บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ชาวเน็ตเสื้อแดงเสียงแตกทั้งหนุนVSต้าน แกนนำล่า1ล้านชื่อถวายฎีกาพระราชทานอภัยโทษแม้ว

ที่มา Thai E-News

ที่มา บอร์ดประชาไท และฟ้าเดียวกัน
28 มิถุนายน 2552

กลุ่มประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการอมาตยาธิปไตยที่เข้ามาสนทนาในโลกอินเตอร์เน็ตอย่างบอร์ดประชาไท และฟ้าเดียวกัน รวมทั้งราชดำเนิน พันทิป มีความเห็นแตกต่างออกเป็น 2 ฝ่ายต่อการที่นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงได้กล่าวสนทนากับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่โฟนอินเข้ามายังเวทีชุมนุมใหญ่สนามหลวงวันก่อนว่า จะล่ารายชื่อประชาชน 1 ล้านชื่อเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับประเทศมาทำงานบริหารงานให้ประเทศ เพื่อสร้างความสมานฉันท์ภายในประเทศ

โดยฝ่ายหนึ่งเห็นว่าไม่สมควรดำเนินการเช่นนั้น เพราะเป็นการยอมจำนน ทั้งที่พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้กระทำผิด แต่ถูกความอยุติธรรมของฝ่ายอำมาตยาฯกลั่นแกล้ง แต่แกนนำกลับจะไปขอพระราชทานอภัยโทษ ทำเหมือนไม่ได้เคารพหลักการประชาธิปไตย ทำไปเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียว แกนนำล้าหลังมวลชนที่ก้าวหน้าไปถึงขั้นต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่การยอมจำนนกลับไปสยบยอมให้อำมาตยาธิปไตย


ขณะที่ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนว่าแกนนำทำถูกแล้ว และเห็นว่าความเคลื่อนไหวนี้ไม่ใช่การสยบยอม แต่เป็นการกดดันหรือโยนเผือกร้อนไปให้ฝ่ายอำมาตยาธิปไตยต้องแก้เกมหนัก ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ใช่ยอมจำนนแต่เป็นการพลิกแพลงทางยุทธวิธี รุกกลับไปอย่างชาญฉลาดต่างหาก

ฝ่ายเห็นต่างแกนนำผิดหวังขอลาหากเดินหมากยื่นฎีกา

ในบอร์ดประชาไท ผู้ใช้นามแฝงว่า ป้าหมอได้ตั้งกระทู้หัวข้อ ลาก่อนค่ะ... คุณวีระโดยมีรายละเอียดว่า

เมื่อวานไปสนามหลวงด้วยใจเต้มเปี่ยมจะต่อสู้ร่วมกับพี่น้องเสื้อแดง ในใจอยากรู้ว่าแกนนำจะมีแนวทางอย่างไร เราจะทำอะไรต่อไป เรียกร้องอะไร

เมื่อมาถึงช่วงโฟนอิน รู้สึกเบื่อเล็กน้อยกับการอ้อนขอเข้ามาเพื่อเป็นข้าฯรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทฯ แต่เมื่อคุณวีระเสนอเรื่องสมานฉันท์และจะถวายฏีกา รู้สึกมึนเหมือนถูกทุบหัว..และเสียความรู้สึก เหมือนถูกหลอกเลย

ขอลาก่อนค่ะ... คุณวีระ สำหรับการต่อสู้ครั้งนี้

แม้ว่าหลายๆคนจะวิเคราะห์ว่าเป็นการโยนเผือกร้อน เป็นการกดดันอะไรก็แล้วแต่
ไม่ใช่ไม่อยากช่วยคุณทักษิณนะ แต่การช่วยคุณทักษิณน่าจะเป็นผลพลอยได้ของการต่อสู้ ไม่ใช่ main stream แบบนี้...
ป้าเข้ามาเป็นส่วนของเสื้อแดงด้วยความคาดหวังความเป็นธรรม ความเท่าเทียมของสังคม และอำนาจอธิปไตยที่มาจากปวงชนแท้จริง

ทำไมเราไม่ตั้งเป้าหมายการเรียกร้องที่เป็นประโยชน์ส่วนรวมล่ะ?
ทำไมเราไม่ตั้งเป้าให้ชัดเจนในรายละเอียดการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานในสภาที่ต้องการพลังสนับสนุน คานกับฝั่งเสื้อเหลืองฝั่งอำมาตย์ หากเรารวบรวมรายชื่อขอแก้รัฐธรรมนูญในมาตราสำคัญ จะมีผลไหม? ผลงานจะเป็นรูปธรรมจับต้องได้และมีความเป็นไปได้มากกว่าไหม?

