บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ยุบสภา

ที่มา ไทยรัฐ

กกต.ตีแสกหน้าประชาธิปัตย์พ้นสมาชิกภาพ 13 คน ถือหุ้นสัมปทานรัฐ "สุเทพ" เด้งรองนายกฯ นายกฯมึนตึ้บไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร แนวโน้มโอกาส "ยุบสภา" สูง

ข่าว "เขย่าขวด" สุดสัปดาห์นี้ สถานการณ์บ้านเมืองดูท่าจะวุ่นวาย เพราะมีหลายเรื่องหลายราวประเดประดังเข้ามาพร้อมๆกัน

รัฐบาลจะเอาตัวรอดได้หรือไม่...นี่คือปัญหา

การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ภูเก็ต ซึ่งมีการเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึกถึงขั้นต้องนำกฎหมายความมั่นคงมาประกาศใช้

เพราะกลัว "เสื้อแดง" จะมาปิดประตูตีแมวเหมือนที่พัทยา จึงต้องป้องกันอย่างเต็มที่ หากเกิดอีกครั้งก็ไม่ต้องพูดกันแล้ว

สู้อุตส่าห์หนีไปที่ภูเก็ตก็ยังไม่วาย

เหนืออื่นใด ปัญหาการเมืองที่รุมเร้าดูเหมือนว่าจะมีเรื่องใหญ่ที่ทำให้รัฐบาลต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งแน่

นั่นคือการที่ กกต.ลงมติฟันฉับให้รัฐมนตรี และ ส.ส.ต้องพ้นจากสมาชิกภาพ เนื่องจากถือหุ้นบริษัทสัมปทานรัฐ

13 คนของประชาธิปัตย์ถือว่ามีผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลอย่างแน่นอน

นอกจากนั้น มีเหลืออีกลอตหนึ่ง ซึ่งจะมีทั้ง ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน หาก ส.ส.รัฐบาลโดนเข้าไปอีกมันคงจะป่วนพิลึก

สำหรับประชาธิปัตย์มีนักการเมืองคนสำคัญก็คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง

ที่สำคัญคือตำแหน่งผู้จัดการรัฐบาล

อีก 2 คนที่ดังไม่น้อยกว่ากันคือ ดร. ไตรรงค์ สุวรรณคีรี นายจุติ ไกรฤกษ์ ซึ่งคนหลังนี้ผิดหวังกับเก้าอี้รัฐมนตรีมาแล้ว

แน่นอนว่า แม้จะยังต้องรอขั้นตอนคือให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีความผิดตามที่ กกต.ชี้หรือไม่ หากชี้ผิดก็เรียบร้อย รวมถึง 16 ส.ว. ที่กำลังจะมีการเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินสุดท้าย

อย่างไรก็ดี วุฒิสมาชิกกำลังหาวิธีการที่จะสู้อย่างสุดฤทธิ์เพื่อให้พ้นผิด ไล่ตั้งแต่ ประธานวุฒิสภาเลยทีเดียว

หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าผิดก็ต้องพ้นจากสมาชิกภาพ ซึ่งจะทำให้ต้องมีการเลือกตั้งและสรรหากันใหม่

นายกฯคงต้องประเมินสถานการณ์ว่าผลจะออกมาอย่างไร แม้หากจะสู้ต่อ หมายความว่าเลือกตั้งซ่อมแล้วรอฟังผลว่าจะเท่าเดิม หรือต้องสูญเสียที่นั่งอันจะทำให้มีผลกระทบต่อเสียงสนับสนุน

เพราะทุกวันนี้เสียงก็ปริ่มน้ำอยู่แล้ว ทำให้การประชุมสภาล่มมาหลายครั้ง และเป็นปัญหามาตลอด

ถ้าได้เท่าเดิม หรือน้อยกว่านิดหน่อยก็พอจะกล้อมแกล้มอยู่กันไปได้ แต่ถ้าหายไปเพราะแพ้เลือกตั้ง

มันจะยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่

นั่นก็หมายความว่าก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินนายกฯคงต้องตัดสินใจแล้วว่าจะเอาอย่างไรต่อไป

"ยุบสภา" หรือเชิดหน้าเป็นรัฐบาลต่อไป

เหนืออื่นใด ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของเวลา หากศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาในการพิจารณานานล่วงเลยไปถึงปลายปี

นั่นก็หมายความว่างบประมาณผ่านเรียบร้อย เงินกู้ 8 แสนล้านเรียบร้อย การโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการผ่านฉลุย เศรษฐกิจของประเทศฟื้นขึ้นมาจนเห็นเป็นรูปธรรม

โอกาสที่นายกฯจะยุบสภาก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินก็มีความเป็นไปได้ แม้ว่าประชาธิปัตย์ต้องการจะอยู่ยาวก็ตาม

แต่แม้ว่าจะอยู่ต่อไปก็คงจะบริหารประเทศด้วยความลำบากมากขึ้น เพราะการตีรวนและความยุ่งยากทางการเมือง

เรียกว่าเข้าทางเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มั่นใจว่ารัฐบาลคงอยู่ไม่รอดจนถึงปลายปีแน่ จึงเปิดเกมรุกทุกรูปแบบ

หมายเผด็จศึกให้ได้ ยิ่งรัฐบาลยังกุมสภาพไม่ได้ยิ่งอันตราย

สงสัยว่า "บุญ" จะมีแค่นี้เอง!!!

"ลิขิต จงสกุล"

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker