คอลัมน์ เหล็กใน
ข่าวที่ออกมา บ้างบอกว่านายอภิสิทธิ์ขอร้องให้นายเนวินถอนเรื่องการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันออกไป โดยอ้างว่าไม่อยากให้ขัดความรู้สึกของประชาชน
บ้างก็ว่า เป็นการเคลียร์ใจกัน หลังจากโครงการของภูมิใจไทยถูกเบรกใน ครม.หลายโครงการ
ล่าสุด ไฟแค้นการทวงบุญคุณก็เริ่มคุขึ้นอีก
เมื่อส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยออกมาแฉเบื้องลึกที่ยอมแยกออกจากพรรคเพื่อไทยมาร่วมกับประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาล เพราะประชาธิปัตย์รับปากว่าจะให้ทำการเมืองแทนในภาคอีสาน
แต่ถ้าไม่ยอมเทงบประมาณให้นำไปต่อสู้กับกระแส พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
ก็มีแต่จะกอดคอกันตาย
ทำให้นายอภิสิทธิ์ออกมาโต้ว่าถ้ากอดคอกันทำงานจะไม่มีวันตายแน่
นายสุเทพก็งัดคำเท่ออกมาอ้างว่างบประมาณมีไว้เพื่อชาติ ไม่ใช่เพื่อให้พรรคนำไปแบ่งกัน
ตามสไตล์พรรคประชาธิปัตย์ คงจะมีส.ส.และบรรดาสารพัดโฆษก รอท่าออกมาตอบโต้เรื่องนี้อีกหลายคน
นายสุเทพคงเห็นท่าไม่ดี เลยรีบกวักมือเรียกนายเนวินมาเคลียร์ก่อนจะบานปลาย
ผลการกินข้าว จะคุยรายละเอียดอะไรกันบ้าง ก็คงรู้กันเฉพาะในวงอาหาร
อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงาน รมว.มหาดไทย และน้องชายนายเนวิน ออกมาเปิดเผยว่า
ทั้ง 4 คนเห็นพ้องต้องกันว่าจะให้พรรคร่วมรัฐบาลกอดคอกันทำงานต่อไป อย่าแตกคอกันอย่างเด็ดขาด
แม้พรรคร่วมรัฐบาลจะแพ้เลือกตั้งซ่อมใน 2 จังหวัดที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องแพ้พ.ต.ท.ทักษิณอีกในการเลือกตั้งครั้งใหญ่
รัฐบาลยังมีเวลาอีกอย่างน้อยปีครึ่ง ที่จะพิสูจน์ผลงานเอาชนะใจประชาชน
การเลือกตั้งครั้งหน้า แค่พรรคร่วมรัฐบาลมีคะแนนเสียงเกินครึ่งแค่ 1 เสียงก็เพียงพอที่จะร่วมรัฐบาลกันอีก พรรคภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์จึงพร้อมจะกอดคอกันต่อไป
"ยังไงพรรคร่วมรัฐบาลต้องทนเป็นรัฐบาลกันต่อไป ทนบริหารเงิน 8 แสนล้านบาทและรองบประมาณปี 2553 อีกที่รออยู่ ก็ต้องทนกันไป" นายศักดิ์สยามระบุ
หลังเคลียร์กันจนสมประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว
ก็มีข่าวว่านายอภิสิทธิ์จะลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นจังหวัดแรก
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่ายอมพึ่งบารมีนายเนวิน เพื่อทำงานการเมือง
หลังจากพึ่งเงา "เทพเทือก" จนได้เป็นนายกฯ มาแล้ว