วันนี้รู้สึกว่านักการเมืองก็ทำเพื่อประโยชน์นักการเมืองก่อนประชาชนเหมือนที่ผ่านมาไม่มีอะไรดีขึ้นเลย

ป้าคงจะสู้ต่อไป.. แต่ขอสู้ในแนวทางอื่นไม่ใช่แนวทางนี้...
แนวทางของคุณจาตุรนต์ หรือ อ.จ.ชูพงศ์ หรือ อ.จ. สุรชัย

สำหรับคุณวีระ และสามเกลอ วันนี้ขอลาก่อนนะคะ.. เมื่อไรที่เรามีเป้าหมายเดียวกันแล้วป้าจะมาสู้ร่วมกับพวกคุณอีก...


ติงแกนนำล้าหลังมวลชนที่ต้องการประชาธิปไตยแท้จริง

ผู้ใช้นามแฝงลูกชาวนาไทย กล่าวว่า

ผมว่า สถานการณ์ ณ ขณะนี้ แกนนำอาจตามอารมณ์มวลชนไม่ทันอยู่บ้าง และบางทีคนระดับคุณวีระ ที่อายุมาก อาจมีสายสำพันธุ์ เยอะ จนมองเห็นทุกอย่างติดขัด หรืออาจมีการล็๋อบบี้กันหลายภาคส่วน

แต่ตามวลชนไม่ทัน ก็ไม่เป็นไรครับ วันนี้คนเสื้อแดง ได้ไปไกลมาแล้วครับ หากแกนนำยังล้าหลังอยู่ ก็จะเกิดแกนนำอื่นๆ แย่งชิงมวลชนไปเอง

ที่จริง การสมานฉันท์วันนี้ ผมไม่คิดว่าจะมีประโยชน์แต่อย่างใดหรอกครับ เพราะไม่ได้แก้ไขปัญหาพื้นฐานของวิกฤติการณ์ การเมืองครั้งนี้ การสมานฉันท์ จึงเป็นการเหยียบเอาปัญหาเอาไว้

และผมไม่เชื่อว่าจะมี "การสมานฉันท์" ได้ เพราะทุกฝ่ายต่างก็ต้องการให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ อำมาตย์ก็ต้องการกำจัด "ระบอบทักษิณออกไป" เพราะคุกคามต่อ Status quo หรือสภาพคงที่ของพวกเขา

และประชาชนที่สนับสนุนระบอบทักษิณ ก็ต้องการได้ประชาธิปไตยที่ไม่มีการแทรกแซงของ "ศักดินาและอำมาตย์" กลับคืนมา สรุปคือไม่มีใครยอมถอยหรอกครับ

ดังนั้น หากจะให้วิกฤติการณ์จบ ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฎิรูประบบศาลให้มีความเป็นธรรมและไม่สองมาตรฐาน

และอำมาตย์ต้องดึงมือกลับไป

ผมว่าวันนี้ ประชาชนได้มาำไกลมากแล้ว เหมือนยักษ์จินนี่ หลุดออกมาจากตะเกียง อำมาตย์จะให้กลับไปอยู่แบบ ไพร่ฟ้า "ซาบซึ๊ง" กันทั้งปีเหมือนยุึึคก่อนปี 2549 ได้จบสิ้นไปแล้ว

ผมคิดว่า "ยุคซาบซึ๊ง" ได้จบสิ้นไปแล้ว ที่ยังเหลืออยู่บ้าง ก็แค่รอวันเวลาจางหายไปเท่านั้นเอง

ยุคทองของการซาบซึ๊งจบสิ้นแล้ว


ติงไร้เดียงสาไม่หวังอำมาตย์จะมายอมสมานฉันท์ด้วย

ผู้ใช้นามแฝงว่า แม่ปังคุงTFN กล่าวว่า

ถ้าพวกอมาตย์มันอยากจะสมานฉันท์ด้วย..มันสมานฉันท์ตั้งนานแล้วจ้า..มันไม่รุกไล่เราจนแทบจะตกแผ่นดิน แทบจะต้องพกคดีติดตัวกันคนละใบสองใบแบบนี้หรอก ..ถ้ามันคิดว่าเรามีราคาต่อรอง..มันไม่กล้าทำอะไรแบบนี้หรอก นี่มันทำทุกอย่างไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะตามยุบพรรคตั้งกี่ครั้ง ไม่ว่าจะยกฟ้องคดีฝ่ายเราฟ้องไม่รู้กี่สิบคดี ไม่ว่าจะเร่งจับเสื้อแดงซะจนจะหมดกรุ ไม่ว่าจะเลื่อนคดีเสื้อเหลืองซะไม่รู้เท่าไหร่ ไม่ว่าจะส่งคนไปไล่จับนายกทักษิณไม่รู้กี่ประเทศ..

เฮ้อ..ตื่นๆๆๆ ตื่นได้แล้วค่า ทั้งคุณวีระ และ นายกทักษิณ..เสื้อแดงรู้กันหมดแล้ว และเราไปไกลเกินกว่าคำว่าสมานฉันท์แล้ว..ถ้าต้องการให้เราหยุด ขอแค่ความยุติธรรมกลับคืนมา ขอรัฐธรรมนูญ 40 กลับมาใช้ ยกเลิก และ เลือกตั้งองค์กรอิสระใหม่ โล๊ะสว. เลือกตั้งใหม่ทั้งหมด ..แล้วมาเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่

แต่ถ้าไม่ได้ตามนี้..อย่ามาพูดเรื่องการตกลงของระดับบนเพื่อประเทศ..อย่ามาพูดให้เหม็นขี้ฟัน..เสื้อแดงมาเพราะเราต้องการประชาธิปไตยและความยุติธรรม..ไม่ได้ต้องการ "แค่" แย่งชิงอำนาจกลับมาใส่มือใคร

ตอนนี้แกนนำควรเลิกพูด เลิกคิดเรื่องการเจรจาต่อรองตกลงอะไรได้แล้ว..ตราบใดที่เราไม่ถือไพ่เหนือกว่า อย่าหวังว่าจะเห็นน้ำตาจระเข้

อีกอย่าง..ไม่ต้องคิดว่าปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำจะทำให้ไอ้พวกอมาตย์ตกใจ เห็นแก่บ้านเมือง ถ้ามันเห็นแก่บ้านเมืองจริง มันไม่กล้าปิดสนามบินหรอกค่า ..นอกเสียจากว่า เศรษฐกิจตกต่ำจนชาวบ้านจะอดตาย จนทำให้เกิดปรากฏการณ์แบบฝรั่งเศส ..นั่นแหละ ..อาจพอให้มันสะดุ้งกันได้บ้าง


ผิดหวังแกนนำ+ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยยอมจำนน

คุณอำมาตยธิปไตย ตายยกคอก กล่าวว่า

ไม่เคยมีระบอบประชาธิปไตยในสังคมทาส..!! แล้วเราจะเรียกร้องหาอะไรกัน..? ถ้าอยากจะอยู่ในระบอบประชาธิปไตยเหมือนสากลโลกเขา ก็ไปเลิกทาสกันให้หมดเสียก่อน นี่นับประสาอะไร ตัวผู้นำที่อ้างว่าจะนำพาประชาธิปไตย กลับเป็นทาสศักดินาคนสำคัญเสียเอง หลอกตัวเองไม่พอ ดันหลอกมวลชนต่อไปอีก พวกเราภักดีต่อผู้นำ (ประชาธิปไตย) แต่คุณกลับไปภักดีต่อฝ่ายตรงข้าม (ศักดินาอำมาตยาฯ) สำหรับผู้รักและเรียกหาประชาธิปไตย ไม่ว่าสีอะไร เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว แพ้คือแพ้ โง่คือโง่ ประชาธิปไตยไม่เคยมี เพราะถ้ามีคงไม่ต้องร้องหา จงหาหนทางที่จับต้องได้ให้มากกว่านี้ คำปลอบโยนไม่มีประโยชน์ต่อคนเข็มแข็ง มันมีไว้สำหรับคนอ่อนแอ่ เพื่อปลอบให้มันอ่อนแอกันต่อไป อย่ายึดติดตัวบุคคล ให้มองที่อุดมการณ์และความกล้าหาญ เป็นผู้นำหลักของเรา


ฝ่ายหนุนแกนนำให้ยื่นฎีกามองเป็นการพลิกแพลงทางยุทธวิธีมากกว่ายอมจำนน

ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนแกนนำในบอร์ดประชาไท และบอร์ดฟ้าเดียวกันดูจะมีจำนวนมากกว่า เห็นว่านี่ไม่ใช่ลัทธิยอมจำนน แต่เป็นการพลิกแพลงยุทธวิธีต่อสู้มากกว่า และแรงกดดันจะไปตกอยู่กับฝ่ายอมาตยาธิปไตยมากกว่า

คุณกุมภากล่าวว่า

ผมมองว่าเป็นการกดดันมากกว่านะครับ ลองคิดดูว่าถ้าเสนอไปแล้ว
การสนองจะมีกี่ทาง แต่ละทางมีผลอะไรตามมาบ้าง เช่น ถ้าเสนอแล้วเงียบนั้นก็หมายถึงอะไร หรือเสนอไปแล้วไม่เห็นด้วยก็จะมีผลอีกอย่าง หรือเสนอไปแล้วเห็นด้วย ก็มีผลกับอีกฝ่าย คิดดีๆครับ ตั้งสติกันดีๆ เป็นการกดดันกันเห็น


มองเกมนี้มีแต่ได้ไม่มีอะไรเสียหายน่าลองดู

คุณป้าปากเกร็ดกล่าวว่า

เอ่อ...แล้วพร้อมจะเอาหัวชนกำแพงกันแล้วหรือคะ
กำแพงที่ขวางหน้าไม่ใช่เพิ่งมี ไหนยังจะตีนตุ๊กแกที่เกาะปกคลุมอีก
มันคงไม่ง่ายอย่างที่หวังหรอกค่ะ เมื่อไหร่คุมกองทัพได้ บอกด้วยแล้วกัน

อะไรที่ทำให้ข้ามกำแพงนี้ไปได้ก่อน ก็ควรทำไม่ใช่หรือคะ
หรือมีวิธีที่ดีกว่านี้ เลือกตั้งจนได้เสียงมาอันดับหนึ่งแบบถล่ม
ทลาย เขาออกมาคืนเดียว หายไปไหนกันหมด ทำไม ไม่ออกมา
ต่อสู้เสียตั้งแต่วันที่20กย.49 ล่ะคะ

ฮาร์ดคอร์น่ะทำได้ ถ้าแน่ใจว่าจะชนะ หากยังไม่มั่นใจ ได้แค่ไหน
ก็ต้องคว้าไว้ก่อน ใครบอกว่าการณ์ครั้งนี้คือการยอมกราบตีน
มองโลกแคบไปหรือเปล่า ลองคิดทบทวนดู วิธีนี้ มีแต่ได้ไม่มีเสีย

หากคุณป้าหมอว่าแนวทางของคุณชูพงศ์ดีกว่า ก็ยังไม่เห็นจะต่างกัน
เพียงแต่ข้อร้องขอเท่านั้นที่แปลกไป เอาง่ายๆแค่นี้ก่อน แล้วดูลาดเลา
การที่อยู่ดีๆไปขอให้เขาคืนอำนาจ เป็นคุณคุณจะยอมคืนดีๆหรือ

การขอครั้งนี้ หากได้ เขาก็ดูเหมือนไม่เสีย หากไม่ให้ เราจะได้ดำเนินการต่อ
ใจเย็นสักนิดนะคะ ใจร้อนไม่ช่วยอะไรหรอกค่ะ หักด้ามพร้าด้วยเข่า
รังแต่จะเจ็บตัว นอกจากพร้าไม่หัก แล้วอาจถูกบาดได้รับบาดเจ็บ
ล้มตายเอาเสียด้วย สู้ค่อยๆกัดร่อนไม่ดีหรือคะ

ทุกอย่างมีเวลาของมัน หากยังไม่ถึงเวลา จะวิ่งไปให้เขาเชือดทำไม


หนทางสู่ชัยชนะมีหลายวิธี นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง

คุณ wenocoup กล่าวว่า

ใจเย็นๆครับผมว่ามันก็น่าจะเป็นยุทธศสตร์อย่างหนึ่งก็ได้
อย่าลืมนะครับว่าการต่อสู้ครั้งนี้เรายังไม่สามารถฟันธงว่า
ตกลงแล้วเค้าผู้ยิ่งใหญ่จะเอาอย่างไรกันแน่
จะเอาประชาชนหรืออำมาตย์
เพราะเห็นเคยว่าอำมาตย์ออกอากาศก็หลายครั้ง
การที่คุณวีระเสนอแนวทางนี้อาจมีอะไรที่ลึกล้ำมากกว่าที่เห็น
ทุกอย่างไม่ใช่คุณวีระเพิ่งจะนึกได้ตอนโฟนอิน
แต่ดูเหมือนมีการเตรียมการไว้แล้ว
ก็ดีนะการที่เราใช้วิธีนี้เราจะได้กระจ่างในสิ่งที่อึมครึม
อีกอย่างชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ลึกซึ้งนัก
และออกจะยึดโยงกับคุณทักษิณเป็นอย่างมากเราต้องยอมรับ
ผลที่ได้รับจากการเสนอครั้งนี้จะทำให้เราเดินหน้าได้อย่างมั่นใจขึ้น
เราจะสามารถกำหนดยุทธวิธีในการต่อสู้ครั้งต่อไปได้ถูกทาง
ตั้งสติครับอย่าท้อแท้หมดกำลังใจไปครับ
หนทางยังอีกไกลเราต้องรวมใจกันไว้มั่นคงและหนักแน่น
เหมือนการเดินทางไปเชียงใหม่ไม่ใช่มีแค่เครื่องบินทางเดียวเมื่อไหร่


มองเผือกร้อนไปตกอยู่กับฝ่ายอำมาตยาหลังยื่นฎีกา

คุณpayai97 กล่าวว่า

ใจเย็นๆ เกมชี้เป้า กดดัน รอดูท่าทีว่าฝ่ายโน้นจะขยับตัวยังไง
ตอนนี้เผือกร้อนไปอยู่ในมือเขาแล้ว
ถ้าไม่ขยับอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือถือเผือกร้อนไว้ร้อนมือแน่
บทพิสูจน์ว่าการโฆษณาความดีความงามอย่างเข้มข้นระยะนี้
เป็นของจริงหรือว่า เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อ
สมมุติว่าคนไทยเชื่อว่าสิ่งที่โฆษณานั้นเป็นของจริงทุกประการ
ผลของการโยนเผือกร้อนออกมาว่า O K ตกลงตามที่ขอมา
เป็นการตอกย้ำความเชื่อ ให้เชื่อได้อย่างสนิทใจมากขึ้น
แต่ถ้าผลออกมาตรงกันข้าม การโฆษณานั้นจะลงมาอยู่ที่ศูนย์
ซึ่งจริงๆแล้วส่วนหนึ่งมันตั้งต้นอยู่ที่ศูนย์แต่เดิมอยู่แล้ว

ส่วนนี้มันก็จะมีแต่ติดลบลงไปเรื่อยๆ.........อึดอัดลำบากใจไม่เบา

.........เป็นความเห็นและความเชื่อส่วนตัว อาจไม่ใช่ตามนี้ก็ได้


คุณปรวย salty head ในเวบบอร์ดฟ้าเดียวกันให้ความเห็นว่า

ผมว่า 1 ล้านคนน้อยไป น่าจะ 4-5 ล้านถึง 10 ล้าน
พูดง่ายๆว่าเอาคะแนนเสียง ไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทยมานั่นแหละ
จริงๆผมไม่เห็นด้วยกับการถวายฎีกา

แต่คราวนี้ขอยุส่งให้ถวายเลย
ผมอยากดูว่าถ้ามีประชาชนจำนวนมากยื่นถวายฎีกาแล้ว ฎีกานี้จะเงียบหายไปหรือเปล่า
ถ้าเงียบหายประชาชนจะทำยังไง

และแนะนำว่า ยื่นฎีกาแล้ว
ควรจัดการชุมนุมทุก 2 อาทิตย์ หรือ 1 เดือน เพื่อฟังผลฎีกา

ไม่ได้กดดันนะแค่นัดกันมาฟังผล
ถ้ายังไม่ได้ก็นัดกันมาฟังอีก

ถ้านานเข้ายังไม่ได้ อาจจะมารอฟังทุกวัน
ไม่ได้กดดันนะ

ผูกเงื่อน แอบข้างหลัง สร้างความวุ่นวายไว้
แต่ตัวเองอยู่สบาย
โดนซะมั้ง


มองปรากฎการณ์ชาวเน็ตเสื้อแดงเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดาของฝ่ายประชาธิปไตย

คุณKittyPat กล่าวในบอร์ดประชาไท ว่า

นี่คือลักษณะของ Pure mob ครับ

การแตกต่างทางแนวความคิดเป็นไปได้เสมอ

ผิดกับม็อบจัดตั้งของพวกอำมาตย์ ที่สั่งซ้ายหัน ขวาหันได้

เพราะแกนนำและผู้จ้างวานมียุทธศาสตร์เดียวกัน คือ ล้มทักษิณและเครือข่าย

ยอมรับแนวคิดครับ

แต่ผมมองว่า การที่ออกมาไม้นี้ ก็เพราะไม่มีใครมีบารมีพออีกแล้วในประเทศนี้ที่จะนำประชาธิปไตยแบบไทยๆ มาสู่ประเทศได้ในช่วงเวลานี้

ไม่มีผู้นำคนไหนอีกแล้วที่พอจะต่อกรกับอำมาตย์ได้อย่างสูสี

ประชาธิปไตยบริสุทธิ์อาจมีอยู่จริง แต่นาทีนี้ จะเป็นไรไปเล่า หากเราได้อะไรที่ไม่ใช่อำมาตย์ไปก่อน

แล้วภาคประชาชนค่อยจับมือกันจัดการกับนักการเมืองชั่วกันต่อไป

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker