปัจจุบันได้ทบทวนอดีตจากรุ่นก่อน และกล้าหาญที่ออกมาประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมาร ท่ามกลางแรงกดดัน และป้ายสีจากคนในขบวนการพันธมิตรที่อ้างว่าตัวเองเป็นนักกิจกรรม เป็นอดีตสนนท. และสื่อชั่วลิ่วล้อของหัวหน้าแกงค์ ให้ร้ายป้ายสีสนนท.ต่างๆ นาๆ

ความกล้าหาญ และจุดยืนที่ชัดเจนของสนนท.ปัจจุบัน จึงควรได้รับการเผยแพร่ และ มีที่อยู่ที่ยืนในพื้นที่ประชาธิปไตยอีกครั้ง ขอต้อนรับสนนท. กลับสู่อ้อมแขนของฝ่ายประชาธิปไตย

และขอนำแถลงการณ์มาเผยแพร่ความดังนี้

“แถลงการณ์ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย

จากการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้กำหนดการเคลื่อไหวขึ้นใน วันที่ 28 มีนาคม 2551 ที่จะถึงนี้ และได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 3 ต่อสื่อมวลชนไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ในเนื้อหาของแถลงการณ์ฉับับดังกล่าว ได้มีทั้งการแสดงจุดยืนกำหนดการเคลื่อไหวของกลุ่มและการประกาศรายนามองค์กรเครือข่ายด้วย จนเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปและกระทั่งนำมาไปสู่การวัดพลังขั้วอำนาจโดยสื่อบางฉบับ เพื่อไม่ให้เกิดความสงสัย ความเข้าใจผิดและเพื่อทำความเข้าใจกับคนในสังคมให้ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง ทางสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย จึงขอชี้แจงพร้อมทั้งประกาศเจตนารมณ์ ดังนี้

1.สนนท.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับพันธมิตรฯและไม่ได้เป็นองค์กรเครือข่ายฯตามที่สังคมเข้าใจ

2.สนนท.เห็นว่าการที่กลุ่มพันธมิตรฯออกมาเคลื่อนไหวเป็นสิทธิทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญและเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมตามวิถีทางประชาธิปไตยที่พึงกระทำได้โดยชอบธรรม

ทั้งนี้ การที่ สนนท.ไม่เข้าร่วมและปฏิเสธการเคลื่อไหวของพันธมิตรดังกล่าวนั้น เป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหาร จากการสมัชญาใหญ่ประจำปี 2550 ของ สนนท. ด้วยว่าแนวทางการเคลื่อไหวของพันธมิตรฯที่ผ่านมาเป็นเงื่อนไขสำคัญข้อหนึ่งของการเกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่งทำให้ระบบการเมือง ตามแนวทางประชาธิปไตยหยุดนิ่งไปและนำพาสังคมไทยให้ก้าวถอยหลังลงไปสู่ระบอบอำมาตยาธิปไตย ด้วยการนำเสนอมาตรา 7 ซึ่งตรงกันข้ามและขัดแย้งกับแนวประชาธิปไตยที่ สนนท. ยึดมั่นมาโดยตลอด สนนท.มีความเป็นอิสระในการทำกิจกรรม มีแนวทางการเคลื่อนไหวที่อิงกับพลังบริสุทธิ์ของนิสิตนักศึกษาที่แท้จริง โดยสภาพทางสังคม การเมือง

ในปัจจุบันและเงื่อนไขต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปต่างจาก 2-3 ปีที่ผ่านไป ขณะนี้ประชาธิปไตยพึ่งกลับมาสู่สังคมไทยภายใต้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งท่ามกลางข้อกังขาและความขัดแย้งที่ยังดำรงอยู่ ทั้งนี้และทั้งนั้น ระบอบประชาธิปไตยควรก้าวไปข้างหน้าและพัฒนาไปพร้อมกับการตรวจ ถ่วงดุล จากองค์กรรัฐและองค์กรประชาธิปไตยภาคประชาชน

สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) มีความเห็น ข้อเสนอ ต่อสถานการณ์ทาง สังคมการเมืองในขณะนี้ ที่รัฐบาลควรและสมควรที่จะดำเนินการเป็นภาวะเร่งด่วนคือ

1.เร่งแก้ปัญหา จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย สร้างการมีส่วนร่วมกับภาคประชาชน ตลอดทั้ง นักวิชาการ นิสิตนักศึกษา ผู้นำชุมชน(ศาสนา)และองค์กรภาคีอย่างแท้จริงและทุกภาคส่น ที่สำคัญภาตรัฐต้องยกระดับมาตรฐานการสอบสวนในกระบวนการดำเนินคดีให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ด้วยการ ยุติการซ้อมทรมานผู้ถูกจับกุม กุมขัง ดังที่ปรากฏให้เห็นมาโดยตลอด

2.เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในโดยเฉพาะสินค้าอุปโภค บริโภคจำเป็นขั้นพื้นฐาน โดยรัฐบาลจะต้องเข้าไปดูแล ตรวจสอบตั้งแต่ ราคาวัตถุดิบและต้นทุนที่แท้จริงของการผลิต,การกักตุนสินค้า,ผู้ประกอบกิจการที่จัดจำหน่ายและกระจายสัดส่วนการผลิตระหว่างเกษตรกร,กสิกรกับบริษัททุนการค้าขนาดใหญ่ เพื่อนำไปสู่การได้มาซึ่งกำไรที่เหมาะสมและราคาที่เป็นธรรม(ใช่เพียงการพยุงราคาสินค้าหรืออุ้มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้านเดียวเท่านั้น)

3.เร่งพิจารณาแก้ไขหรือยกเลิก พรบ. ที่ออกโดยรัฐบาลแต่งตั้งมาจากการรัฐประหาร ที่มีเนื้อหาละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชนและขัดต่อกระบวนการประชาธิปไตย อาทิเช่น พรบ.ความมั่นคงฯ,พรบ.,แรงงานฯ,พรบ.ม.นอกระบบฯ,พรบ.,สื่อฯ เป็นต้น

4.รัฐบาลควรดำเนินการ ปฏิรูปการเมือง โดยการเร่งแก้ไขหรือยกเลิกรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2550 โดยเฉพาะ หมวด รัฐสภา(หมวดที่6) ในประเด็น การได้มาซึ่ง สมาชิกวุฒิสภาฯ(สว.),รูปแบบการเลือกตั้งและการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร(สส.),การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง โดยมีการเลือกตั้งทุกระดับชั้น เช่น เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ เป็นต้น ฯลฯ

สุดท้าย สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย( สนนท. ) ขอเน้นย้ำถึง จุดยืนและเจตนารมณ์ในการพิทักษ์และร่วมสร้างประชาธิปไตยประชาชนที่แท้จริงให้บังเกิดขึ้นในสังคมไทย พร้อมทั้งยืนยันที่จะเคียงข้างพ่อแม่พี่น้องประชาชนและร่วมต่อสู้ตามแนวทางประชาธิปไตยเพื่อชีวิตและสังคมที่ดีกว่า ซึ่งเราตระหนักดีว่า มีเพียงการต่อสู้ของประชาชนเท่านั้นที่เป็นจริง สมบูรณ์และจักนำมาซึ่งฐูรณภาพแห่งชีวิตและสังคมที่เท่าเทียม

เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ
นายพงษ์สุวรรณ สิทธิเสนา
เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย”


ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker