การออกมาเรียกร้องขอเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวให้พนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ให้กับพนักงานที่ฐานเงินเดือนต่ำกว่า 50,000 บาท มีสิทธิรับค่าครองชีพชั่วคราวเดือนละ 2,000 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี กำลังกลายเป็นโมเดลให้พนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งอื่นเอาเป็นแบบอย่างเพราะถ้าพนักงาน กฟน. ทำได้ ก็ไม่มีเหตุผลใดที่พนักงานในรัฐวิสาหกิจแห่งอื่นจะทำไม่ได้และเมื่อพนักงาน กฟน. ทำได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่พนักงานในรัฐวิสาหกิจแห่งอื่นจะไม่ทำและถ้าพนักงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่งพร้อมใจกันขอขึ้นค่าครองชีพ และคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ความไม่พอใจก็อาจจะปะทุขึ้นทั่วประเทศจากประชาชนตาดำๆ ที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากต้องจ่ายค่าสาธารณูปโภคเพื่อให้พนักงานรัฐวิสาหกิจอยู่ดีกินดี ในขณะที่ตัวเองกำลังเข้าตาจน อดมื้อกินมื้อทั้งที่ทุกครั้งที่จะมีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ พนักงานรัฐวิสาหกิจจะออกมาเดินขบวนต่อต้านการแปรรูป โดยยกเหตุผลว่าถ้ามีการแปรรูปเกิดขึ้น คนไทยจะต้องใช้น้ำใช้ไฟแพงขึ้นเพราะไม่มีบริษัทเอกชนที่ไหนจะคิดค่าน้ำค่าไฟได้เป็นธรรมและถูกเท่ากับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอีกแล้วและด้วยเหตุผลนี้เช่นกัน การออกมาต่อต้านการแปรรูปของรัฐวิสาหกิจจึงมักประสบความสำเร็จ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากภาคประชาชนประชาชนไม่ต้องการให้มีการแปรรูป เพราะกลัวว่าจะต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟแพงขึ้นข้อมูลเหล่านี้ถูกถ่ายทอดและปลูกฝัง จนกลายเป็นค่านิยมว่าห้ามแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยเด็ดขาดโดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับไฟฟ้า น้ำประปา!!!แม้ในความรู้สึกของประชาชนบางคนจะไม่ค่อยชอบใจนักเกี่ยวกับสิทธิพิเศษที่พนักงานรัฐวิสาหกิจได้รับในด้านการใช้น้ำใช้ไฟฟรี (ไม่เกิน 10% ของเงินเดือน) ต่อมากฎนี้ได้ถูกยกเลิกโดยหันไปขึ้นเงินเดือนให้ 10% แทน แต่ก็คิดว่าหยวนๆ กันไป เพื่อแลกกับความสะดวกสบายที่รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นนำสาธารณูปโภคมาบริการถึงประตูบ้านแต่ความรู้สึกนี้กำลังจะเปลี่ยนไป ด้วยการออกมาเรียกร้องเรื่องการขอขึ้นค่าครองชีพดังกล่าวอย่างไรก็ตาม ถ้าข้อเรียกร้องมอบค่าครองชีพให้เฉพาะคนที่มีฐานเงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาทก็ไม่กระไร เชื่อว่าพี่น้องประชาชนรับได้ แต่พอเงื่อนไขที่ว่านั้น
ออกมาสำหรับคนที่มีฐานเงินเดือนต่ำกว่า 50,000 บาท มันทำร้ายความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศจริงๆในภาวะที่ประเทศชาติกำลังเผชิญกับวิกฤติข้าวยากน้ำมันแพง งบประมาณรัฐบาลขาดดุลจนต้องออกพระราชกำหนดกู้เงินฉุกเฉินถึง 800,000 ล้านบาทเช่นนี้ ไม่มีใครคิดว่าจะได้ยินเรื่องดังกล่าวปรากฏสู่สาธารณชนจริงอยู่ แม้ กฟน. จะยืนยันว่า เงินที่นำมาใช้นั้นเป็นผลกำไรของ กฟน. รัฐบาลไม่ต้องจัดสรรงบประมาณรายจ่ายตรงนี้แต่ถ้า กฟน. มีกำไรมาก เอากำไรตรงนั้นมาลดค่าไฟไม่ดีกว่าหรือเอากำไรตรงนั้นมาเป็นเครื่องมือในการอะลุ้มอล่วยให้กับชาวบ้านตาดำๆ ที่จ่ายค่าไฟช้าไปสักวันสองวันดีกว่าไหมไม่ต้องใช้ระบบเกิน 1 นาที ตัดไฟทันทีแบบนี้จะได้ใจชาวบ้านอีกเป็นกระบุงแต่ถ้า กฟน. ยังยืนยันเดินหน้าขอเงินค่าครองชีพชั่วคราวต่อไป และถ้ารัฐวิสาหกิจแห่งอื่นเข้าคิวเอาด้วย รับประกันถ้ารัฐบาลเสนอแนวคิดแปรรูปรัฐวิสาหกิจเมื่อไหร่ชาวบ้านก็เทใจหนุนเมื่อนั้น!!!ถึงวันนั้นต่อให้พนักงานรัฐวิสาหกิจจะก่อหวอดเดินขบวนประท้วงสักกี่รอบ ก็คงไม่มีใครออกมาร่วมสนับสนุนเหมือนที่ผ่านมาซึ่งการกระทำของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจในบางหน่วยงาน เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้ก็ออกอาการแปลกๆ ไม่น้อย เพราะอยู่ๆ ก็นัดลาหยุดงานพร้อมกันทั่วประเทศ ทำให้รถไฟเป็นอัมพาตไปนานกว่า 24 ชั่วโมงด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่าการรถไฟฯ มีการจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการรายได้เท่านั้นขณะที่พนักงานการไฟฟ้านครหลวงประท้วงขอขึ้นค่าครองชีพให้กับผู้ที่มีฐานเงินเดือนต่ำกว่า 50,000 บาทล่าสุด ก็มีข่าวว่าสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็เอากับเขาด้วยเป็นเหตุผลที่หน่อมแน้มจริงๆแบบนี้แปรรูปรัฐวิสาหกิจกับไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจจะต่างกันตรงไหนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทำเหมือนกับว่า อยากให้มีการแปรรูปก็ไม่ปาน!!! ■