บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

อีสาน ใต้ศรัทธา ‘ทักษิณ’

ที่มา บางกอกทูเดย์

ความจริง ไม่ว่าอย่างไรก็คือความจริงแม้ในบางขณะของห้วงเวลา ความเป็นจริงอาจจะถูกลบเลือนหรือบิดเบือนด้วยมลภาวะใดๆ ก็ตาม แต่หากว่าเป็นความจริงแล้วอะไรก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงความจริงนั้นได้เช่นเดียวกับผลการเลือกตั้งซ่อมที่เกิดขึ้น 2 ครั้ง 2 คราติดต่อกันภายในสัปดาห์ต่อสัปดาห์ จากสกลนครมาสู่สนามศรีสะเกษ คำตอบสุดท้าย คือ “ชนะรวด”กลายเป็นการบ้านทางการเมืองขึ้นมาในทันที โดยเฉพาะกับพรรคคู่แข่งทางการเมืองต่างๆเมื่อครั้งผลการเลือกตั้งที่สกลนคร แน่นอนว่ายังมีรายการคาใจกันอยู่ลึกๆ ว่า ของจริงหรือของไม่แท้???แม้ว่าคะแนนผลการเลือกตั้ง นางอนุรักษ์ บุญศล ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ชนะคู่แข่ง นายพิทักษ์ จันทศรีสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทย ในสาย “กลุ่มเพื่อนเนวิน” อย่างชนิดขาดลอยก็ตามคะแนนทิ้งกันขาด 83,348 คะแนน ต่อ 47,235 คะแนนห่างกัน 36,113 คะแนนซึ่งหลายเสียงยังมีข้ออ้างว่า อาจจะไม่ใช่ก็ได้!!!แต่ห่างกันแค่สัปดาห์เดียว ตอกย้ำอีกครั้งด้วยชัยชนะของพรรคเพื่อไทยผลคะแนนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 ศรีสะเกษ อย่างไม่เป็นทางการ ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)หลังนับครบ 100% ทั้ง 9 เขตเลือกตั้ง ปรากฏว่า นายสุรชาติชาญประดิษฐ์ ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย สามารถเอาชนะ นางสกุลทิพย์ อังคสกุลเกียรติ ผู้สมัครหมายเลข 2พรรคชาติไทยพัฒนา ไปได้อย่างขาดลอยโดยนายสุรชาติได้ไป 124,327 คะแนน ส่วนนางสกุลทิพย์ได้ 76,435 คะแนน จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ 210,610 คน คิดเป็นสัดส่วนผู้มาใช้สิทธิ์ 61.80% มีบัตรเสีย 2,912 ใบ และมีผู้ไม่ลงคะแนน 6,936 คนในภาพรวมคะแนนของผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ชนะผู้สมัครจากพรรคชาติไทยพัฒนากว่า 2 เท่าตัวเกือบทุกเขต ยกเว้นเขตเลือกตั้ง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพียงเขตเดียวเท่านั้น ที่ผู้สมัครจากพรรคชาติไทยพัฒนาสามารถเอาชนะไปได้หลายพันคะแนน
ตรงนี้ต้องยกเครดิตให้กับบารมีของ “บรรหาร ศิลปอาชา”ขิงแก่อย่างไรก็ยังคงเป็นขิงแก่อย่างน้อยต้องมีรสเผ็ดรสร้อนแรงกันบ้างจะให้แพ้หมดทุกเขตเลือกตั้งเลยนั้น ประเมินฝีมือหัวหน้าบรรหารต่ำไป!!!และในความเป็นจริง มังกรการเมืองอย่างหัวหน้าบรรหารรู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจว่าศึกครั้งนี้หนักหนาสาหัสเพียงใด แต่เมื่อก้าวขึ้นสู่สังเวียน เสียงปี่เสียงกลองเริ่มเชิด จะถอดใจได้อย่างไรแพ้ชนะเป็นอีกเรื่องหนึ่งยิ่งข่าวที่แว่วเข้าหูทำนองว่า ยังไงก็คงต้องให้แพ้เหมือนๆ กันและหากเป็นไปได้ต้องให้คะแนนที่พ่ายแพ้เพื่อไทยครั้งนี้..แพ้มากกว่าครั้งที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ??แบบนี้รู้ว่าเหนื่อยก็ต้องลุย...แต่เมื่อดูสถานการณ์ ดูฤกษ์ผานาทีดูทิศทางลมแล้ว หัวหน้าบรรหารก็รู้ดีว่า กระแส “ทักษิณฟีเวอร์”ช่วงนี้แรงเกินจะปะทะหรือต้านทานฉะนั้น ทางที่ดีแม้ว่าจะแพ้ก็จริง แต่หัวหน้าบรรหารก็กระซิบกับคนใกล้ชิดว่าแพ้ก็ไม่เป็นไร แต่ต้องไม่แพ้หมดทุกเขต ยังไงต้องทุ่มเทสรรพกำลังให้มีบางเขตชนะบ้างให้ได้ซึ่งก็ได้สมใจ ชนะให้เห็นได้ 1 เขต โชว์เพาเวอร์ให้กับหัวหน้าพรรคตัวจริงดังนั้น ถึงวันนี้แรงกระเพื่อมจากชัยชนะของพรรคเพื่อไทยไม่เพียงแค่เฉพาะพรรคที่พ่ายศึกอย่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนาเท่านั้น ที่จะต้องทบทวนครั้งใหญ่แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเองก็สะอึกไปเอื้อกใหญ่ด้วยเช่นกันแว่วว่าก้อนสะอึกครั้งนี้ลึกล้ำยิ่งนักเพราะผลที่จะตามมานั้นลากไกลไปถึงการเลือกตั้งในปีหน้าที่จะถึงนี้ด้วยหากกระแสทักษิณฟีเวอร์ยังแรงหากกระแสโฟนอินออดอ้อนยังมีมนต์ขลังพรรคประชาธิปัตย์ที่มีสารพัดมือช่วยอุ้มสม และคาดหวังการชนะทางการเมืองที่ต่อเนื่อง
ก็อาจจะกลายเป็นเทวดาสะอื้น...เทพประทานแล้วยังเอาไม่อยู่วอร์รูมประชาธิปัตย์เมื่อวันก่อน จึงต้องมีการหยิบยกผลการเลือกตั้งทั้งที่สกลนครและศรีสะเกษขึ้นมาถกในที่ประชุมแรงกดดันครั้งนี้หนักหนาสาหัสนัก เพราะแม้แต่ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังยอมรับเหมือนกับการันตีไปในตัว“เท่าที่ลงไปดูในพื้นที่ พบว่า การแข่งขันไม่รุนแรงเหมือนการเลือกตั้งเขต 3 สกลนคร”เพราะแม้แต่กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอิน ซึ่งนางสดศรียอมรับว่ามีการร้องเรียนเข้ามาอยู่แล้ว ตั้งแต่การเลือกตั้ง ส.ส.สกลนครแต่ว่าพฤติกรรมดังกล่าว จะเข้าข่ายความผิดกฎหมายหาเสียงในลักษณะการจูงใจหรือไม่ เรื่องนี้ต้องพิจารณาข้อเท็จจริง“ไม่อยากคิดแทน เพราะจะเป็นการดูถูกประชาชน”...นางสดศรีพูดชัดใครจะกล้าคิดแทน ในเมื่อคะแนนแพ้ชนะห่างกันเห็นๆขนาดนี้และที่สำคัญ เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา หากจะบอกว่าพรรคฝ่ายค้านโกงคะแนนเลือกตั้งฝ่ายรัฐบาล!!!เพราะไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทยไม่เช่นนั้นทั้งสื่อต่างๆ และทั้งพรรคเพื่อไทย คงไม่กล้าประกาศชัยชนะอย่างเต็มที่ พร้อมกับมั่นใจว่าหากมีเลือกตั้งครั้งหน้า โอกาสชนะก็จะยังคงมีอยู่ถล่มทลายแค่ไหนไม่รู้ ..รู้แต่ว่าชนะแน่ หากคนอีสานยังผูกพันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรพูดให้คิด พูดให้อึ้งกันหมดทุกพรรคเพราะเหมือนกับว่า ชัยชนะ 2 ครั้งซ้อนติดๆ กัน เท่ากับเป็นการประกาศยึดพื้นที่อีสานของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยออกจะประมาทพรรคประชาธิปัตย์เกินไปหน่อยหรือไม่??
เพราะถ้าไม่มีบุญวาสนา จะมีคนแย่งกันอุ้มให้มาเป็นรัฐบาล ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือ???รวมทั้งเป็นไปไม่ได้เลยที่ พรรคประชาธิปัตย์จะเอามือซุกหีบแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่ต่อสู้ยิ่งนายอภิสิทธิ์ก็พูดชัดเจนแล้วว่า ข้อเรียกร้องให้ยุบสภาของกลุ่มคนเสื้อแดง ถือเป็นข้อเรียกร้องเดิมซึ่งก็ขอยืนยันว่า ไม่ขัดข้องแต่ต้องให้มีการกำหนดกฎเกณฑ์กติกาต่างๆ เสร็จสิ้นลงตัวเสียก่อน!!!และขณะนี้ทั้งพรรคฝ่ายค้าน ส.ว. และรัฐบาล ก็กำลังเร่งทำงาน ทั้งในประเด็นรัฐธรรมนูญ แนวทางแก้ไขปัญหาทางการเมือง รวมทั้งการฟื้นฟูเศรษฐกิจนั่นแปลกันตรงๆ ก็คือว่า สัญญาณการเลือกตั้งนั้นถูกกดดันมากขึ้นทุกขณะจิตจึงไม่น่าแปลกใจเลยสักนิด กับการที่ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยจากพรรคประชาธิปัตย์ ต้องออกมายืนยันอย่างหนักแน่นว่าชัยชนะ 2 เก้าอี้ที่พรรคเพื่อไทยได้ไปนั้น ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลพร้อมกับถือโอกาสออกตัวว่า ถ้ารัฐบาลชุดนี้ได้ทำงานครบวาระ จะเห็นผลงานอย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเกิดความพอใจดังนั้น คิดว่าต่อไปความนิยมของรัฐบาลจะดีขึ้นพร้อมกับอ้อนขอคะแนนคนอีสานเอาไว้ล่วงหน้าว่า คนอีสานมีจิตใจกว้างที่จะเปิดรับและประชาธิปัตย์ยังสามารถเข้าถึงได้เพียงแต่ผลงานที่ผ่านมายังไม่ปรากฏชัดเจน แต่เมื่อไรที่ประชาชนเห็นผลงาน ก็จะยอมรับประชาธิปัตย์มากขึ้นปัญหาจึงเหลืออยู่เพียงแค่ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะสร้างผลงานให้เห็นได้เมื่อไร???และในความเป็นจริง ไม่ควรที่จะให้แค่คนอีสานได้เห็นผลงาน หากแต่ควรจะให้คนไทยทั้งแผ่นดิน คนไทยทุกภาค ทุกพื้นที่ได้เห็นผลงานด้วย
ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้มันกว่านี้...ไม่ใช่ชนะกันขาดหลายช่วงตัวแบบนี้น่าเป็นห่วงก็คือ บรรดา ส.ส. แปรพักตร์ทั้งหลายนั่นแหละที่วันนี้กำลังตกที่นั่งลำบาก???ด้วยความเป็นคนในพื้นที่ ด้วยความที่ใกล้ชิดกับประชาชนคนอีสาน ย่อมรู้ดีถึงความรู้สึกนึกคิดของคนในพื้นที่ว่าคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไรไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะให้ใครสักคนโฟนอินเข้ามา แล้วคนฟังซึ่งเป็นคนหลากหลายวัย จะออกอาการน้ำตาคลอไปตามๆ กัน…อะไรคือความคิดในใจของคนอีสาน เชื่อว่า บรรดา ส.ส. โดยเฉพาะในสายของพรรคภูมิใจไทย ย่อมต้องรู้ซึ้งถึงก้นบึ้งแห่งหัวใจของคนอีสานฉะนั้น วันนี้อาการลังเล ระส่ำระสายที่เกิดขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เช่นเดียวกับที่ไม่น่าแปลกใจด้วยเช่นกัน ที่บรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย แม้จะยอมรับว่า อดีต ส.ส.ของพรรค สนใจติดต่อกลับเข้ามาร่วมงานกับพรรคอีกครั้งแต่พรรคเพื่อไทยก็ยืนยันที่จะไม่รับ ส.ส. ที่ย้ายออกไปในช่วงพลิกขั้วทางการเมืองปิดประตูใส่กลอนกันต่อหน้าแบบนี้เลยหนึ่งในกลุ่มเพื่อนเนวิน นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จึงจำเป็นต้องออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวแถมบลัฟกลับด้วยว่า ขณะนี้ไม่มีสมาชิกของพรรคแสดงความจำนงลาออก มีเพียง ส.ส.จากพรรคอื่น ได้ประสานงานที่จะขอสมัครเข้าพรรคภูมิใจไทยเท่านั้นนี่คือเกมการเมือง ส่วนของจริงเป็นอย่างไรต้องรอดูกันไป เพราะศึกครั้งนี้ว่าใหญ่หลวงแล้ว ศึกครั้งหน้าจะยิ่งใหญ่กว่านี้หลายเท่าและอีสานจะเป็นพื้นที่สำคัญที่สุดในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า...ชัวร์?! ■

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker